พระเครื่อง

ชั่วโมงเซียน-พุทธคุณแห่งเทพเจ้า

ชั่วโมงเซียน-พุทธคุณแห่งเทพเจ้า

23 ส.ค. 2553

การค้นพบพระเครื่องกรุต่างๆ ในอดีตนั้น สิ่งหนึ่งที่มักพบคู่กับพระเครื่องพระบูชา คือ เทพ เทวรูป ของศาสนาพราหมณ์ฮินดู เช่น กรุหนองแจง กรุในเมืองลพบุรี สุพรรณบุรี รวมทั้งกรุนครราชสีมา เป็นต้น ซึ่งมีค่านิยมพอๆ กับพระเครื่องพระบูชาที่พบในกรุนั้นๆ

เช่น พระศิวะ พระนารายณ์ พระพรหม พระแม่อุมาปัญญาบารมี พระพิฆเนศฯ ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในหมู่มวลมนุษย์มาช้านานกว่าพันปี ทุกพระองค์เชื่อกันว่ามีอิทธิฤทธิ์มากจนเหลือคณานับ เทวรูปเหล่านี้เป็นของที่ค่อนข้างหายาก มีวนเวียนเช่าซื้อในแวดวงพระเครื่องน้อยมาก ทั้งนี้เทวรูปแต่ละองค์ต่างมีพุทธคุณที่น่าสนใจดังนี้

 พระศิวะ มหาเทพผู้เป็นใหญ่ในจักรวาล ทรงเป็นหนึ่งในตรีมูรติ หรือ ๓ มหาเทพสูงสุดแห่งศาสนาพราหมณ์-ฮินดู (พระพรหม พระนารายณ์  พระศิวะ) พระองค์เปี่ยมไปด้วยอำนาจอันยิ่งใหญ่ พระพักตร์ของพระองค์แสดงให้เห็นว่าเป็นทั้งชาย เป็นทั้งหญิง เป็นทั้งผู้ใจดี เป็นทั้งผู้ดุร้าย พระศิวะประทับอยู่บนยอดเขาไกรลาส อาวุธที่ถือได้ว่าเป็นเอกลักษณ์ของพระองค์นั้น คือ คทา ชื่อ ชัฏวางค์ตรีศูล มีพาหนะเป็นโคเผือก

 พระองค์ประทานพรวิเศษให้แก่ผู้หมั่นกระทำความดี และยึดมั่นในศีลธรรม หากผู้ใดประพฤติเพื่ออุทิศถวายแด่พระองค์แล้วปรารถนาสิ่งวิเศษใดๆ พระองค์ก็จะประทานพรนั้นๆ ให้สำเร็จสมปรารถนา หากผู้ใดที่เจ็บป่วย หรือต้องการขอพรให้คนในครอบครัวหายเจ็บไข้ได้ป่วย นอกจากนี้แล้ว ยังเป็นเทพที่จะอำนวยพรประทานความอุดมสมบูรณ์ให้แก่ผู้ที่มีอาชีพเลี้ยงวัว เลี้ยงม้า หรือเลี้ยงแกะ และอาชีพที่เกี่ยวกับการเกษตรทั้งปวง ก็จะมีความสำเร็จและมีความสมบูรณ์พูนสุข

