ศรัทธาสายมู

ตีกล้องส่องพระ กับ เหรียญปิดตาพังพะกาฬปี2532

ตีกล้องส่องพระ กับ เหรียญปิดตาพังพะกาฬปี2532

26 ต.ค. 2566

ศึกษาเกร็ดความรู้ทั้งความเชื่อ และ จุดตำหนิ รูปลักษณ์ กับ เหรียญปิดตาพังพะกาฬปี 2532 พุทธคุณขจัดอุปสรรค แก้ดวงชะตา


นับตั้งแต่การเปลี่ยนราศี ของ ดาวราหู เมื่อวันที่ 17 ต.ค. ที่ผ่านมา ในทางความเชื่อนั้น ก็ว่ากันว่า ควรที่จะบูชาพระราหู เพื่อที่ว่าดวงดีจะได้ดียิ่งขึ้น ดวงไม่ดีก็จะผ่อนผันลง รวมทั้งยังมีการแนะนำให้ใช้วัตถุมงคลที่เกี่ยวกับพระราหู หรือ ที่สามารถป้องกันพระราหูได้ มาติดตัวเพื่อเสริมสิริมงคลตามความเชื่อ และในโซเชี่ยลนั้น ก้เห็น อาจารย์พล พยัคฆราช แห่งอุทบยานพระฤาษี สุพรรณบุรี โพสต์ภาพ วัตถุมงคลเนื้อผงรุ่นสำคัญ จตุคามรามเทพรุ่นแรก ทำให้บังเอิยนึกถึงวัตถุมงคลในช่วงการสร้างหรือในห้วงเวลาใกล้เคียงกัน ที่เป็นสายเดียวกันกับองค์จตุคามรามเทพ นั่นคือ พญาพังพะกาฬ 

ตีกล้องส่องพระ กับ เหรียญปิดตาพังพะกาฬปี2532

สำหรับพระปิดตาพังพระกาฬ หรือ พญาพังพระกาฬ นั้นมีความเชื่อว่าประวัติพระปิดตา เป็นภาคอวตารของพระเทวราชโพธิสัตว์จตุคามรามเทพ อีกภาคหนึ่ง ในทางความหมายจึงมีความเชื่อว่า พญาพังพระกาฬ เป็นวัตถุมงคลที่ใช้ในทางแก้ไขอุปสรรค พังทะลายความมืดมนของชีวิต นำบุคคลที่อยู่ในห้วงทุกข์จากที่มืด ออกสู่ที่สว่าง  ตามตำนานเล่าขานนั้น บอกเล่าเรื่องราวของพญาพังพะกาฬหลากหลายเรื่องเล่า เช่น บ้างก็ว่าเป็นภาคหนึ่งขององค์จตุคามรามเทพ บ้างก็ว่าเป็นขุนศึกที่เข้ามาร่วมรบสู้ เพื่อกอบกู้อาณาจักรศรีวิชัยเอาไว้

ตีกล้องส่องพระ กับ เหรียญปิดตาพังพะกาฬปี2532

ถึงแม้จะมีเรื่องราวมากหลาย แต่ที่แน่แท้ในกลุ่มผู้มีความเชื่อศรัทธาในองค์พังพะกาฬนั้น ต่างได้ระบุว่า อานุภาพของพระปิดตาพังพระกาฬ ได้แสดงให้ประจักษ์แก่ผู้ที่เคารพศรัทธา ช่วยแก้ไขวิกฤตของชีวิต หรือผ่านอุปสรรคต่างๆที่ขวางหน้ามานักต่อนักแล้ว ถ้าในเรื่องที่ขอนั้นไม่เกินบุญเกินกรรม และอยู่ในศีลในธรรม ก็มักอยู่ในอำนาจของการดลบันดาลได้เสมอ จุดเริ่มต้นการสร้างพระปิดตาพังพะกาฬนั้น

ตีกล้องส่องพระ กับ เหรียญปิดตาพังพะกาฬปี2532

จากข้อมูลที่ระบุกันแพร่หลายชี้ไปไปในทิศทางเดียวกันว่า เกิดขึ้น ในช่วงปี 2532 ช่วงการก่อตั้งศาลหลักเมืองจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้มีการประทับเข้าทรงองค์พ่อจตุคามรามเทพ ร่างทรงคือ คุณอะผ่อง สกุลอมร (โกผ่อง) องค์พ่อจตุคามรามเทพได้มีบัญชา อยากให้ท่าน พ.ต.อ.สรรเพชญ ธรรมาธิกุล (ยศในขณะนั้น) สร้างพระปิดตาพังพระกาฬ ซึ่งเป็นพระคู่บ้านคู่เมืองอาณาจักรศรีวิชัย มาตั้งแต่สมัยอดีต ประกอบกับปีนั้นเป็นปีมะเส็ง เป็นปีนักษัตรกำเนิดของพญาพังพระกาฬพอดี

