เปิดประวัติ หลวงพ่ออุ้น สุขกาโม วัดตาลกง เพชรบุรี
เปิกตำนาน ประวัติ ของ หลวงพ่ออุ้น สุขกาโม แห่ง วัดตาลกง เมืองเพชรบุรี ดินแดนแห่งสรรพวิทยาคม เกจิอาจารย์รุ่นเก่าที่สืบสานวิชาครบถ้วนตำรับเมืองเพชร
เพชรบุรี ดินแดนเมืองเก่าแห่งประวัติศาสตร์ ที่มีเอกลักษณ์ทางศิลปวัฒนธรรมโบราณสถานโบราณวัตถุ วัดวาอารามเจริญรุ่งเรือง สืบทอดอารยธรรมกันมาหลายยุคสมัย จนได้รับสมญาว่า"อยุธยาที่ยังมีชีวิต"
นอกจากความเจริญทางศิลปวัฒนธรรมแล้ว เพชรบุรียังเป็นเมืองคนเก่ง คนจริง คนดี เมืองธรรมะพระเกจิอาจารย์ดังที่สืบทอดพุทธาคมจากครูบาอาจารย์อย่างไม่ขาดสาย หนึ่งในพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงเลื่องสือกิตติคุณ คือหลวงพ่ออุ้น สุขกาโม ซึ่งอยู่ในความนิยมศรัทธาระดับแนวหน้าของเมืองไทย
หลวงพ่ออุ้น นามเดิม อุ้น อินพรหม ถือกำหนดเมื่อวันศุกร์ที่ 9 มีนาคม พ.ศ.2459 เป็นบุตรคนโตในจำนวนพี่น้องร่วมอุทรเดียวกัน 8 คน คือ 1.หลวงพ่ออุ้น 2.นายอิ่น 3.นายเอื่่อน 4.นายพวง 5.นายแดง 6.นางพุด 7.นางเพี้ยน 8.นางพ้วน ของโยมพ่อบุญ อินพรหม โยมแม่เล็ก อินพรหม ณ บ้านหนองหินถ่วง ต.มาบปลาเค้า อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี เริ่มการศึกษาเบื้องต้น หนังสือไทย ขอม ที่วัดไสค้าน จนกระทั่งจบการศึกษาภาคบังคับ แล้วมาช่วยเหลือบิดามารดาประกอบอาชีพในด้านเกษตรกรรม
เมื่ออายุ 20 ปีบริบูรณ์ ได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณ พัทธสีมา วัดตาลกง ตรงกับวันที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ.2479 โดยมีพระอธิการชัน วัดมาบปลาเค้า เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอธิการผิว วัดตาลกง เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอธิการขาว วัดอินจำปา เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับสมณฉายาว่า "สุขกาโม"
ครั้นอุปสมบทแล้วได้อยู่จำพรรษาที่วัดตาลกงศึกษาพระธรรมวินัยอยู่ปรนนิบัติรับใช้หลวงพ่อผิว และศึกษาข้อวัตรปฏิับัติเรื่อยมา
ในเรื่องการศึกษาพุทธาคมของหลวงพ่ออุ้น เริ่มจากการอยู่ปรนนิบัติรับใช้ใกล้ชิดหลวงพ่อผิว วัดตาลกง ซึ่งเป็นพระอาจารย์ที่เชี่ยวชาญไสยศาสตร์เวทมนต์คาถาอาคม รุ่นราวคราวเดียว (สหธรรมิก) กับหลวงพ่อเพลิน วัดหนองไม้เหลือง ทั้งยังเก่งทางด้านวิปัสสนากรรมฐาน เมตตา อยู่ยงคงกระพัน ซึ่งใกล้ชิดกับ หลวงปู่นาค วัดหัวหิน ทั้งเคยเดินทางไปขอศึกษาวิชาความรู้จากหลวงปู่นาคอยู่เป็นประจำ
หลวงพ่อผิว ธมฺมสิริ เป็นพระเกจิทรงคุณวิเศษของเมืองเพชรบุรีในยุคนั้น แต่อุปนิสัยของท่านชอบอยู่อย่างสันโดษ เก็บตัวเงียบไม่ยอมเปิดเผยว่ามีดีนาน ๆ จะลง นะ ที่กระหม่อมให้ผู้ไปหาท่านสักครั้ง
