
สร้างโบสถ์สร้างพระประธานเรื่องของ...พลังศรัทธาคติความเชื่อ และฤกษ์ยาม
"บุญสร้างโบสถ์ บุญสร้างวิหาร และบุญสร้างพระประธาน" เป็นบุญที่พุทธศาสนิกชนนิยมทำอันดับต้นๆ ด้วยเหตุผลที่ว่า อุโบสถ หรือโบสถ์ สถานที่ที่จะต้องใช้เพื่อการทำสังฆกรรมสำคัญๆ หลายอย่างอาทิ การให้การอุปสมบทแก่กุลบุตร การสวดทำอัพภานกรรม การสวดญัตติทุติยกรรมวาจา กา
ขณะเดียวกัน โบสถ์ที่สร้างขึ้นทุกวันนี้คณะสงฆ์สามารถใช้ให้เป็นประโยชน์ได้หลายอย่าง คือเป็นอาคารอเนกประสงค์ รวมทั้งใช้เป็นที่ประชุมที่แสดงธรรม ที่ฝึกอบรมสมาธิภาวนา ที่สวดมนต์ทำวัตรเช้าค่ำ และที่พักอาศัยชั่วคราว สำหรับต้อนรับพระอาคันตุกะเป็นต้น
พระราชธรรมวาที(ชัยวัฒน์ ธมฺมวฑฺฒโน) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสพระอารามหลวง และพระนักเทศน์ชื่อดังจากวัดประยุรวงศาวาส เขตธนบุรี กทม. บอกว่า เหตุที่พุทธศาสนิกชนชอบทำบุญสร้างพระประธานนั้นตรงกับบาลีที่ว่า ผู้บูชาสักการะนมัสการ ปฏิมา โพธิรุกขา ถูปาจะชินะธาตุยา จตุราสีติ สหัสสธัมมักขันธาสุเหสิตา ก็ได้ชื่อว่ากตัญญูกตเวทีต่อองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งหมายถึง ๑.พุทธปฏิมากร ๒.ไม้พระมหาโพธิ์ที่นั่งตรัสรู้ ๓.พระสถูปเจดีย์ที่บรรจุเครื่องพุทธโภค และอุทเทศเจดีย์ที่ทำเทียมไว้ ๔.พระสารีริกธาตุของพระศาสดา คือกระดูกของพระพุทธเจ้า และ ๕.พระคัมภีร์ที่บรรจุพระธรรมขันธ์ แปดหมื่นสี่พันพระธรรมขันธ์ วัตถุทั้ง ๕ ประการนี้ เป็นที่สมควรสักการบูชาของผู้ที่มุ่งหมายนับถือ เป็นบุญกิริยาวัตถุ ๑๐
เพราะฉะนั้นผู้ที่สร้างโบสถ์ถวายพระสงฆ์จึงได้บุญกุศลมากมาย ทั้งชาตินี้และชาติหน้า กล่าวคือ ชาตินี้ผู้มีศีลเป็นพื้นฐานที่ถวายโรงอุโบสถ ย่อมได้ความปลื้มปีติสุขอย่างสูง เมื่อได้ทราบว่า พระสงฆ์ได้ใช้โรงอุโบสถที่ตนสร้างถวายอย่างคุ้มค่า เกียรติคุณของผู้ถวายย่อมฟุ้งขจรไกล ผู้ถวายย่อมได้สดับพระธรรมเทศนา เพิ่มพูน ศีล สมาธิ ปัญญา ทำให้จิตใจสะอาด สว่างสงบสุขได้มากขึ้น แม้จะสิ้นชีพก็ไม่หลงทำกาลกิริยา (ตาย) ย่อมมีอารมณ์ยึดมั่นในกุศลเป็นอาสันนกรรมที่ดี ชาติหน้า ถ้าผู้ถวายโรงอุโบสถ ยังมีกิเลสอยู่ถึงแก่กรรมลง เขาย่อมได้ไปเกิดในกำเนิดที่ดี มีความสะดวกสบาย ที่เรียกว่า สุคติโลกสวรรค์ อันเพียบพร้อมด้วยสิ่งที่ประเสริฐ ที่พึงพอใจ อันเป็นฝ่ายโลกิยสมบัติ และจะได้บรรลุคุณธรรมต่างๆ อาทิ ฌาน อภิญญา อริยมรรค อริยผล และกระทำให้แจ้งซึ่งพระนิพพานเป็นที่สุด
