เปิดคาถาพลิกชีวิต "หลวงปู่มหาศิลา สิริจนฺโท" พร้อมพุทธคุณเหรียญเหนือดวง | คมชัดลึก

ประวัติ หลวงปู่มหาศิลา สิริจนฺโท

ประวัติ "หลวงปู่มหาศิลา สิริจนฺโท" พระราชวัชรธรรมโสภณ (ศิลา สิริจนฺโท),ป.ธ.6 ปัจจุบันเป็นประธานที่ปรึกษาคณะสงฆ์วัดพระธาตุหมื่นหินวชิรโสภณญาณ (ธ.) เลขที่ 123 หมู่ที่5 บ้านทุ่งกระเดา ต.กุดปลาค้าว อ.เขาวง จังหวัดกาฬสินธุ์ ผู้ก่อตั้งวัดพระธาตุหมื่นหินวชิรโสภณญาณ (ธ.) ประธานสงฆ์ธรรมอุทยานหลวงปู่ศิลา สิริจนฺโท ป. นามเดิมชื่อนายศิลา นามสกุลนิลจันทร์ เกิดเมื่อวันที่ 14 ต.ค. 2488

• บิดาชื่อ นายแก่น นิลจันทร์
• มารดาชื่อ นางน้อย นิลจันทร์

 

ณ บ้านเบิด ต.เบิด อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์ ปีที่ท่านเกิดครอบครัวอพยพหนีความแห้งแล้งมาอยู่ที่บ้านส้อง ต.ธาตุ อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์ จากนั้นในปี พ.ศ. 2494 เมื่ออายุได้ 6 ปี ได้ย้ายภูมิลำเนามาอยู่อาศัย ณ บ้านเกิดของมารดา บ้านธาตุประทับ (บ้านยางกระธาตุ) อ.เชียงขวัญ จ.ร้อยเอ็ด

บรรพชาเป็นสามเณร

ปี พ.ศ. 2500 ขณะอายุ 12 ปี เป็นสามเณร สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ณ วัดธาตุประทับ บ้านธาตุประทับ อ.เชียงขวัญ จ.ร้อยเอ็ด มีหลวงพ่อพิมพ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้ติดตามครูบาอาจารย์ ออกร่วมคณะธุดงค์ ไปนมัสการพระธาตุพนม ระหว่างเดินธุดงค์ มีโอกาสอุปัฏฐากพระมหาเถระฝ่ายอรัญวาสี รูปสำคัญในสายพระอาจารย์มั่นภูริทัตโต คือ พระครูสีลขันธ์สังวรณ์ (อ่อนสี สุเมโธ) ณ จังหวัดมุกดาหาร และได้รับคำสอน ผญาธรรม (คำสอนอีสาน) จากพระธรรมราชานุวัตร (แก้ว กันโตภาโส) อดีตเจ้าอาวาสพระธาตุพนม

 

• อุปสมบทครั้งที่ 1

ปี พ.ศ. 2509 เมื่ออายุย่าง 21 ปี ได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ณ พัทธสีมาวัดบูรพาภิราม อ.เมืองร้อยเอ็ด จ.ร้อยเอ็ด โดยมีเจ้าคุณพระสิริวุฒิเมธี (พุทธา สิริวุฑฺโฒ ป.ธ.4) อดีตเจ้าคณะจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายานามว่า สิริจนฺโท และได้ลาสิกขาครั้งที่ 1 เมื่อ พ.ศ. 2521 ด้วยเหตุได้รับการวิงวอนจากญาติให้ลาสิกขาออกมาเป็นครูผู้ช่วยสอน ที่โรงเรียนธาตุประทับ และดูแลมารดารวมถึงญาติผู้ใหญ่ป่วยหนักเป็นเวลา 1 ปี

 

• อุปสมบทครั้งที่ 2

เมื่อปี พ.ศ. 2522 อายุ 34 ปี เมื่อวันที่ 8 ก.พ.2522 เวลา 06.15 น. ได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ณ พัทธสีมาวัดมาลุวาคณาราม ตำบลธวัชบุรี อำเภอธวัชบุรี จังหวัดร้อยเอ็ด มีพระสมุห์เป ปุญฺโญเป็นพระอุปัชฌาย์ พระน้อย สีลวณฺโณ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระปลัดสมาน ธมฺมรกฺขิโต เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายานามว่า สุริยจิตฺโต 

