ประวัติ "ว.วชิรเมธี - พระเมธีวชิโรดม" พระผู้ถ่ายทอดธรรมะให้เข้าถึงง่าย
ประวัติ พระเมธีวชิโรดม หรือ นามปากกาที่คุ้นเคย "ว.วชิรเมธี" ประนักวิชาการ นักคิดและนักเขียน ผู้ถ่ายทอดธรรมให้เข้าถึงง่ายผ่านตัวหนังสือ
พระเมธีวชิโรดม หรือชื่อเมื่อแรกเกิดว่า วุฒิชัย นามสกุล บุญถึง หรือรู้จักกันดีในนามปากกา ว.วชิรเมธี พระว.วชิรเมธี เป็นพระนักวิชาการ นักคิด นักเขียน และนักบรรยายธรรม ปัจจุบันดำรงตำแหน่งทางพระสังฆาธิการเป็น ผู้ช่วยเจ้าอาวาสพระอารามหลวง วัดพระสิงห์ จังหวัดเชียงราย, ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 6 ฝ่ายมหานิกาย (5 จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดลำปาง, จังหวัดเชียงราย, จังหวัดพะเยา, จังหวัดแพร่, จังหวัดน่าน)
สมณศักดิ์, พัดยศ
- พ.ศ. 2543 สอบไล่ได้ปริญญาบัตร เปรียญธรรม 9 ประโยค มีสมณศักดิ์ทางวิชาการเปรียญธรรม ที่ พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี
- พ.ศ. 2562 ได้รับพระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์ขึ้น เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญเปรียญ ในราชทินนามที่ พระเมธีวชิโรดม, (สป.)[6](28 กรกฎาคม พ.ศ. 2562)
นอกจากนี้ พระว.วชิรเมธี เป็นคนไทยคนแรกที่ได้รับรางวัล ผู้อุปถัมภ์ UNHCR ด้านสันติภาพ และเมตตาธรรม โดยผู้มอบรางวัลได้แก่ สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ
ประวัติ พระเมธีวชิโรดม "ว.วชิรเมธี"
ว. วชิรเมธี เป็นนามปากกาของ พระเมธีวชิโรดม ภูมิลำเนาของท่านอยู่ที่บ้านครึ่งใต้ ตำบลครึ่ง อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย บิดาและมารดาเป็นเกษตรกร ซึ่งมารดามักพาท่านไปทำบุญที่วัดบ่อย ๆ ทุกวันพระ ซึ่งผลจากการติดตามมารดาไปทำบุญบ่อย ๆ นี้เอง ต่อมาได้กลายเป็นแรงบันดาลใจให้ท่านสนใจหลักธรรมคำสอน
หลังจากจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ท่านก็ได้ขอ อนุญาตมารดาบวชเป็นสามเณรที่วัดครึ่งใต้ แตกต่างจากเพื่อน ๆ ในวัยเดียวกันที่มุ่งเรียนต่อในชั้นมัธยมศึกษา เมื่อบวชเป็นสามเณรแล้ว ท่านตั้งใจศึกษาเล่าเรียนพระปริยัติธรรมแผนกนักธรรม จนจบนักธรรมชั้นเอก แล้วย้าย มาพำนักอยู่ ที่วัดพระสิงห์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย เพื่อศึกษาพระปริยัติธรรมแผนกบาลี จนสำเร็จการศึกษาเปรียญธรรม 6 ประโยค
ต่อมาเมื่ออายุครบ 21 ปี จึงอุปสมบทเป็นพระภิกษุที่วัดบ้านเกิด และย้ายมาพำนักที่วัดเบญจมบพิตร ในกรุงเทพมหานคร เพื่อศึกษาพระปริยัติธรรมแผนกบาลีต่อจนสำเร็จเป็นเปรียญธรรม 9 ประโยค ซึ่งถือเป็นการศึกษาขั้นสูงสุดของคณะสงฆ์ไทย
ด้านการศึกษาทางโลกนั้น ท่านสำเร็จการศึกษาเป็น “ศึกษาศาสตรบัณฑิต” (สังคม-มัธยมศึกษา) จากมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช และ “พุทธศาสตร มหาบัณฑิต” จากมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ปัจจุบันท่านได้ รับเชิญให้เป็น อาจารย์ สอนนักศึกษาระดับปริญญาโทที่ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กรุงเทพมหานคร
พระเมธีวชิโรดม หรือ นามปากกา "ว.วชิรเมธี" มีผลงานหนังสือของท่านมีเกือบ 20 เล่ม ผลงานซึ่งเป็นที่รู้จักกันโดยทั่วไป คือ ธรรมะติดปีก, ธรรมะหลับสบาย, ธรรมะดับร้อน, ธรรมะบันดาล, ธรรมะรับอรุณ, ธรรมะราตรี, ปรัชญาหน้ากุฏิ, ปรัชญาหน้าบ้าน, DNA ทางวิญญาณ, ตายแล้ว เกิดใหม่ตามนัยพระพุทธศาสนา และท่านยังได้เขียนบทความลงในนิตยสารหลายฉบับ เช่น เนชั่นสุดสัปดาห์, ชีวจิต, หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจต่อไป
ผลงาน ว.วชิรเมธี
- การเผยแผ่พระพุทธศาสนาเชิงรุกในแบบ "ธรรมประยุกต์" ชุด "ธรรมะติดปีก" ประกอบด้วยธรรมะติดปีก ธรรมะบันดาล ธรรมะดับร้อน ธรรมะหลับสบาย ได้รับนิยมจนสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 นำมาสร้างเป็นละคร
- ผลงานธรรมนิพนธ์ไม่น้อยกว่า 200 เล่ม หลายเล่มได้รับการแปลสู่ภาษาต่างประเทศ เช่น ภาษาอังกฤษ ภาษาจีน ภาษาญี่ปุ่น ภาษาเกาหลี ภาษาอินโดนีเซีย ภาษาสเปน ภาษาฝรั่งเศส
- พ.ศ. 2550 ก่อตั้งสถาบันวิมุตตยาลัย อันเป็นสถาบันการศึกษาทางเลือกเพื่อการเผยแผ่พระพุทธศาสนาและพัฒนาสันติภาพโลก
- พ.ศ. 2552 ก่อตั้งศูนย์วิปัสสนาสากลไร่เชิญตะวัน เพื่อเป็นธรรมสถานในการ บูรณาการพุทธธรรมเข้ากับทุกกิจกรรมของชีวิต
- พ.ศ. 2555 ก่อตั้งมหาวิชชาลัยพุทธเศรษฐศาสตร์ สถาบันการศึกษาทางเลือกเพื่อการพัฒนาตามปรัชญาพุทธเศรษฐศาสตร์
ผลงานหนังสือที่สร้างชื่อ
- ธรรมะติดปีก
- ธรรมะหลับสบาย
- ธรรมะดับร้อน
- ธรรมะบันดาล
- ธรรมะรับอรุณ
- ธรรมะราตรี
- ปรัชญาหน้ากุฏิ
- ปรัชญาหน้าบ้าน
- DNA ทางวิญญาณ
- ตายแล้วเกิดใหม่ตามนัยพระพุทธศาสนา
อ้างอิง : 1