
พุทธคุณกับปาฏิหาริย์ และ...เรื่องเล่าอภินิหารพระหลวงปู่แผ้ว ปวโร วัดรางหมัน
"อภินิหาร ปาฏิหาริย์ และพุทธคุณ"
เป็นสิ่งที่ผู้แขวนพระเครื่องและพกพาวัตถุมงคลอยากให้คำเหล่านี้เกิดขึ้นกับตัวเองเสมอ ไม่ว่าจะเป็นการรอดตายจากอุบัติเหตุ เฉียดตายจากเหตุร้าย รวมทั้งความโชคดีจากการถูกหวยรวยเบอร์ ในรายที่ไม่มีเหตุการณ์ใดๆ อะไรเกิดขึ้นกับตัวเองก็ถือว่าเป็นปาฏิหาริย์อย่างหนึ่ง
จริงๆ แล้วในพุทธศาสนาถือว่า ปาฏิหาริย์ อภินิหาร เป็นเรื่องธรรมดา เป็นไปตามธรรมชาติ แต่ด้วยเหตุที่ว่า ไม่ค่อยเกิดขึ้นบ่อยครั้งนัก ปาฏิหาริย์ จึงหมายถึง ความอัศจรรย์ สิ่งประหลาดเหลือเชื่อ ที่มีความพิเศษเหนือกว่าสิ่งอื่นๆ หรือปรากฏการณ์ที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน เป็นความอัศจรรย์ที่คนนำให้เกิด ปกติแล้วปาฏิหาริย์จะหมายถึง ความอัศจรรย์ ของพระพุทธเจ้า ซึ่งแบ่งได้ ๓ อย่าง คือ ๑.มีฤทธิ์เป็นอัศจรรย์ ๒.ทายใจคนได้เป็นอัศจรรย์ และ ๓.มีคำสอนเป็นอัศจรรย์
แต่ถ้าบุญบารมีนำให้เกิด จัดเป็นอภินิหาร ซึ่งหมายถึง อำนาจแห่งความดี บุญอันยิ่งใหญ่ พลังเหนือธรรมชาติที่เกิดจากบุญกุศล ความดี รวมทั้งบารมีที่สั่งสมไว้ ที่สำคัญ คือ ทั้งปาฏิหาริย์และอภินิหารจะเกิดขึ้นเฉพาะบุคคล ด้วยเหตุนี้ จึงยากที่จะอธิบายให้เข้าใจกัน
ในช่วงองค์พ่อจตุคามรามเทพได้รับความนิยมสุดขีด ระหว่าง พ.ศ.๒๕๔๘-๒๕๕๐ มีคำพูดอยู่ ๒ ประโยคที่ว่า "ขอได้ไหว้รับ" และ "ตราบใดที่น้ำทะเลยังไม่เหือดแห้งมึงมีกูไว้ไม่จน" จนกลายเป็นคติความเชื่อว่า “คนที่แขวนองค์พ่อจตุคามรามเทพไว้ในครอบครองนั้นไม่จน”
ทั้งนี้หากจะพูดถึงอภินิหารที่เป็นอมตะต้องยกให้ “พระหลวงปู่ทวด” แม้จะยากต่อการพิสูจน์ให้ใครๆ ได้เห็นก็ตาม ในวงการพระเครื่องมีความเชื่ออย่างสนิทใจอยู่อย่างหนึ่งว่า “พระหลวงปู่ทวด วัดช้างให้ ใครที่แขวน หรือรถคันใดที่มี ไม่ว่าจะเป็นของเก่า ของสร้างใหม่ รวมทั้งสร้างจากวัดใดก็ตาม จะไม่ตายโหง”
ส่วนเรื่องเล่าเกี่ยวกับปาฏิหาริย์ที่เก่าแก่ที่สุดต้องยกให้ ปาฏิหาริย์พระกริ่ง วัดสุทัศนฯสามารถรักษาโรคได้ก็เป็นเรื่องเล่าที่เป็นอมตะไม่แพ้กัน สาเหตุที่ทรงสร้าง พระกริ่งวัดสุทัศนฯ นั้น เนื่องจากเมื่อครั้งที่ สมเด็จพระวันรัต (แดง) พระอุปัชฌาย์อาพาธเป็นอหิวาตกโรค สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ ซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์ของพระองค์ ทรงเคยรักษาผู้ป่วยเป็นอหิวาตกโรคให้หายได้ ด้วยการอาราธนาพระกริ่งลงในน้ำ ทำเป็นน้ำพระพุทธมนต์ แล้วโปรดให้น้ำนั้นแก่ผู้ป่วยดื่ม ปรากฏว่าหายอย่างน่าอัศจรรย์
ทั้งนี้ต้องยอมรับว่า นอกจากพุทธศิลป์ขององค์พระช่วยสร้างกระแสและช่วยดันค่านิยมและความนิยมพระเครื่องและวัตถุมงคลมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันให้สูงขึ้นแล้ว สิ่งที่สำคัญไม่น้อยยิ่งกว่าคือ เรื่องเล่าเกี่ยวกับอภินิหาร ปาฏิหาริย์ และพุทธคุณ ที่เกิดขึ้นกับพระเครื่องรุ่นนั้นๆ
วิธีการอย่างหนึ่งของนักเลงเล่นพระยุคก่อน รวมทั้งยุคปัจจุบันที่ยังมีให้เห็นอยู่คือ การลองของ ซึ่งถือว่าเป็นวิธีการและทางลัด เพื่อทดสอบพุทธคุณของพระเครื่องและวัตถุมงคล แม้ว่าครูบาอาจารย์มักจะบอกลูกศิษย์ว่า “ของดีไม่ต้องลองก็ดี” แต่มิวายยังมีลูกศิษย์จำนวนหนึ่งที่แอบไปลองจนมีคำพูดว่า “ของดีต้องลองได้”