 

หลังอุปสมบทช่วงปี 2522-2539 ได้ไปพำนัก วัดโนนเดื่อ บ้านโนนเดื่อ ต.มะอึ อ.ธวัชบุรี จ.ร้อยเอ็ด สลับกับวัดธาตุประทับ และได้ลาสิกขาครั้งที่ 2 เมื่อปี พ.ศ. 2539 ด้วยเกิดเหตุการณ์ทางครอบครัว พี่สาวป่วย ไม่มีคนดูแล เพราะท่านเหลือญาติเพียงคนเดียว และพี่สาวถึงแก่กรรมในเวลาต่อมา เมื่อหมดภาระหน้าที่ในครอบครัว กับการลาสิกขาออกมาอยู่ 8 เดือน แล้วกลับเข้าอุปสมบทใหม่

 

 

• อุปสมบทครั้งที่ 3

เมื่อปี พ.ศ. 2539 ในวันที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2539 ตรงกับวันขึ้น 13 ค่ำ เดือน 1 ปีชวด ได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ณ พัทธสีมาวัดแสงประทีป ต.หมูม้น อ.เชียงขวัญ จ.ร้อยเอ็ด โดยมีพระครูวิธานสมณกิจ (อำนวย จนฺทสาโร) เจ้าอาวาสวัดแสงประทีป และเจ้าคณะตำบลหมูม้น เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายานามว่า สิริจนฺโท และได้พำนัก ณ วัดธาตุประทับ สลับกับการออกจาริกธุดงค์ ณ บ้านพรานเหมือน ต.บ้านขาว อ.เมืองอุดรธานี จ.อุดรธานี

 

 

การจำพรรษา

• พ.ศ. 2559 หลวงปู่มหาศิลา ออกจาริกไปบ้านหนองแซง ตำบลแจ้ง อำเภอภูเขียว จังหวัดชัยภูมิ
• พ.ศ. 2559 หลวงปู่มหาศิลา หลังโปรดโยมอุปฐาก (แม่เข็ม) หลวงปู่ได้รับนิมนต์โดยพ่อใหญ่ก้อง ให้จำพรรษา ณ ป่าช้าม่วงนา อำเภอดอนจาน จังหวัดกาฬสินธุ์
• พ.ศ. 2562 - 2565 ได้รับนิมนต์จากพระครูสุชานโพธิคุณ (ถนอม) เจ้าอาวาสวัดโพธิ์ศรีสะอาด ให้พำนักจำพรรษา ณ สวนสงฆ์แกเปะ ภายในที่ธรณีสงฆ์ของวัดโพธิ์ศรีสะอาด บ้านแกเปะ ตำบลเชียงเครือ อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ จังหวัดกาฬสินธุ์
• พ.ศ. 2565 หลวงปู่มหาศิลา มีอาการอาพาธด้วยโรคหัวใจขาดเลือด พักรักษาตัว ณ กุฎีอโรคยาปรมาลาภา เสนาสนะสงฆ์ พระธาตุจอมศรีสัมมาสัมพุทธเจดีย์ จังหวัดมหาสารคาม ตำบลมะค่า อำเภอกันทรวิชัย จังหวัดมหาสารคาม เยื้องติดกับ บ้านเกิ้งเหนื้อ ตำบลเกิ้ง อำเภอเมืองมหาสารคาม จังหวัดมหาสารคาม
• พ.ศ. 2565-ปัจจุบัน หลวงปู่มหาศิลา พำนัก ณ ที่พักสงฆ์ธรรมอุทยานหลวงปู่ศิลา สิริจนฺโท ป. (เปรียญ) (ธ.) เลขที่193 หมู่ที่5 บ้านแกเปะ ตำบลเชียงเครือ อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ จังหวัดกาฬสินธุ์

 

 

