พระเครื่อง

เปิดประวัติ "หลวงพ่อโบ้ย" แห่งวัดมะนาว จังหวัดสุพรรณบุรี

เปิดประวัติ "หลวงพ่อโบ้ย" แห่งวัดมะนาว จังหวัดสุพรรณบุรี

31 พ.ค. 2565

เรื่องราวของอริยสงฆ์​เมืองสุพรรณบุรี​ ที่ถือสันโดษ เป็นที่เคารพรักของชาวบ้าน "หลวงพ่อโบ้ย" นับเป็นเกจิอาจารย์ชื่อดังอีกรูปหนึ่งที่มีพุทธคุณทางด้านแคล้วคลาด​ คงกระพัน​ ป้องกันภัยจากภยันตรายทั้งปวง

วิหารหลวงพ่อโบ้ย

หากคุณผู้อ่านมีโอกาสได้แวะเวียนผ่านมา จังหวัดสุพรรณบุรีแล้ว วัดมะนาว ถือเป็นอีกวัดหนึ่งที่ทุกคนควรหาโอกาสมาสักครั้ง วัดมะนาวตั้งอยู่ริมแม่น้ำท่าจีน ในเขตอำเภอเมืองอยู่ทางที่จะไปอำเภอบางปลาม้า วัดเก่าแก่แห่งหนึ่งที่มีบรรยากาศร่มรื่น เงียบสงบ ที่วัดแห่งนี้มีวิหารและพิพิธภัณฑ์หลวงพ่อโบ้ย ซึ่งภายในบรรจุพระเครื่องและของเก่า ที่เก็บไว้เพื่อให้คนรุ่นหลังได้ศึกษาเห็นถึงเรื่องราวในอดีต  วันนี้คมชัดลึกจึงขอนำเรื่องราวประวัติของหลวงพ่อโบ้ย มาเผยแผ่ให้กับพุทธศาสนิกชนได้รับรู้ถึงพุทธคุณและวัตถุมงคลที่หลวงพ่อโบ้ยสร้าง

 

 

 

หลวงพ่อโบ้ย

หลวงพ่อโบ้ย เกิดปีมะโรง พ.ศ. 2453 เป็นชาวบ้านสามหมื่น ตำบลบางปลาม้า อำเภอบางปลาม้า จังหวัดสุพรรณบุรี ต้นตระกูลของท่านเป็นชาวเวียงจันทร์ ที่อพยพเข้ามาตั้งแต่ครั้งปู่ ย่า ตา ทวด และได้เข้ามาตั้งรกรากอยู่ที่บ้านทัพตีเหล็ก จังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งชาวบ้านที่นี่ส่วนใหญ่ นอกจากจะมีอาชีพทำนาแล้ว ยังมีอาชีพตีเหล็กอีกด้วย หลวงพ่อโบ้ยอุปสมบทเมื่อ พ.ศ. 2455 เมื่ออายุได้ 21 ปี ที่วัดมะนาว หลังจากบวชแล้ว ท่านจำพรรษาที่วัดมะนาว โดยท่านได้ศึกษาพระธรรมวินัยอย่างแข็งขัน ทั้งภาษาบาลีและภาษาขอม พร้อมทั้งปฏิบัติตามพระธรรมวินัยอย่างเคร่งครัด

 

หลังจากที่ได้จำพรรษาที่วัดมะนาวได้ 3 พรรษา ท่านจึงออกเดินทางไปศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมทางด้านวิปัสนากรรมฐาน ที่วัดชีปะขาว หรือวัดศรีสุดาราม จังหัวดธนบุรี ขณะนั้น ในขณะที่ท่านศึกษาได้แต่ธรรมวินัย ส่วนภาาาบาลีและอักษรขอม รวมถึงการศึกษาสมถะวิปัสสนากรรมฐาน ท่านต้องเดินทางไปเรียนที่วัดอมรินทร์โฆสิตาราม เป็นอย่างนี้ทุกวัน ตลอดเวลา 8-9 ปี จากนั้นท่านจึงเดินทางกลับมาจำวัดที่วัดมะนาวราวปี พ.ศ. 2465- 2466