ตีกล้องส่องพระ กับ เหรียญปิดตาพังพะกาฬปี2532

ในขณะนั้นท่านพ.ต.อ.สรรเพชญ ได้มีการสอบถามถึงรูปแบบของพระปิดตาพังพระกาฬกับร่างทรง ซึ่งองค์พ่อจตุคามรามเทพในร่างทรง ได้มีการกล่าวตอบมาว่า เดี๋ยวจะมีคนนำมาให้เอง หลังจากนั้นไม่นานก็ได้มีเรื่องแปลกมหัศจรรย์เกิดขึ้น เมื่อท่านกำจร สถิรกุล อดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยในขณะนั้น ได้เดินทางไปยังจังหวัดนครศรีธรรมราช เนื่องจากมีญาติท่านคนหนึ่งเสียชีวิตที่ปากพนัง

ตีกล้องส่องพระ กับ เหรียญปิดตาพังพะกาฬปี2532

ประจวบกับมีชาวประมงมาเดินเร่ขายพระ ซึ่งท่านก็ไม่ทราบว่าเป็นพระอะไร คงเป็นเพราะความศรัทธา หรือปาฏิหาริย์ก็ไม่ทราบ ท่านก็ได้ขอเช่าบูชาไว้ 2 องค์ เป็นพระต่างชนิดกันในราคา 500 บาท ตกองค์ละ 250 บาท ก่อนการเดินทางกลับกรุงเทพฯ ท่านได้แวะเยี่ยมท่าน พ.ต.อ.สรรเพชญ  และได้มอบพระดังกล่าวให้ท่านพ.ต.อ.สรรเพชญ  1 องค์ เป็นลักษณะของพระปิดตาแบบลอยองค์ในท่านั่งขัดสมาธิเพชร ยกฝ่ามือทั้ง 2 ปิดใบหน้า

ตีกล้องส่องพระ กับ เหรียญปิดตาพังพะกาฬปี2532

สวมมงกุฎเป็นรูปดอกบัวที่กำลังจะบาน 2 ชั้น ข้างบนสุดเป็นรูปดอกบัวตูมมีกลีบ 2 กลีบ มียันต์ก้นหอยตรงสะดือ สวมกำไรทั้งข้อมือ ข้อเท้า ด้านหลังเป็นรูปนักษัตร ปีมะเส็ง เป็นลักษณะของประติมากรรมเก่าแก่ ฝีมือช่างหลวง หล่อด้วยโลหะพิเศษที่เรียกว่า เงินยวง มีขนาดความสูงประมาณ 1 นิ้วครึ่ง หน้าตักกว้างประมาณ 1 นิ้ว มีอายุความเก่าหลายร้อยปี..เมื่อท่านพ.ต.อ.สรรเพชญ ได้พระต้นแบบมาดังนั้น ก็ได้ให้ช่างได้มีการดัดแปลงรูปแบบ เพราะเจตนาขององค์พ่อ ต้องการให้สร้างเป็นเหรียญ มีขนาดเท่ากับเหรียญบาทในสมัยนั้น โดยปรับเปลี่ยนนักษัตร ปีมะเส็งที่อยู่ด้านหลัง นำมาไว้ด้านข้างทั้งซ้ายขวาขององค์พระเพิ่มอักขระพระคาถา นะ มะ พะ ทะ ,นะโม พุท ธายะ , อุณาโลม , รวมถึงตัวอักขระที่องค์พ่อจตุคามรามเทพ ท่านทรงกำหนด

ตีกล้องส่องพระ กับ เหรียญปิดตาพังพะกาฬปี2532

ส่วนด้านหลังกำหนดให้ลงดวงเมืองใหม่ของจังหวัดนครศรีธรรมราชไว้ในจักรราศี ล้อมด้วย 12 นักษัตร มีพญาราหูทั้ง 8 ตน ล้อมจักรราศี ไว้ด้านนอกสุด โดยได้รับความอนุเคราะห์ในการจัดสร้างจาก คุณศิริชัย บูลกุล ซึ่งเป็นวุฒิสมาชิกในสมัยนั้น ออกทุนในการจัดสร้าง และสร้างที่โรงงานชื่อดังแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร ย่านพรานนก มีลักษณะเป็นเหรียญปั๊ม สร้างเป็นเนื้อโลหะ 3 รายการคือ

ตีกล้องส่องพระ กับ เหรียญปิดตาพังพะกาฬปี2532

เนื้อทองคำ จำนวน 24 องค์ , เนื้อเงิน จำนวน 120 องค์ , เนื้อนวะโลหะ จำนวน 12,000 องค์ อย่างในรูปตัวอย่างนี้ เป็นเนื้อนวะโลหะ บล็อกพิมพ์เคราสั้น คำว่าเคราสั้น ให้สังเกตที่พญานาคด้านหลังองค์พังพะกาฬ ด้านซ้ายถ้ามองเข้าหาเหรียญ จะมีเคราใต้คางที่สั้น กับอีกพิมพ์เป็นบล็อกเครายาว เส้นเคราเกือบมาชิดลำตัว