รู้จัก เครื่องรางของขลัง เสริมเสน่ห์เมตตา " หนังกลองเพลแตก " | คมชัดลึก

เครื่องรางของขลัง ในทางความเชื่อ นั้น นอกเหนือจาก เครื่องรางที่สรรสร้าง จากการรวบรวม วัตถุอาถรรพ์ เสกสร้าง ได้มาจากธรรมชาติ ยังมีเครื่องรางของขลัง บางประเภท ที่สร้างขึ้นจากของใช้ในวัดวาอาราม ที่เชื่อในอำนาจพลัง จะทำให้มีเมตตามหานิยม มีชื่อเสียงโด่งดัง นั่นคือ กลองเพล และเป็น กลองเพล ที่ได้ชำรุด จากการใช้งาน หรือ ที่เรียกว่า กลองเพลแตก 

สำหรับ กลองเพล นั้น  คือ กลองขนาดใหญ่ ใช้ตีเป็นสัญญาณบอกเวลา เพื่อภิกษุสามเณรได้ฉันเพล โบราณคณาจารย์ ท่านกล่าวว่า เสียงกลองเป็นเสียงที่มีอำนาจ ตีแล้วสามารถดังไปในระยะไกลมากการตีกลองจึงการสื่อสารระหว่างชาวบ้านและพระภิกษุ สามเณร การตีกลองเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า นานนับสิบปียี่สิบปี จึงทำให้กลองนั้นมีความขลังในตัวเอง หนังกลองที่จะนำเอามาทำเป็นเครื่องรางได้ จะต้องเป็นหนังกลองที่ตีจนแตกเท่านั้น จึงถือว่าเป็นวัตถุอาถรรพ์ที่ขลังในตัวเอง

ในส่วนของขั้นตอนและวิธีการจัดสร้าง หนังกลองเพล ตามโบราณมานั้น จะมีขั้นตอน เท่าที่สามารถรวบรวมข้อมูลได้ดังนี้ คือ 

1.จัดตั้งเครื่องบูชาครูด้วยขันธ์ 5 หรือ ขันธ์ 8 พร้อมเงินค่ากำนัล เครื่องบูชาได้แก่ กล้วยหักมุก กล้วยนาไท มะพร้าวอ่อน ขนมนมเนย ดอกไม้เจ็ดสี ใช้ผ้าขาวรองขัน

2.เตรียมแผ่นหนัง กลองเพลแตก ที่ตัดแล้วให้มีขนาดพอควร แล้วนำมาไปแช่น้ำว่าน 108 ที่หลวงปู่ท่านเป็นผู้ดำริให้จัดหาตามตำราโบราณโดยจะใช้เวลาแช่นานตามฤกษ์ยาม ตามกำหนดเวลา
 

3.นำ หนังกลองเพล ที่แช่น้ำว่าน 108 ขึ้นมาแล้วลงอักขระขอมโบราณทับอีกครั้งหนึ่ง โดยหมึกมีส่วนผสมของ น้ำมันจันทน์ และสีผึ้งที่หุงขึ้นในวันเพ็ญ ในการเขียนจะต้องมีการสวดพระคาถากำกับไปด้วย

4.เมื่อเขียนเสร็จแล้วจึงนำไปชุบน้ำว่าน 108 ซึ่งว่านนี้เรียกว่า พญาว่านซึ่งเกิดกลางตอไม้เท่านั้นจึงจะใช้ได้ ซึ่งสรรพคุณพญาว่านนั้นมีพุทธคุณด้านเมตตามหานิยม และสามารถป้องกันคุณไสย สายสำเร็จลุนวัตถุมงคลของแปลกที่หายากและสร้างยาก

หนังกลองเพลแตก เป็นหนึ่งในวิชาการสร้างเครื่องรางจากหนังกลองตามโบราณศาสตร์สายของสมเด็จลุนประเทศลาว ซึ่งครูบาอาจารย์ท่านมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างไว้เป็นเครื่องรางมหาลาภ มหามงคลเรียกคนเข้าหา เป็นที่รักใคร่ มีชื่อเสียงกึกก้อง มีเสน่ห์ในวาสนาดวงชะตา ถือเป็นสุดยอดแห่งเครื่องรางด้านเมตตามหานิยม  กลองเพล มีไว้เพื่อตีเรียกพระเณรฉันเพล จึงมีความเชื่อว่าไม่อดไม่อยากและเสียงกลองนี้ยังเป็นเครื่องบอกเวลา ใช้ตีบอกเวลาในสมัยโบราณก่อนที่จะใช้นาฬิกา จึงเป็นเครื่องหมายให้ทุกคนได้ทำกิจกรรมต่างๆในแต่ละวันตามเสียง กลองเพล และอย่างยิ่งในวันโกนวันพระ จะรู้จากการตีกลองเป็นสัญญาณเวลาหลายสิบปีกว่าจะแตกสักลูก
 

ดังนั้น ความเข้มขลังในตัว ความดังกังวานนับวันผสานกับคุณศีลคุณธรรมของพระสงฆ์ ไม่ต้องกล่าวถึงว่าจะสุดยอดปานใด ยิ่งกว่านั้นสมัยนี้จะหาหนังกลองที่ไหนอีก เป็นของอาถรรพ์ที่ฉมังนัก นำมาปลุกเสกตามสูตรพิธีแล้วจักเข้มขลังยิ่งนักตำราโบราณและคำกล่าวของครูอาจารย์ท่านว่า

ใครมี ตะกรุดหนังกลองแตก จะบังเกิดเมตตามหานิยม เป็นที่นิยมรักใคร่แก่ผู้พบเห็น มีเสน่ห์ต่อเพศตรงข้าม เรียกผู้คนเข้ามาหา ชีวิตไม่มีอับจน ทำให้มีชื่อเสียงโด่งดัง เจรจาว่าความมิแพ้ใครๆ สนทนาว่างานฝ่ายตรงข้ามถึงกับงงงวย เคลิ้มคำพูดในวาจา มากมีด้วยลาภสักการะ พบโชคพบลาภลอยมาแบบลาภจอนๆตลอดเวลา เป็นที่นิยมมากโดยเฉพาะอาชีพนักร้อง นักแสดง นักขายเจ้าของกิจการร้านค้าต่าง ๆ เสาะหาบูชากัน และยังมีนักการเมืองท้องถิ่น ครู- อาจารย์ ข้าราชการ เป็นต้น