การศึกษา และวิทยฐานะ

• พ.ศ. 2500 อายุ 12 ปี สอบไล่ได้นักธรรมตรี สำนักศาสนศึกษาวัดธาตุประทับ บ้านธาตุประทับ อำเภอเชียงขวัญ จังหวัดร้อยเอ็ด
• พ.ศ. 2501 อายุ 13 ปี สอบไล่ได้นักธรรมโท สำนักศาสนศึกษาวัดบูรพาภิราม อำเภอเมืองร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ด
• พ.ศ. 2503 อายุ 15 ปี สอบไล่ได้นักธรรมเอก สำนักศาสนศึกษาวัดบูรพาภิราม อำเภอเมืองร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ด
• พ.ศ. 2506 อายุ 18 ปี สอบไล่ได้เปรียญธรรม 3 ประโยค (เปรียญตรี) สำนักศาสนศึกษาวัดบูรพาภิราม อำเภอเมืองร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ด
• พ.ศ. 2507 อายุ 19 ปี สอบไล่ได้เปรียญธรรม 4 ประโยค (เปรียญโท) สำนักศาสนศึกษาวัดบูรพาภิราม อำเภอเมืองร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ด
• พ.ศ. 2510 อายุ 21 ปี สอบไล่ได้เปรียญธรรม 5 ประโยค (เปรียญโท) สำนักศาสนศึกษาวัดบูรพาภิราม อำเภอเมืองร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ด
• พ.ศ. 2515 อายุ 26 ปี สอบไล่ได้เปรียญธรรม 6 ประโยค (เปรียญโท) สำนักศาสนศึกษาวัดบูรพาภิราม อำเภอเมืองร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ด
• ในการทรงตั้งเปรียญธรรม 6 ประโยค, เปรียญธรรม 9 ประโยค พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่9 เสด็จพระราชดำเนินพระราชทานพัดยศเปรียญธรรม ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม พระบรมมหาราชวัง

 

 

สมณศักดิ์

• พ.ศ. 2564 ได้รับการแต่งตั้งจากพระพรหมวชิรโสภณ (ศรีจันทร์ ปุญฺญรโต) ให้ดำรงตำแหน่งสมณศักดิ์ฐานานุกรม พระราชาคณะเจ้าคณะรองชั้นหิรัญบัฏ ฐานานุศักดิ์ในราชทินนามที่ พระครูปลัดวชิรโสภณญาณ วิมลศีลาจารวิศิษฏ์ ไพศาลศาสนกิจจาทร (29 เมษายน พ.ศ. 2564)
• 30 มิถุนายน พ.ศ. 2566 ได้รับพระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์ขึ้นเป็นพระราชาคณะชั้นราช ในราชทินนามที่ พระราชวัชรธรรมโสภณ โกศลบริหารวรกิจ ยติคณิสสร บวรสังฆารามคามวาสี พระราชาคณะชั้นราช สถิต ณ ที่พักสงฆ์ธรรมอุทยานหลวงปู่ศิลา จังหวัดกาฬสินธุ์

 

 

คาถาหลวงปู่มหาศิลา สิริจนฺโท

คาถาพลิกชีวิต

 

ตั้งจิต ท่องบทสวด นะโมตัสสะ 3 จบ

นะโม วิมุตตานัง นะโมวิมุตติยา ราหุ สุริยันจันทัง ประมุขจะสุ

(สวดจำนวน 3 จบ หรือ 9 จบ)

 

 

ความหมายคาถาพลิกชีวิต

• มะอะอุนะโมวิมุตตานัง ขอนอบน้อมแด่ท่านผู้หลุดพ้นจากกิเลสทั้งหลาย
• นะโมวิมุตติยา ขอนอบน้อมแด่วิมุติธรรม ธรรม อันหลุดพ้นคือพระนิพพาน
• ราหุ สุริยัน จันทัง ประมุขจะสุ พระราหู คือโมหะ คือความมืด ครอบคลุมหุ้มโลก หุ้ม

คาถาบทนี้ภาวนาให้ราหูคลายปลดปล่อยให้ชีวิตสว่างไสว อย่างพระอาทิตย์และพระจันทร์เมื่อคืนวันเพ็ญหลวงปู่จึงตั้งชื่อว่าคาถาพลิกชีวิตนั่นเอง

 

พุทธคุณเหรียญเหนือดวง

พุทธคุณเหรียญเหนือดวง ได้ชื่อว่าดีเด่นด้านโชคลาภโภคทรัพย์ ความแคล้วคลาด เมตตามหานิยมดี ทำมาค้าขาย ค้าขึ้น ขอได้ เงินทองใหลมาดีที่สุด