 

เปิดประวัติ \"หลวงพ่อโบ้ย\" แห่งวัดมะนาว จังหวัดสุพรรณบุรี

 

ต่อมาท่านทราบว่า หลวงพ่อปานวัดบางนมโค จังหวัดอยุธยา ซึ่งเป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อเนียน  วัดน้อย จ.สุพรรณบุรี มีความรู้ ความสามารถในทางวิปัสสนากรรมฐาน ท่านจึงเดินทางไปหาหลวงพ่อปาน และได้ศึกษาอยู่ที่วัดบางนมโคถึง 1 ปี ท่านจึงเดินทางกลับมาที่วัดอู่ทอง อ.บางปลาม้า ซึ่งเป็นวัดที่ใกล้บ้านเกิดของท่าน ในปี พ.ศ.2467

 

รูปเหมือนหลวงพ่อโบ้ย

 

เมื่อตอนที่หลวงพ่อโบ้ยได้ศึกษาพระธรรมวินัย อยู่ที่จ.ธนบุรี อยู่นั้น หลวงพ่อจะจารคัมภีร์ทุกวัน และเมื่อท่านกลับมาที่สุพรรณบุรีอีกครั้งท่านได้นำใบลานที่จารไว้กลับมาด้วยโดยนำไปไว้ที่วัดอู่ทอง ตามประวัติ หลวงพ่อโบ้ย ได้เริ่มส้รางพระเครื่องตั้งแต่ท่านจำพรรษาอยู่ที่วัดอู่ทองแต่ไม่ทราบแน่ชัดว่าเป็นพระพิมพ์ใด อย่างไรก็ตามท่านอยู่ที่วัดอู่ทองได้ไม่นานก็ย้ายกลับมาจำพรรษาต่อที่วัดมะนาว

 

เปิดประวัติ \"หลวงพ่อโบ้ย\" แห่งวัดมะนาว จังหวัดสุพรรณบุรี

 

กิจวัตรประจำวันของหลวงพ่อ ท่านจะตื่นแต่เช้ามืด ครองจีวรแล้ว สวดมนต์ไหว้พระจนฟ้าสาง จึงออกบิณฑบาต เมื่อกลับมายังวัดท่านจะขอให้พระทั้งวัดยืนเข้าแถว แล้วท่านก็ตักข้าวในบาตรของท่านใส่บาตรพระทุกรูป หลังจากฉันจังหันเช้าเสร็จ ท่านก็จะออกไปกวาดลานวัดหน้าโบสถ์ เป็นกิจวัตรที่ท่านถือปฏิบัติเป็นประจำ หลวงพ่อโบ้ยจะจำวัดเพียง 2-3 ชั่วโมงเท่านั้นเพราะในช่วงค่ำจนถึงกลางคืน ท่านจะให้เวลาส่วนใหญ่กับการสร้างพระเครื่องของท่าน

 

พระพิมพ์สมเด็จปรกโพธิ์  ภาพทินนี่ สุพรรณ

พระพิมพ์สมเด็จปรกโพธิ์ ภาพทินนี่ สุพรรณ

 

หลวงพ่อโบ้ยสร้างพระเครื่องอย่างจริงจังเมื่อปี พ.ศ.2473 โดยตัวท่านและลูกศิษย์ จะไปบอกบุญเรี่ยไรวัสดุที่เป็นโลหะที่ไม่ได้ใช้ หรือเสียหายแล้ว จากชาวบ้าน เช่น ทองแดง ทองเหลือง ขันลงหิน เชี่ยนหมาก โตก ขัน พาน เป็นต้น เพื่อใช้เป็นมวลสารหลักในการสร้างพระเครื่องของท่าน เมื่อชาวบ้านทราบข่าวว่าหลวงพ่อจะมาเรี่ยไร ก็จะนำวัสดุเหล่านี้ออกมาทำบุญกัน ในการเดินทางไปเรี่ยไรวัสดุส่วนใหญ่ ท่านใช้เรือเป็นพาหนะ เพราะวัดมะนาวติดกับแม่น้ำท่าจีน ทางทิศตะวันตก ในสมัยก่อนการเดินทางโดยเรือ ถือว่าเป็นทางหลักในการคมนาคม

