ทานไฟ-ทานร้อน บุญรับ พ.ศ.ใหม่ ที่..."เมืองคอน"
บุญปีใหม่ ให้ทานไฟเมืองนคร เป็นประเพณีที่งดงามตามแบบอย่างพุทธประวัติของพุทธศาสนิกชนใน จ.นครศรีธรรมราช ที่ปฏิบัติสืบเนื่องมาแต่โบราณ กระทำกันในเดือนยี่ของทุกๆ ปี ไม่กำหนดวันที่แน่นอน สุดแต่ความสะดวกของประชาชนในแต่ละท้องที่ เมื่อถึงวันกำหนดจะร่วมกันก่อไฟ
ทั้งนี้เชื่อกันว่า ตำรับการทำขนมเบื้องของโกสิยะเศรษฐีที่ทำถวายพระสงฆ์ ณ วัดเชตวิหารนั้น สืบทอดมาเป็น "ขนมกรอก" ที่ชาวพุทธเมืองนครศรีธรรมราชทำถวายสงฆ์ในประเพณีให้ทานไฟด้วย ขนมกรอกหรือขนมให้ทานไฟมีส่วนผสม และวิธีทำง่ายๆ คือใช้ข้าวสารเจ้าแช่น้ำ กรอกบดด้วยหินเครื่องโม่ที่ชาวนครศรีธรรมราชเรียกว่า "หินบด" โดยบดอย่าให้ข้นหรือเหลวเกินไป แล้วคั้นกะทิติดไฟเคี่ยวให้แตกมันผสมลงไปในแป้งพร้อมน้ำตาลพอให้ออกรสหวาน ตอกไข่สดใส่ตามส่วน ซอยหอมให้ละเอียด โรยแล้วตีให้เข้ากัน
ต่อจากนั้นก็เอากระทะตั้งไฟให้ร้อน ใช้น้ำมันพืชผสม ไข่แดงเช็ดทากระทะให้เป็นมันลื่น เพื่อไม่ให้แป้งติดผิวกระทะเมื่อหยอดแป้ง ละเลงให้เป็นแผ่น และต้องระวังไม่ให้แผ่นขนมกรอกบางเหมือนขนมเบื้องทั่วไป เพราะจะไม่นุ่มและขาดรสชาติ พอสุกก็ตลบพับตักรับประทานทั้งร้อนๆ
ปัจจุบัน ขนมกรอกดังกล่าวนี้ไม่นิยมทำกัน แต่นิยมทำขนมพื้นเมืองประเภทอื่นๆ เช่น ขนมครก ขนมฝักบัว (ซึ่งเรียกตามภาษาพื้นเมืองว่า ขนม "จู้จุน") เป็นต้น
สำหรับพิธีกรรมอันสำคัญนี้ จะเริ่มด้วย ๑.การก่อกองไฟ ชาวบ้านจะเตรียมไม้ฟืน ถ่าน หรือเตาไฟ สำหรับก่อให้เกิดความร้อน และความอบอุ่นแก่พระสงฆ์ บางแห่งนิยมใช้ไม้ฟืนหลายอันมาซ้อนกันเป็นเพิงก่อไฟ แล้วนิมนต์พระสงฆ์มานั่งผิงไฟ เพื่อให้เกิดความอบอุ่นทั้งพระสงฆ์และชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียง
และ ๒.การทำขนมถวายพระ ขนมที่เตรียมไปปรุงที่วัดในการให้ทานไฟเป็นขนมอะไรก็ได้ แต่ส่วนใหญ่จะนิยมขนมที่สามารถปรุงเสร็จในเวลาอันรวดเร็ว
โดยในปัจจุบันมีขนมและอาหารเพิ่มขึ้นอีกมากมาย เช่น น้ำชา กาแฟ หมี่ผัด ข้าวต้ม ข้าวเหนียวหลาม ขนมปังปิ้ง ชาวบ้านจะปรุงขนมตามที่เตรียมเครื่องปรุงมา แล้วนำขนมที่ปรุงขึ้นมาร้อนๆ ไปถวายพระสงฆ์ ขณะที่ทำขนมกันไป พระสงฆ์ก็ฉันไปพร้อมๆ กัน จะหยุดปรุงขนมก็ต่อเมื่อเครื่องปรุงที่เตรียมมาหมด
