อ่านข้อคิดธรรมะ ของ ครูบาบุญชุ่ม จากการบำเพ็ญในถ้ำ
ชวนอ่าน ธรรมะ จาก ครูบาเจ้าบุญชุ่ม ญาณสํวโร อรัญวาสีภิกขุ พระเถราจารย์ตนบุญ ผู้ได้รับศรัทธาจากทั้งไทย และ ประเทศเพื่อนบ้าน
ครูบาเจ้าบุญชุ่ม ญาณสํวโร อรัญวาสีภิกขุ ถือได้ว่า เป็นตนบุญ ในยุคปัจจุบัน ที่ผู้คนรู้จัก ทราบเรื่องราว และได้เห็นวัตรปฏิบัติ ที่เรียกว่า เข้มข้น จริงจัง และชัดเจน ถึงในขณะนี้ เหลือเวลา 25 วัน จะถึงเวลาการออกจากถ้ำเมืองแก๊ด รัฐฉาน เมียนมา ของครูบาบุญชุ่ม หลังตั้งสัจจะปิดวาจา บำเพ็ญเพียรเป็นเวลา 3 ปี และครบกำหนด 31 กรกฏาคมนี้
ก่อนจะถึงวันอันเป็นมหามงคลนั้น ทีมข่าวพระเครื่องคมชัดลึก จึงได้ขอนำข้อธรรมะของ ครูบาบุญชุ่ม ซึ่งเป็นธรรมะ จากการบำเพ็ญเพียรในถ้ำมหาโพธิสัตว์ราชคฤห์ อ.งาว จ.ลำปาง ในยช่วงปี 2550 -2553 มาเป็นเครื่องเตือนจิตใจ และแนวทางการใช้ชีวิต โดยข้อคติธรรมะ ทั้งหมดที่นำมาเผยแพร่นี้ จะเป็นลักษณะ ข้อความสั้น ซึ่งจะคล้ายกับ โศลก ที่นิยมเขียนกันแพร่หลายในพระสายมหายาน สายทิเบต
ข้อธรรมอันเป็นคติสอนใจเพื่อให้ผู้ปฏิบัติธรรมได้ทราบไว้เป็นแนวทางบำเพ็ญจิตเข้าสู่พระนิพพาน ดังนี้
• ยิ่งคิดยิ่งไม่รู้ ยิ่งดูยิ่งไม่เห็น ยิ่งทำยิ่งไม่เป็น ธรรมะนี้เหมือนเส้นผมบังภูเขา เมื่อหยุดทำ หยุดคิด หยุดดู แล้วธรรมสภาวะจะเกิดขึ้นเอง สำคัญอยู่ที่จิตดวงเดียว
• อันว่าความทุกข์สุขอยู่ที่ใจมิใช่หรือ ถ้าใจยึดถือเป็นทุกข์ไม่สุกใส ถ้าใจไม่ยึดถือก็สุขไม่ทุกข์ใจ อะไรๆ สำคัญอยู่ที่ใจของเราเอย
• ฉันมองดูแต่ไม่มีผู้เห็น ฉันฟังอยู่ไม่มีผู้ได้ยิน ฉันดมอยู่แต่ไม่มีผู้ใดกลิ่น ฉันกินอยู่แต่ไม่มีผู้ได้รส ฉันถูกต้องแต่ไม่มีผู้ได้สัมผัส ฉันคิดอยู่แต่ไม่มีผู้คิด ฉันทำงานทุกอย่างแต่ไม่มีผู้ทำ ฉันพูดอยู่แต่ไม่มีผู้พูด ฉันเดินอยู่แต่ไม่มีผู้เดิน ธรรมสภาวะนี้ใครได้สัมผัสรู้ไม่ต้องกลับมาเกิดอีกต่อไป ดังเส้นผมบังภูเขา ถ้าหมดความอยากก็หมดทุกข์
นกบินไปในฟ้าไม่เห็นอากาศ ปลาว่ายแหวกอยู่ในน้ำไม่เห็นน้ำ ไส้เดือนกินดินไม่เห็นดิน คนอยู่กับทุกข์ไม่เห็นทุกข์
•เมื่อแบกก็หนักเมื่อวางก็เบา ไม่คิดถึงปรุงแต่งไปตามอารมณ์ทั้งห้า จิตก็สงบสบายไร้กังวล
• ไม่ห่วงข้างหลัง ไม่ห่วงข้างหน้า เฝ้าดูจิตปัจจุบัน มีสติทุกเมื่อเป็นทางนิพพาน
• จงดับความโลภ โกรธ หลงให้ได้ในปัจจุบัน เพื่อความดับไปแห่งกองทุกข์ทั้งหลายดังนี้แล
•ไม่ดูแล้วเมื่อไรจะได้เห็น ไม่ฟังแล้วเมื่อใดจะรู้ ไม่ทำแล้วเมื่อไรจะเป็น ไม่เดินแล้วเมื่อใดจะถึง จงตั้งจิตปฏิบัติวิปัสสนาตั้งแต่ในวันนี้ จะได้ไม่ต้องเป็นทุกข์อยู่ร่ำไป
• ยารักษาความโลภหมั่นให้ทาน ยารักษาความโกรธให้รักษาศีล มีจิตเมตตา ยารักษาความหลงให้หมั่นภาวนาวิปัสสนา
• จงเอาสตินำหน้าเหมือนนายเรือจับหางเสือ จงเอาปัญญาเป็นประทีปนำทาง เอาความเพียรเป็นเสบียงอาหาร เอาธรรมสติปัฏฐานเป็นแพข้ามฟาก เอาความสงบกิเลสเป็นนิพพาน
• ดูกายให้เห็นกาย ดูเวทนาให้เห็นเวทนา ดูจิตให้เห็นจิต ดูธรรมให้เห็นธรรม ไม่มี ไม่เอา ไม่ได้ ไม่เป็น ปล่อยวางทุกอย่างแล้วก็สบายใจ
•อันความสุขทางโลกมีอยู่ชั่วคราว ความสุขยืนยาวต้องเข้าหาพระธรรม ความสุขอยู่ไม่ไกลเมื่อใจเรามีสติทุกเมื่อ
• ธรรมะของจริงอยู่ในกาย กว้างศอก ยาววา หนาคืบ นี้ มีให้เราเห็นทุกๆ อย่างในกายนครนี้ ใครหมั่นพิจารณาจะได้เข้าสู่นิพพานเอย
• กินน้อยตายยาก กินมากตายง่าย ไม่กินเลยก็ตาย ให้เดินทางสายกลางเป็นทางนิพพาน
• ในตัวคนเรามีแต่ขี้ทั้งนั้น นับตั้งแต่หัวถึงเท้าเป็นขี้หมด มีขี้รังแค ขี้ตา ขี้หู ขี้มูก ขี้ฟัน ขี้เล็บ ขี้ไคล ขี้ในท้องแล้วยังไม่พอยังมีขี้ในใจอีก ขี้เกียจ ขี้กลัว ขี้ลัก ขี้หึง ขี้เอา มีแต่ขี้ทั้งนั้นนับไม่ถ้วน ให้พิจารณาให้เกิดความเบื่อหน่าย หายความรักความชังเสียเถิด แล้วจะเกิดปัญญาก็เกิดขึ้นมาเอง