มีเรื่องเล่าขานต่อกันว่า หลวงพ่อผิวลง นะ ที่หัวให้ตัวเดียว มีคุณสารพัด อยู่ยงคงกระพันจนวันตาย คนเก่า ๆ แถวท่ายางต่างประจักษ์ในความคงกระพันชาตรีมาแล้วหลายราย ซึ่งหลวงพ่ออุ้น เป็นที่โปรดปรานของหลวงพ่อผิวมาก ๆ ได้รับการถ่ายทอดสรรพวิชาให้จนหมดสิ้น
จากนั้นในพรรษาต่อมา หลวงพ่ออุ้นเดินทางไปกราบนมัสการ หลวงพ่อทองศุข วัดโตนดหลวง ถวายตัวเป็นศิษย์เพื่อเล่าเรียนฝึกปฏิบัติสมถกรรมฐาน วิปัสสนากรรมฐาน พุทธาคม โดยเรียนฝึกวิชากสิณจนชำนาญในกสิณ 10 รวมทั้งตำรับตำราการทำผงเมตตาชั้นสูงจากหลวงพ่อทองศุข
หลวงพ่อทองศุข เห็นความมานะพยายามประจวบกับหลวงพ่อผิว อดีตเจ้าอาวาสวัดตาลกง ก็มีความคุ้นเคยกันมาก่อนแล้ว ท่านจึงรับหลวงพ่ออุ้นไว้เป็นศิษย์ถ่ายทอดวิชาให้อย่างเต็มที่ ก่อนที่จะมีการศึกษาเล่าเรียนนั้น หลวงพ่อทองศุข ได้ดูฤกษ์ยามก่อนแล้วนัดกำหนดวันให้หลวงพ่ออุ้นเดินทางไปทำพิธีขึ้นครูหรือการยกครูโดยมีขันธ์ ๕ ดอกไม้ ธูป เทียน บายศรี ทำพิธีขึ้นครู
กล่าวได้ว่า หลวงพ่ออุ้น สุขกาโม เป็นศิษย์ผู้สืบสายพุทธาคมจากหลวงพ่อทองศุข รูปหนึ่งอย่างแท้จริงไม่ใช้เป็นเพียงการกล่าวอ้าง ในการเรียนวิชาของหลวงพ่ออุ้นนั้น ต้องเดินทางจากวัดตาลกงไปเรียนที่วัดโตนดหลวงครั้งหนึ่งจะต้องไปพักอยู่วัดโตนดหลวงถึง 15 วัน ไปกลับอย่างนี้อยู่เป็นประจำ และยังออกปริวาสกรรมร่วมกับหลวงพ่อทองศุข ขึ้นเขาไปบำเพ็ญเพียรในป่าช้าก็บ่อยครั้ง
นอกจากนี้ หลวงพ่ออุ้นยังได้ไปหา หลวงพ่อจันวัดมฤคทายวันซึ่งเป็นญาติกับหลวงพ่อทองศุข หลวงพ่อจันรูปนี้เก่งวิชาสะกดชาตรีคือเป็นวิชาสะกดให้สัตว์ร้ายอยู่กับที่ ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ ทราบว่าท่านได้เรียนมาจากพระธุดงค์ชาวเขมร โดยหลวงพ่อจันได้ถ่ายทอดวิชาสะกดชาตรีให้หลวงพ่ออุ้นเช่นกัน
สำหรับวิชาที่โดดเด่นสำคัญสุดของหลวงพ่อทองศุข ยากนักที่ศิษย์ผู้ใดจะได้รับถ่ายอดให้ คือ วิชาทำผงพระจันทร์ครึ่งซีก วิชาผงพระจันทร์ครึ่งซีกเป็นอย่างไร ว่ากันว่าเป็นผงเมตตามหานิยมที่มีพุทธคุณอมตะล้ำลึกยิ่งกว่าผงอิทธิเจ และผงปถมังหลายเท่านัก จากวิชาผงพระจันทร์ครึ่งซีกนี้
แต่จากประวัติในช่วงชีวิตของหลวงพ่ออุ้นนั้น ไม่ปรากฎว่าท่านนำออกมาทำผง เพราะมีกฎสัจจะที่สำคัญมาก นอกจากนั้นหลวงพ่อทองศุขยังได้สอนการทำผงอิทธิเจ ผงปถมัง ผงมหาราช และผงหน้าพระภักษ์ ซึ่งเป็นตำรับสุดยอดของพระผงวัดนก จังหวัดอ่างทอง ตำราผงหน้าพระภักษืนี้ทราบว่าได้สูญหายไปจากวงการไสยศาสตร์เป็นเวลานานแล้ว หากมีอยุ่หรือตกเป็นมรดกแก่ผู้ใดก็น้อยเต็มทีที่จะรู้ได้
สำหรับวิชา นะ ปัดตลอด นั้น หลวงพ่ออุ้นได้รับการถ่ายทอดเช่นกัน วิชานี้จะสังเกตได้ถึงวัตถุมงคลของสำนักงานวัดโตนดหลวง มียันต์นะ ปัดตลอด และ นะ ปถมังปรากฎอย่างชัดเจน รวมทั้งวัตถุมงคลศิษย์สายหลวงพ่อทองศุขทุกรูป