 ถ้ากระทำการบวงสรวงบูชา และขอพรจากพระศิวะ ก็มักปรากฏว่าความเจ็บไข้ได้ป่วยนั้นถูกปัดเป่ารักษาเยียวยาอาการเจ็บไข้ได้ป่วยต่างๆ ให้หายไปได้โดยสิ้นในเร็ววัน  พระศิวะ พระองค์เป็นเทพที่จะคอยขับไล่สิ่งชั่วร้ายให้ห่างไกล และทำให้เกิดความดีงาม  เป็นสิริมงคลเกิดขึ้น ผู้ที่มีความทุกข์ ไม่ว่าจะเป็นในทางใด หากบวงสรวงบูชา ขอพรให้พ้นทุกข์ พระศิวะก็จะประทานพรให้ผู้นั้นได้พ้นจากห้วงแห่งความทุกข์ด้วยเช่นกัน                                                                
       พระนารายณ์ หรือ พระวิษณุ มหาเทพผู้รักษาคุ้มครองโลก มีหน้าที่ดูแลทั้งสามโลกให้อยู่ในความเรียบร้อย และสมดุล หมายถึง ผู้ที่ได้เคลื่อนไหวอยู่ในน้ำ คือ กำลังบรรทมอยู่เหนือหลังพญานาคราช เป็นมหาเทพที่มีหน้าที่รักษาโลกให้อยู่ร่มเย็นเป็นสุข ในขณะที่สร้างโลก พระนารายณ์จะอวตาร เพื่อจะลงมาช่วยปราบยุคเข็ญในโลก โดยพระองค์อวตารเป็นจำนวนมากถึง ๑๐ ครั้ง ได้แก่ อวตารเป็น ปลา เต่า หมูป่า นรสิงห์ พราหมณ์ถือขวานเพชร พราหมณ์เตี้ย พระราม พระกฤษณะ พระพุทธเจ้า บุรุษที่ชือกัลลี

 พระนารายณ์มี ๔ กร ทรงถือคฑา สังข์ จักร และดอกบัว มีพาหนะเป็นพญาครุฑ มีพระชายา คือ พระนางลักษมี เทวีแห่งความมั่งคั่ง และเทวีแห่งความดีงาม มักปรากฏให้ประจักษ์ในรูปกายอันงดงามที่สุด ฉลองพระองค์ด้วยอาภรณ์สดใส สว่างราวกับทองคำ เรือนร่างประดับด้วยเครื่องอาภรณ์อันวิจิตรตระการตา มีความอ่อนโยน ยิ้มแย้มอยู่เสมอ พระองค์โปรดการเอื้อเฟื้อ โปรดการมอบความสุขแก่มวลมนุษย์ พระองค์เป็นสัญลักษณ์แห่งความภูมิฐาน และการชนะทุกสิ่ง เป็นผู้ประทานแสงสว่างส่องกระจายไปยังทุกสากลโลก ทรงล่วงรู้ความเป็นไปทุกอย่าง ทรงล่วงรู้ความนึกคิดภายในจิตใจของสรรพชีวิต ทรงตัดสินปัญหาด้วยสำนึกอันสูงสุดแห่งพระเป็นเจ้า ทรงขจัดบาป ขจัดความขัดข้องต่างๆ   และเมื่อเราขอพรเราต้องระลึกนึกถึงพระองค์ พรที่เราขอนั้นก็จะสัมฤทธิ์ผลตามที่ต้องการ

 พระพรหม มหาเทพผู้สร้างจักรวาลและโลก มีหน้าที่สร้างและลิขิตสรรพสิ่งทั้งปวงในทั้งสามโลก พระองค์เป็นผู้สร้างของทุกสิ่งทุกอย่างให้เกิดขึ้นบนโลก พระองค์ทรงเป็นผู้ให้ที่สำคัญ และเป็นผู้กำหนดโชคชะตาของมนุษย์ มี ๔ พระพักตร์ พระกร ๔ ข้าง ถือ คทา  ลูกประคำ หม้อน้ำ หรือคันศร ประทับอยู่บนอาสน์บัวบาน และทรงหงส์เป็นพาหนะ มีพระชายา คือ พระสุรัสวดี ผู้ซึ่งเป็นเทวีแห่งภาษาและความรู้

