"เดือนมกราคม"ไหว้ที่นี่ หนุนชีวิต เงินงานปัง "หมอเอก เศวตฉัทร์" คมมูนิตี้
คมมูนิตี้ ปักหมุด"เดือนมกราคม"ไหว้ที่นี่ หนุนชีวิต เงินงานปัง ช่วยการเปลี่ยนแปลผลิกผันดวงโลก "หมอเอก เศวตฉัทร์"แนะนำแล้วต้องเตรียมอะไรบ้าง
เปิดเดือนมกราคม ปี 2568 มาเชื่อว่าหลายคนกำลังหาที่ไหว้ พิกัดมูสิ่งศักดิ์สิทธิ์ขอพรเพื่อความสิริมงคลรับต้นปีใหม่ "วันนี้คมมูนิตี้"จะพาไปล็อกพิกัดไหว้ให้สุดปัง สำหรับเดือนมกราคม ตามรอย "หมอเอก เศวตฉัทร์" นักโหรศาสตร์เบื้องหลังความสำเร็จด้านธุรกิจ โด่งดังทั้งคนสายเซเลบ และดาราท็อปสตาร์
ซึ่ง "หมอเอก"ได้แนะนำไว้ว่า เดือนมกราคม 2568 นี้ต้องปักหมุดไหว้ที่นี่ และเคล็ดลับคือคนที่เกิดในวันทั้ง 7 ต้องเตรียมของไหว้เฉพาะแต่ละคนไปด้วยดังนี้
สถานที่มูเดือนมกราคม 2568 คือ "ศาลหลักเมือง" แด่นักสู้ทุกชีวิต ที่จะเริ่มต้นใหม่ในปีนี้ ซึ่งคนที่เกิดในแต่ละวันควรเตรียมของไหว้ บูชาศาลหลักเมืองดังต่อไปนี้
การไหว้ศาลหลักเมืองนั้น "หมอเอก" ได้เพิ่มเติมข้อมูลว่า การไหว้ศาลหลักเมืองนั้น เพื่อตอกย้ำในการช่วยการเปลี่ยนแปลผลิกผันดวงโลก ที่สำคัญคืออย่าลืมใช้ของไหว้ตามคำแนะนำ จะช่วยให้เกิดเหตุการณ์ที่ส่งผลดีกับชีวิตของคุณ ซึ่งศาลหลักเมืองมีทุกจังหวัดต้องไม่พลาดที่จะไปไหว้
- คนเกิดวันพุธ | ใช้กุหลาบชมพู 8 ดอก
- คนเกิดวันพฤหัสบดี | ใช้ส้ม 4 ผล
- คนเกิดวันศุกร์ | ใช้ฟักทอง 1 ลูก
- คนเกิดวันเสาร์ | ใช้พวงมาลัยชายกุหลาบ 1 พวง
- คนเกิดวันอาทิตย์ | ใช้สับปะรด1 ลูก
- คนเกิดวันจันทร์ | ใช้มะพร้าวอ่อน1 ลูก
- คนเกิดวันอังคาร | ใช้พวงมาลัยดาวเรือง
"ศาลหลักเมืองกรุงเทพมหานคร"
ศาลหลักเมืองกรุงเทพมหานคร เป็นศาลที่สร้างขึ้นมาพร้อมกับการสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์เป็นราชธานี ตามธรรมเนียมพิธีพราหมณ์ว่า ก่อนที่จะสร้างเมืองจะต้องทำพิธียกเสาหลักเมืองในที่อันเป็นชัยภูมิสำคัญ เพื่อเป็นสิริมงคลแก่บ้านเมืองที่จะสร้างขึ้น ศาลหลักเมืองกรุงเทพมหานครตั้งอยู่บริเวณมุมด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้ของท้องสนามหลวง ตรงข้ามพระบรมมหาราชวัง ถนนหลักเมือง-ถนนราชดำเนินใน แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร
จุดสำคัญของศาลหลักเมืองคือ เสาหลักเมือง ซึ่งได้กระทำพิธียกเสาขึ้นเมื่อวันที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2325 เดิมทีเสาหลักเมือง มีเพียงศาลาปลูกไว้กลางแดดกันฝนเท่านั้น จนชำรุดลงอย่างมากในสมัยรัชกาลที่ 4 พ.ศ. 2395[2] จึงโปรดเกล้าฯให้ทำขึ้นใหม่อีกเสาหนึ่ง ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้ศาลหลักเมืองกรุงเทพมหานครมีเสาหลักเมือง 2 ต้น นับจากนั้นเป็นต้นมา
สำหรับศาลาศาลหลักเมืองหลังปัจจุบันนี้ มีรูปแบบเป็นอาคารเครื่องปูน ทรงยอดปรางค์ มีมุขยื่นทั้ง 4 ด้าน แต่ละด้านมีหลังคาซ้อน 2 ชั้น และมีมุขลดอีกด้านละ 1 ชั้น มีหลังคากันสาดโดยรอบ เครื่องมุงประดับกระเบื้องเคลือบ ตามลักษณะสถาปัตยกรรมอยุธยาในอดีต ได้รับการออกแบบโดย พล.อ.ต. อาวุธ เงินชูกลิ่น (ศิลปินแห่งชาติสาขาศิลปะสถาปัตยกรรม ในเวลาต่อมา) พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชวินิจฉัยในงานออกแบบครั้งนี้ด้วยโดยมีการบูรณะระหว่างปี พ.ศ. 2425-2529