หลวงพ่ออุ้นเป็นพระที่มีบุคลิกลักษณะผิวพรรณวรรณะผ่องใสอัธยาศัยไมตรีเปี่ยมด้วยเมตตาและสัจบารมีเป็นที่ตั้ง ท่านใส่ใจในเรื่องที่วัฏสงสาร คือการเกิดแก่เจ็บตาย บุญกรรม และสิ่งลี้ลับในธรรมชาติ โดยเฉพาะเรื่องเวทมนตร์คาถาอาคมอักขระเลขยันต์เป็นพิเศษ ซึ่งชอบมาตั้งแต่อายุยังน้อยจึงเป็นแรงจูงใจให้ศึกษาเล่าเรียน เรียนรู้และปฏิบัติให้เข้าถึงรู้แจ้งเห็นจริง ด้วยเหตุนี้ หลวงพ่อทองศุขได้เล็งเห็นอุปนิสัยใจคอแล้ว จึงถ่ายทอดสรรพวิชาให้หลวงพ่ออุ้นจนหมดสิ้น
จากนั้นต่อมาหลวงพ่ออุ้นได้ไปกราบนมัสการพระอธิการชัน วัดมาบปลาเค้า ขอศึกษาเล่าเรียนวิชาไสยศาสตร์ ซึ่งพระอธิการชันท่านได้รับการถ่ายทอดวิชาจากหลวงพ่อดิ่ง วัดบางวัว เป็นวิชาอยู่ยงคงกระพัน และเสกลิงลมวิชาขับคุณไสยทำปรอท เล่นแร่แปรธาตุ เรียนวิชาจากหลวงพ่อเพลิน วัดหนองไม้เหลือง เรียนวิชาทำตะกรุด และปลัดตามตำรับหลวงพ่อโคก วัดปากคลองบางครก
ครูบาอาจารย์ของหลวงพ่ออุ้นนั้น ใช่จะมีแต่เพียงพระสงฆ์เท่านั้นแม้แต่เป็นฆราวาสผู้เชี่ยวชาญในสรรพวิชา ท่านก็ยังไปขอเล่าเรียนศึกษาเช่นกัน อย่างเช่นอาจารย์โม หรือ ครูโม บ้านฉาง ซึ่งเป็นหมอสักชาวเพชรบุรี มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดในยุคนั้น ท่านได้ไปขอเล่าเรียนวิชาจากอาจารย์โม แม้หลวงพ่อไสว วัดปรีดาราม ก็เล่าเรียนวิชาสักยันต์จากอาจารย์โม
จากนั้นหลวงพ่ออุ้นท่านก็ไปเรียนวิชาทำสีผึ้งมหาเมตตา วิชาลงเลขยันต์ ลงสมุนไพร ตำราสมุนไพรจากหมอฉ่ำหมอไสยศาสตร์ชาวอำเภอท่ายาง รวมทั้งแต่เดิมนั้น หลวงพ่ออุ้น ก็ได้รับการถ่ายทอดจากตระกูล นั่นคือ โยมพ่อบุญ อินพรหม โยมพ่อของหลวงพ่ออุ้น ก็เป็นหมอไสยศาสตร์มีความรู้เรื่องยาโบราณ มีตำรายาโบราณที่ตกทอดมาแต่ยุคก่อนจำนวนมาก หลวงพ่ออุ้นก็ได้รับสืบทอดมาว่ากันว่าผงยาเพชรมณีหรือเพชรจินดา เป็นตำรายาหัวใจ ยาลม ยาอายุวัฒนะที่ดีมาก ซึ่งมีคุณสมบัติพิเศษไม่แตกต่างกับผงยาจินดามณีของปู่บุญมากนัก หรืออาจเป็นตำราสูตรเดียวกันมาแต่โบราณก็เป็นได้
เมื่อหลวงพ่ออุ้น ได้เรียนวิชาไสยเวทต่าง ๆ มาอย่างช่ำชองแล้ว ก็ได้เคยนำเอาวิชาสักยันต์มาสักลงให้บรรดาศิษย์และชาวบ้าน สักเสือผยองเพียงช่วงระยะเวลาสั้น ๆ ชาวบ้านที่นิยมก็มาสักกันมากพอสมควรและบุคคลที่สักไปเหล่านั้นเป็นคนดังก็มาก คนดีก็มี ภายหลังท่านมาพินิจพิจารณาถึงวิชาเหล่านี้ว่าไม่สมควรนำมาใช้ให้กับบุคคลต่าง ๆ เพราะบังเกิดมีทั้งดีและชั่วผิดและถูกไม่มีใครเป็นคนดีได้หมด ซึ่งอาจนำไปสู่แนวทางอกุศลกรรมได้ ครั้นพิจารณาในหลักธรรมอย่างถ่องแท้แล้ว นับตั้งแต่วันนั้นท่านจึงหยุดทำการสักและมุ่งมั่นหันมาช่วยชาวบ้านด้านขับคุณไสย ขับผี ไล่วิญญาณพเนจร ที่เข้าสิงร่างชาวบ้านจนขึ้นชื่อที่ใดในแถบตำบลนั้นมีปัญหาเรื่องผีเข้า ถ้าขู่ว่าจะพาไปหาหลวงพ่ออุ้น มักจะออกไปทันที
หลวงพ่ออุ้น ท่านมรณภาพ เมื่อเวลา 06.09น.วันที่31 ตุลาคม 2553 สิริอายุรวม94ปี7เดือน22วัน