เทพแห่งความเมตตาและศิลปะ

 พระแม่อุมาปัญญาบารมี เทพแห่งความเมตตา เป็นชายาแห่ง พระศิวะ มหาเทพผู้ทำลายสรรพสิ่งที่ไม่ดี พระแม่อุมาจึงเป็น ๑ ใน ๓ แห่งพระตรีศักติ ด้วย (ตรีศักติ หมายถึง พระแม่ทั้งสาม ได้แก่ พระแม่อุมา พระแม่ลักษมี พระแม่สรัสวตี) มีลักษณะพิเศษ คือ มี ๒ ภาคอยู่ในร่างเดียวกัน ได้แก่ พระแม่อุมาปัญญาบารมี หรือ นางปารพตี โดยจะมีความเรียบร้อย และความเมตตา ส่วนอีกภาคหนึ่งจะมีลักษณะดูโหดร้ายรุนแรง เรียกท่านว่า เจ้าแม่กาลี หรือนางทุรคา ด้วยเหตุที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะเกิดมาจากการที่มีเหล่าเทพได้พากันมาช่วยชุบขึ้นเพื่อช่วยกันปราบอสูร  

 พระแม่อุมาปัญญาบารมี เป็นเทวีแห่งอำนาจวาสนา และบารมีอันสูงสุด พระองค์ประทานยศถาบรรดาศักดิ์ และความเป็นใหญ่แก่ผู้หมั่นบูชาต่อพระองค์อย่างสม่ำเสมอ  อำนาจแห่งพระแม่อุมานั้น ยิ่งใหญ่หาสิ่งใดเทียบได้ พระองค์ประทานชัยชนะเหนือศัตรู    ประทานกำลังวังชาแห่งอิสตรี ทำลายสิ่งชั่วช้า ตลอดจนประทานบริวาร และอำนาจในการปกครอง พระองค์ยังประทานพรด้านความสมบูรณ์ ความอิ่มเอม ความผาสุกในการครองเรือน มีครอบครัวที่เปี่ยมสุข ตลอดจนการคุ้มครองผู้ศรัทธาให้ปลอดภัยจากภยันตรายทั้งปวง

 พระพิฆเนศ เทพแห่งศิลปะวิทยาการ และเทพแห่งความสำเร็จ เจ้าแห่งสติปัญญาและมีอํานาจเหนืออุปสรรคทั้งปวง เป็นพระโอรสของพระศิวะ และพระแม่อุมาปัญญาบารมี เป็นพระเชษฐาของพระขันธกุมาร โดยมีเศียรลักษณะเป็นช้าง ตัวแทนแห่งเทพแห่งศิลปะวิทยาการ และเทพแห่งความสำเร็จ ทรงหนูเป็นพาหนะ ไม่ว่าจะทําพิธีกรรมใดๆ ในการบูชาเทพเจ้าทั้งหลายในศาสนาพราหมณ์จะต้องบูชาท่านก่อนเทพองค์อื่น มิเช่นนั้นในการประกอบพิธีต่างๆ จะถือว่าพิธีนั้นไม่มีผลใดๆ ทั้งสิ้น

 พระพิฆเนศเป็นที่เคารพบูชาของผู้ที่ทํางานเกี่ยวกับศิลปะ ท่านเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจและสติปัญญาในด้านความคิด และฝีมือในการทํางาน ยังรวมถึงทางด้านการค้า การศึกษา ความมั่นคงยั่งยืน และในด้านความรักอีกด้วย เพราะฉะนั้นผู้ที่บูชาองค์พระพิฆเนศจะต้องเชื่อมั่น และทําคุณงามความดี โดยที่ให้นึกถึงท่านก่อนเสมอ แล้วความสําเร็จจะมา ตามที่ต้องการ

 เทพทุกพระองค์ ล้วนแต่ประทานพรให้ผู้ที่มีจิตศรัทธา และสักการบูชาในตัวท่าน ให้มีแต่โชค แต่ลาภ โภคทรัพย์ พ้นทุกข์ ประสบแต่ความสุข ความเจริญ  พบแสงสว่าง มีแต่ความรุ่งเรืองตลอดไป


นุ   เพชรรัตน์