 

พระพิมพ์ขุนแผนจักรนารายณ์ ภาพทินนี่ สุพรรณ

พระพิมพ์ขุนแผนจักรนารายณ์ ภาพทินนี่ สุพรรณ

 

หลวงพ่อโบ้ย มักเดินทางไปเรี่ยไรวัสดุในละแวกใกล้เคียงเท่านั้นจะมีไปไกลบ้างอย่างตลาดบางลี่ (ตลาดสองพี่น้อง) และบ้านใดบริจาควัสดุท่านก็จะจดเอาไว้ หลังจากพระเครื่องเสร็จเรียบร้อย แล้ว ท่านจะนำพระเครื่องส่วนหนึ่งที่ปลุกเสกแล้ว ไปแจกคืนให้กับญาตโยมที่ร่วมกันบริจาควัสดุ

 

พระพิมพ์มเหศวร ภาพทินนี่ สุพรรณ

พระพิมพ์มเหศวร ภาพทินนี่ สุพรรณ


การแจกพระเครื่องของหลวงพ่อโบ้ย นั้นท่านจะแจกให้กับทุกคนที่มีจิตศรัทธา ไม่แบ่งชั้นวรรณะ เมื่อมีข่าวแพร่ออกไปว่าท่านแจกพระฟรีโดยไม่คิดมูลค่า ทำให้ประชาชนที่รู้ข่าวต่างทยอยมารับพระจากท่านเป็นจำนวนมาก ส่วนประชาชนคนไหนที่อยากถวาบปัจจัยร่วมบุญ ท่านก็จะให้ไปถวายกับเจ้าอาวาสแทน เพราะจุดประสงค์ของท่านคือ การสร้างพระเครื่องเพื่อแจกให้ไปบูชาเท่านั้น ดังนั้นพระเครื่องของท่านจึงนับว่าเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย ออกไปสู่ประชาชนทั่วประเทศ

 

เปิดประวัติ \"หลวงพ่อโบ้ย\" แห่งวัดมะนาว จังหวัดสุพรรณบุรี

 

หลวงพ่อโบ้ย เป็นพระเถระที่มากด้วยเมตตา มักน้อย ถือสันโดษ มีพลังจิตที่เข้มขลัง อาคมที่แก่กล้า ท่านไม่ยึดติในสมณะศักดิ์ แม้นแต่ตำแหน่งเจ้าอาวาสท่านก็ไม่ยอมรับ วัตถุมงคลของท่านเกิดจากความบริสุทธิ์ในการสร้าง ประกอบกับอิทธิบารมีของหลวงพ่อที่เปี่ยมไปด้วยศีลธรรมและเวทย์วิทยาคมอันบริสุทธิ์ จึงทำให้ผู้ที่มีวัตถุมงคลของท่ายบูชาไว้เกิดประสบการณ์มากมาย วัตถุมงคลของหลวงพ่อโบ้ย มีพุทธคุณในทางแคล้วคลาดปลอดภัย คงกระพันชาตรีเป้นหลัก

 

เปิดประวัติ \"หลวงพ่อโบ้ย\" แห่งวัดมะนาว จังหวัดสุพรรณบุรี

ตามประวัติแล้ว ไม่มีใครรู้ชื่อและฉายาของหลวงพ่อ ไม่มีปรากฏที่ไหนเลย ชาวบ้านได้แต่เรียก "หลวงพ่อโบ้ย" ติดปากมาโดยตลอด หลวงพ่อโบ้ย มรณะภาพ วันที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2508 สิริอายุรวม 73 ปี 52 พรรษา

 

 

ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก ทินนี่ สุพรรณ