เมื่อพระสงฆ์ฉันอิ่มแล้ว ชาวบ้านจึงร่วมกันรับประทานกันอย่างสนุกสนาน หลังจากพระสงฆ์ฉันเสร็จแล้ว ก็สวดให้ศีลให้พรแก่ผู้ที่มาทำบุญ เป็นอันเสร็จพิธี
นายสุเทพ เกื้อสังข์ ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า ประเพณีทานไฟนับวันยิ่งเลือนหายไปทุกขณะ ดังนั้น เพื่อร่วมสืบสานประเพณีทางพระพุทธศาสนาอันดีงาม ให้คงอยู่ชาวเมืองคอน จึงจัดกิจกรรมนี้ขึ้นที่บริเวณหน้าพระบรมธาตุเจดีย์นครศรีธรรมราช วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร ซึ่งเป็นศูนย์รวมใจที่สำคัญ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานนครศรีธรรมราช ได้ร่วมกับสวนสร้างสรรค์นาคร - บวรรัตน์ และธรรมภาคี จ.นครศรีธรรมราช ร่วมกับชมรมรักบ้านเกิด โดยการสนับสนุนจากเทศบาลนครนครศรีธรรมราช และมหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช จัด “บุญปีใหม่ ให้ทานไฟเมืองนคร” ในวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๓ - ๑ มกราคม ๒๕๕๔ นี้
กำหนดการในวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๓ เวลา ๒๑.๐๐ น. ร่วมจุดเทียนชัย ๘๔ เล่ม ณ หน้าพระวิหารหลวง เบื้องหน้าพระบรมธาตุเจดีย์นครศรีธรรมราช เจริญจิตภาวนา ณ ลานทรายหาดทรายแก้วเมืองนคร
จากนั้น เวลา ๒๑.๓๐ น. ปรารภธรรม งานบุญปีใหญ่กับอานิสงส์ "การเจริญสติข้ามปี...รับปีใหม่ ชีวิตใหม่" โดยพระครูสิริธรรมาภิรัต วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร เวลา ๒๒.๓๐ น. ถวายน้ำปานะพระภิกษุสงฆ์ แล้วพักรอรับปีใหม่ ๒๓.๐๐ น. ร่วมสวดมนต์ เจริญจิตภาวนา...รับปีใหม่ ชีวิตใหม่ ๒๕๕๔
กระทั่งวันที่ ๑ มกราคม ๒๕๕๔ เวลา ๐๐.๐๑ น. เจริญจิตภาวนาท่ามกลางนานาพรปีใหม่อันประเสริฐ ๒๕๕๔ จากนั้นเวลา ๐๐.๒๐ น. ข้อคิดคำนึงในวันขึ้นปีใหม่ ๒๕๕๔ เวลา ๐๑.๐๐ น. ร่วมนอนค้างแรมเบื้องหน้าองค์พระศากยมุนีศรีธรรมราช ในพระวิหารหลวง วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร กระทั่งเวลา ๐๔.๓๐ น. ทำวัตรเช้า รับปีใหม่ ๒๕๕๔ เวลา ๐๕.๐๐ น. ร่วมบุญให้ทานไฟ ณ ลานหน้าพระวิหารหลวง วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร และ เวลา ๐๖.๐๐ น. ร่วมทำบุญตักบาตรข้าวสาร อาหารแห้ง ณ ถนนราชดำเนิน หน้าวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร
0 เรื่อง/ภาพ สุพิชฌาย์ รัตนะ สำนักข่าวเนชั่น 0