อย่างไรก็ตาม ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ในฐานะที่เคยเป็นแฟนพันธุ์แท้คนหนึ่งของวงการพระเครื่อง ปรากฏการณ์อย่างหนึ่งที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน คือ การทดสอบพุทธคุณ หรือการลองของพระเครื่องที่สร้างและปลุกเสกโดย หลวงปู่แผ้ว ปวโร เกจิชื่อดังแห่งวัดประชาราษฎร์บำรุง (วัดรางหมัน) อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม พระเกจิอาจารย์อีกรูปหนึ่งที่ลูกศิษย์ขนานนามให้ว่า เป็น “เทพเจ้าแห่งกำแพงแสน” ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากคำกล่าวที่ว่า "วัตถุมงคลรุ่นใด หรือวัดใดสร้างแล้วไม่นิมนต์ หลวงปู่แผ้ว ไปนั่งปรกแล้วจะได้รับความนิยมน้อยกว่ารุ่นที่ หลวงปู่แผ้ว ไปนั่งปรก"
พระหลวงปู่แผ้วถือว่าเป็นผู้ที่เปี่ยมล้มและมากด้วยพุทธคุณ ล่าสุดทางวัดได้จัดสร้างเหรียญรุ่น “เหนือดวงบารมี” มีอยู่หลายเนื้อ เช่น เนื้อทองคำ เนื้อทองคำลงยา เนื้อเงิน เนื้อเงินลงยา เนื้อสัมฤทธิ์ เนื้อทองแดง มีทั้งฉลูและไม่ฉลุ ที่สำคัญเป็นเหรียญที่ราคาไม่แพง ซึ่งทุกวันนี้แม้ว่าผมเช่าพระหลักแสน หลักล้านล้าน แต่พระที่ผมแขวนเป็นพระหลักร้อยหลักพันเท่านั้น ซึ่งมีพุทธคุณไม่แพ้พระหลักแสนหลักล้าน
สำหรับใครอยากศึกษาพระเครื่องรุ่นอื่นๆ สามารถเข้าไปดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ “www.สุดยอดพระเครื่อง.com”
ยันต์และคาถาหลวงปู่แผ้ว
หากนำยันต์ที่ปรากฏบนเหรียญทุกรุ่นมาเปรียบเทียบกัน จะพบว่ามีคาถาหรือยันต์ ๓ ตัวที่นำมาใช้มากที่สุด คือ ๑.ยันต์เฑาะว์ ๒.พระคาถาหัวใจธาตุ ๔ ที่ว่า "นะ มะ พะ ทะ" และ ๓.คาถามหาอุด ที่ว่า "อะ อัง"
ส่วนคาถาที่หลวงปู่แผ้วบริกรรมเพื่อให้เกิดความเข้มขลังนั้น พระอธิการสมศักดิ์ อินฺโท หรือ หลวงพี่โกร๋น เจ้าอาวาสวัดประชาราษฎร์บำรุง (วัดรางหมัน) พระลูกศิษย์ที่ใกล้ชิดหลวงปู่แผ้ว บอกว่า เป็นคาถาของหลวงพ่อหว่าง อดีตเจ้าอาวาส ซึ่งได้รับการถ่ายทอดจาก หลวงพ่อทา วัดพะเนียงแตก อีกทอด คาถาปริกรรมมีบทเดียวเท่านั้น แต่สร้อยของพระคาถาต่างๆ มีหลายแบบ เช่น อาจจะบริกรรมว่า "พุทธังหลีก ธัมมังหลีก สังฆังหลีก" บ้างก็บริกรรมว่า "พุทธังแหวก ธัมมังแหวก สังฆังแหวก" หรืออาจจะบริกรรมว่า "พุทธังแคล้วคลาด สังฆังแคล้วคลาด ธัมมังแคล้วคลาด"
หลวงปู่แผ้ว สร้างคุณูปการ สืบสานจรรโลงพระพุทธศาสนาอย่างรอบด้าน ปฏิสังขรณ์วัดวาอารามต่างๆ ใน อ.กำแพงแสน หลายวัด เหตุผลหนึ่งที่ท่านย้ายวัดมาจำพรรษาที่วัดรางหมัน ก็เพราะท่านต้องการช่วยสร้างโบสถ์ รวมทั้งปรับปรุงศาสนสถานภายในวัด โดยล่าสุดทางวัดได้จัดสร้างวิหารหลังใหม่ด้านหลังโบสถ์
พุทธศาสนิกชนร่วมสานปณิธานบุญกับหลวงปู่แผ้ว ได้ที่วัดประชาราษฎร์บำรุง สอบถามรายละเอียดได้ที่ โทร.๐๘-๕๕๕๑-๑๕๕๑, ๐๘-๙๒๑๓-๗๙๖๔ และ ๐๘-๖๗๗๗-๗๕๔๖
“วิธีการอย่างหนึ่งของนักเลงเล่นพระยุคก่อน รวมทั้งยุคปัจจุบันที่ยังมีให้เห็นอยู่คือ การลองของ ซึ่งถือว่าเป็นวิธีการและทางลัด เพื่อทดสอบพุทธคุณของพระเครื่องและวัตถุมงคล”