ศรัทธาสายมู

รู้จัก "กระทรวงแพทยาคม" กระทรวงเวทมนต์ ของไทย ที่รักษา - ตัดสินคดีไสยศาสตร์

รู้จัก "กระทรวงแพทยาคม" กระทรวงเวทมนต์ ของไทย ที่รักษา - ตัดสินคดีไสยศาสตร์

04 ต.ค. 2567

ทำความรู้จัก "กระทรวงแพทยาคม" หรือ "ศาลกระทรวงแพทยา" กระทรวงเวทมนต์ ของไทย หน่วยงานที่มีหมอรักษา ตัดสินคดีไสยศาสตร์ โดยเฉพาะ

เรื่องของเวทย์มนต์ ใครว่าเป็นเรื่องไกลตัวเหนือจินตนาการ หากคุณเป็นหนึ่งในแฟนหนังเรื่องดังอย่าง "แฮรี่พอตเตอร์" แล้วล่ะก็ คงจะเคยได้ยินชื่อของหน่วยงานหนึ่งที่มีอำนาจในการควบคุมกฎของโลกเวทย์มนต์ อย่าง "กระทรวงเวทมนต์" ซึ่งในโลกแห่งความเป็ฯจริง ประเทศไทยของเราเอง ก็เคยมีกระทรวงเวทมนต์อยู่ด้วย 

 

กระทรวงเวทมนต์ของไทย มีชื่อจริงๆ ว่า "กระทรวงแพทยาคม" ซึ่งถูกก่อตั้ง และมีบทบาทอย่างมากต่อสังคมไทยในอดีต ก่อนจะถูกลดบทบาทลงจากความขัดแย้ง เป็นเพียง "กรมแทพยาคม" และถูกยุบไปเพราะความล้าสมัย 

กระทรวงแพทยาคม คืออะไร ?

 

แพทยาคม นั้นมาจากคำว่า แพทย และ อาคม รวมกัน โดยคำว่า แพทย มีความหมายว่า หมอรักษาโรค ส่วนคำว่า อาคม มีความหมายว่า เวทมนตร์ รวมกันมีความหมายว่า หมอรักษาโรคเกี่ยวกับเวทมนตร์

 

กระทรวงแพทยาคม ตามประวัติศาสตร์ไม่ปรากฏแน่ชัดว่าเกิดขึ้นสมัยใด แต่ถูกกล่าวถึงในหลายรัชสมัย เช่น พระเจ้าอู่ทอง พระเจ้าทรงธรรม แต่ในรัชสมัยพระเจ้าทรงธรรม ได้ปรากฏบันทึกว่า กระทรวงแพทยาคม มีไว้เพื่อชำระคดีผู้กระทำผิดเกี่ยวกับคุณไสย เสน่ห์ยาแฝด ฝังรูปด้วยวิทยาคมเอาไว้

 

วิทยาคม มาจาก วิทย และ อาคม รวมกัน โดยคำว่า วิทย มีความหมายว่า ความรู้ ส่วนคำว่า อาคม มีความหมายว่า เวทมนตร์ รวมกันจึงมีความหมายว่า ความรู้เกี่ยวกับเวทมนตร์ (ส่วน วิทยาคม ที่เห็นในชื่อโรงเรียนนั้น คำว่า อาคม มีอีกความหมาย คือ การมาถึง ดังนั้น วิทยาคม, พิทยาคม ในชื่อโรงเรียน จึงมีความหมายว่า การมาถึงของความรู้)
 

กระทรวงแพทยาคม หรือ ศาลกระทรวงแพทยา จะมีผู้เชี่ยวชาญทางวิทยาคมเป็นตุลาการ มีหน้าที่สอบสวนพิจารณาโทษผู้กระทำผิดเกี่ยวกับการกระทำทางไสยศาสตร์ เรื่องคุณไสยโดยเฉพาะ โดยจะมีอำนาจหน้าที่พิจารณา ความกล่าวหาว่าเป็นกระสือกระหัง ทำเวทมนตร์อาคม ใส่ว่านยา ทำเสน่ห์ยาแฝดยาเมา รีดลูก โดยผู้เสียหายไม่ถึงตาย หรือคดีพราหมณ์โยคีเป็นโจทก์จำเลยหาความกัน เป็นต้น ถ้าความเกิดในหัวเมือง ขุนหมื่นกรมแพทยาหัวเมือง เป็นผู้พิจารณา

 

โดย กระทรวงแพทยาคม หรือ ศาลกระทรวงแพทยา มีมาตั้งแต่สมัยอยุธยาจนถึงสมัยรัตนโกสินทร์ ตอนต้น จนกระทั่งถูกลดบทบาทและอำนาจจาก ศาลกระทรวงแพทยา เป็น ศาลกรมแพทยา ในรัชสมัยรัชกาลที่ ๓ ปี ๒๓๘๐ และในรัชสมัยรัชกาลที่ ๕ เกิดการปฏิรูปหลายอย่างในแผ่นดิน หนึ่งในนั้นคือ การปฏิรูปศาล เนื่องจากเกิดวิกฤตทางการศาล และท้ายที่สุด ศาลกรมแพทยา ถูกยุบลง เมื่อวันที่ ๒๕ มีนาคม ๒๔๓๔ เพราะถูกมองว่าล้าหลัง ไม่ทันสมัย ประกอบกับเวลานั้น รัชกาลที่ ๕ มีนโยบายพัฒนาประเทศชาติให้เจริญก้าวหน้าทัดเทียมชาติมหาอำนาจ จึงต้องยกเลิกกระทรวงนี้ไปในที่สุด

 

ที่มาจากหนังสือ "ThaiLand Only เรื่องแบบนี้ มีแต่ไทย ๆ" หน้าที่ 79 พิมพ์ครั้งที่ 1