"บุญที่เกี่ยวเนื่องกับการสร้างโบสถ์อีกอย่างหนึ่ง คือการทำบุญที่เกี่ยวกับการปิดทองฝังลูกนิมิต เพราะเป็นการทำบุญของชาวพุทธที่มีความเชื่อว่า ได้อานิสงส์มหาศาล วัดต่างๆ จะจัดงานผูกพัทธสีมา หรือฝังลูกนิมิตได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น เมื่อมีการสร้างพระอุโบสถ แม้จะขยายขอบเขตก็เป็นเวลานานมาก เชื่อกันว่า ใครที่ทำบุญจะได้อานิสงส์มาก ในอรรถกถาบาลีกล่าวถึงอานิสงส์ในการผูกพัทธสีมาไว้ ๖ ประการ คือ ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บทุกชาติ ปราศจากอุปัทวะทั้งหลาย ไม่เกิดในตระกูลต่ำ หากเกิดในโลกมนุษย์จะเป็นท้าวพระยามหากษัตริย์ หากเกิดในเทวโลกจะเป็นท้าวสักกเทวราช สมบูรณ์ด้วยทรัพย์สินเงินทอง มีผิวพรรณผ่องใส และอายุยืน เหล่านี้เป็นความเชื่อในเรื่องผลบุญในชาตินี้ และชาติหน้า นั่นเอง" พระราชธรรมวาที กล่าว
ความสำคัญของฤกษ์
อ.ลักษณ์เลขานิเทศ เลขาธิการสถาบันพยากรณ์ศาสตร์ หรือเจ้าของฉายา "โหรฟันธง" บอกว่า ความศักดิ์สิทธิ์ของการสร้างพระมีเหตุปัจจัยหลายอย่างรวมกัน ในฐานะที่เป็นโหรก็อยากจะพูดถึงเรื่องฤกษ์ดี โดยเฉพาะฤกษ์ในวันพฤหัสบดีที่ ๑๙ สิงหาคม ๒๕๕๓ ตรงกับขึ้น ๙ ค่ำ เดือน ๙ ตามตำราโหราศาสตร์มีตำแหน่งดาวที่มีฤกษ์อันเป็นมงคล ๓ ดวง คือ ตำแหน่งดวงอาทิตย์ ตรงกับตำแหน่งดาวเกษตร (ยศ ศักดิ์ อัครสถาน ให้ทายอาทิตย์) หมายถึง เป็นดาวเด่นที่ในเรื่อง ยศ เกียรติ บารมี ของขลังที่ปลุกเสกในฤกษ์ดังกล่าวมีคติความเชื่อว่า มีพุทธคุณโดดเด่นทางด้านยศและบารมี
ขณะเดียวกันในวันดังกล่าว ดาวพฤหัส ยังได้ตำแหน่งดาวเกษตรเช่นกัน มีคติความเชื่อว่า ฤกษ์ดังกล่าว มีความโดดเด่นทางด้านการปกครองและทำให้เกิดโชคลาภ และทรัพย์สมบัติ ในทางโหราศาสตร์ ตำแหน่งดาวเกษตรที่ตรงกัน ๒ ดวง จะเป็นมหามงคลอย่างยิ่ง ซึ่งมีคำกล่าวทางโหราศาสตร์ในอดีตว่า "เกษตร ๑ ดวงได้เป็นพญา เกษตร ๒ ดวงได้ครองนครา (เมือง) เกษตร ๓ ดวงได้เป็นพระราชา และเกษตร ๔ ดวง ได้เป็นพระมหาจักรพรรดิ"
นอกจากนี้แล้วในวันดังกล่าวยังมีดาวอังคารอีกหนึ่งดวงที่อยู่ในตำแหน่งมหาจักร มีความหมายว่า ล้างความเป็นกาลี ล้างความอัปมงคลให้หมดไป ทั้งนี้ ในปฏิทินโหรของสถาบันพยากรณ์ศาสตร์ และปฏิทินโหรของอาจารย์ทองเจือ อ่างแก้ว กล่าวไว้ว่า "วันดังกล่าวเป็นวันอธิบดี และกระทิงวัน (เป็นวันแรง ทำพิธีปลุกเสก เบิกโขน ทวาร ออกรบทัพจับศึก จะมีชัยชนะต่อศัตรู และจะสำเร็จทุกประการ)"
ด้านพระครูวิสิฐนวกรรม หรือหลวงพ่อประเสริฐ เจ้าอาวาสวัดสมบูรณาราม ต.สำนักท้อน อ.บ้านฉาง จ.ระยอง บอกว่า ด้วยเหตุที่วันพฤหัสบดีที่ ๑๙ สิงหาคม ๒๕๕๓ เป็นวันฤกษ์ดีที่สุด วัดจึงจัดยกพิธีพระประธานโลหะน้ำหนัก ๓.๕ ตัน ซึ่งเป็นพระประธานในอุโบสถใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออก เข้าอุโบสถหลังใหม่ เป็นอุโบสถที่ใหญ่ที่สุดในระยอง และเปิดให้ประชาชนลอดใต้ฐานพระประธาน เชื่อที่ว่า การลอดฐานพระประธานเป็นการล้างอาถรรพณ์และสร้างความเป็นสิริมงคลแก่ผู้นั้นๆ ทั้งนี้ วัดได้เปิดโบสถ์ให้ลอดฐานพระประธานทุกวัน พุทธศาสนิกชนสอบถามเส้นทางได้ที่ โทร.๐-๓๘๙๖-๓๓๓๒
0 เรื่องไตรเทพ ไกรงู / ภาพ ชาญณรงค์พรดิลกรัตน์ 0