"เอม" แจงเมารั่วกับ จ๊ะ แค่การแสดง ส่วน พิมรี่พาย ด่ากันเอาสนุก ไม่มีเกาเหลา
มีเรื่องเล่า ตำนานเกิดขึ้นทุกวันเสมอ เพราะหลังๆ "จ๊ะ นงผณี" และ เพื่อนซี้ อย่าง "เอม วิทวัส" เขาออกงานคู่รัวๆ จนมีนิทานมาเล่ากันแทบทุกวัน งานเดี๋ยวก็ต้องพัก ในเมื่องานคู่รุ่งพุ่งแรงมากๆ
อีก 1 คู่ที่มาแรงมากใน พ.ศ.นี้ ที่สนิทมากไปแล้วมั่ง สำหรับ ลูกทุ่งสาวชื่อดัง “จ๊ะ นงผณี” และเพื่อนซี้เน็ตไอดอล “เอม วิทวัส” ปากไวใจถึง บอกเลยว่า อย่าให้รวมตัวกันได้ ม่วนหลายเด้อ กลายเป็นไวรัลล้านวิวเมื่อทั้งคู่แท็กทีมจับไมค์ร้องเพลงออกงานเอนเตอร์เทนคู่แบบรัวๆ
ล่าสุดในงาน ไฮป์ จัดงานเปิดตัวเเฟลกชิปสโตร์แห่งแรกในประเทศไทย พร้อมดึงดาราศิลปินร่วมเดินแฟชั่นโชว์ เปิดตัวสินค้า collection ใหม่ ณ ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 พระราม 3 ซึ่งเป็นสโตร์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ ภายใต้การดูแลของกลุ่มบริษัท เดอะ จีเอสเอฟ กรุ๊ป ในงานนี้จะมีการนำเสนอสินค้า collection ใหม่ ผ่านการเดินแบบสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ทำให้ผู้สื่อข่าว ได้พูดคุย กลังจาก “เอม วิทวัส” ร่วมเดินแบบดังกล่าวด้วย
งานนี้นักข่าวหลายสำนักรุมถาม เอมพูดถึงความสนิทกับเพื่อนๆ ทั้งจ๊ะ รวมถึง พิมรี่พาย ด้วยว่า...
“อย่าใช้คำว่านักร้อง ตอนนี้มีแต่คนเรียก ให้ใช้คำว่าดีว่า(หัวเราะ) จริงๆ มันเป็นเพียงแค่การโชว์ คือเรากับจ๊ะโชว์มาด้วยกันเฉยๆ เริ่มจากที่เชียงใหม่ก่อน หลังจากนั้นคนก็ชอบ เขารู้สึกว่าเคมีเรามันตรงกัน เล่นกันแล้วเขารู้สึกสนุก เลยจ้างเราไปโชว์ ก็มียาวมาเรื่อยๆ กับ จ๊ะ-เอม ทัวร์คอนเสิร์ต จริงๆ จะมีวงเดี่ยวจ๊ะ วงเดี่ยวเอม แล้วก็มีจ๊ะ-เอมรับงานคู่ด้วย พอมีงานคู่เยอะเข้า เลยต้องเบรกงานเดี่ยวกันก่อน คนคงชอบที่เห็นเราพังบนเวที ราคางานคู่เราก็น่ารักๆ จ้างไปคุ้มแน่นอน เพราะเล่นเกินเวลาตลอด คนดูจอยเราก็เล่นไปเรื่อยๆ แถมไม่ไหวโชว์เรามีซ้อมกัน ส่วนมุกคือสดบนเวที ฟีลเหมือนเราไปเล่นกับเพื่อนมากกว่า เอมกับจ๊ะไม่ได้แพลนไว้ว่าวันไหนเราจะเล่นมุกไหนกัน แล้วมุกไม่ได้ซ้ำกันเลยสักวันนึง เหมือนเราคุยเล่นกับเพื่อนเราบนเวที แต่มีไมค์เข้ามาด้วยเท่านั้นเลย สดหมดทุกอัน บางทีเนื้อเพลงก็สด เพราะจำไม่ได้”
งานนี้ยืนยันด้วยว่า ไม่ได้คบกันเพราะผลประโยชน์ แต่เป็นการที่เป็นเพื่อนกันแล้วไปทำงาน ถ้าคบกันเพื่องาน เพื่อผลประโยชน์เดี๋ยวก็แตก "เราก็ช่วยกัน เกื้อหนุนกันแต่ช่วงไม่เกื้อหนุนกันมันก็มี ตอนเป็นข่าวตอนนั้นมันก็มีค่ะ แต่ไม่ได้โพสต์"
บอกอีกว่า "เอาที่สนุก เอาที่เราจอย ถามว่าเหนื่อยไหมมันก็ยังไม่ถึงกับรากเลือด เป็นอะไรเราก็แค่กินยา แต่ตอนนี้มันกลายเป็นว่าเขาจะจ้างเราถึงเมื่อไหร่ แค่นั้นเลย เราก็จบได้ เราไม่ได้ถึงขั้นเปิดคอนเสิร์ตระดับโลก ทุกวันนี้ไม่ได้คิดว่าตัวเองเป็นนักร้อง เหมือนไปทำงาน ไปสนุกกับเพื่อนมากกว่า เราไม่ได้อยากดัง ไม่อยากดังแล้วอยากทำงานไปเรื่อยๆ ไม่รู้ว่าจะต้องดังไปทำไม วงเดียวที่จะตั้งคือวงเหล้า”
ส่วนเรื่องเมาออกสื่อ หรือเมารั่วแบบที่เห็นกัน “บางทีมันก็เป็นคอนเทนต์มากกว่า คือเราก็เมา เราก็จอยกับทุกงาน คือมันมีคลิปเราไปออกสื่อไง พอมากๆ เข้าคนมองว่าเอม-จ๊ะ ดื่มหนักจังเลย เป็นห่วงสุขภาพมาก แต่คนที่ไม่ออกสื่อคือตั้งวงกันตั้งแต่เช้าเลยนะ มันเลยกลายเป็นว่าถูกมองทำไมดื่มกันหนัก เรื่องจริงมันคือการแสดงค่ะ เป็นส่วนนึงของการแสดงบนเวที
ทั้งนี้ หาก เอม-จ๊ะ-พิมรี่พาย รวมตัวกันได้ หรือจ้างไปพร้อมกัน เอมก็เล่าขำๆว่า “เจอกัน 3 คนก็พังทลายกันหมด มีแต่คนอยากจะมากินเหล้ากับเอม จ๊ะ พิม เหลือเกิน ดูสนุกมีแต่เสียงหัวเราะ"
แต่เบื้องหลังใครจะรู็ในกลุ่มไลน์ที่คุยกันคือ "มึง เราเครียดเนอะ เราไปนั่งกินข้าวกันเฉยๆ ไหม เพราะบางทีอยู่ด้วยกันไม่ได้คุยอะไรกันเลย นั่งกันเงียบๆ มองหน้ากัน ปรับทุกข์กันมากกว่า มันมีความเครียดเหมือนกันนะ พิมขายของ เอม จ๊ะทำงานทุกวัน เรา 3 คนแทบไม่มีเวลาเจอกันด้วยซ้ำ บางทีก็คิดถึงกัน ด่ากันเป็นคอนเทนต์มากกว่า”
อย่างไรก็ตาม ยืนยันเสียงดังฟังชัดว่า ไม่มีเกาเหลา เพื่อนกันก็มีด่ากันเป็นธรรมดา “มันจะมีเพื่อนกันที่บอกวันนี้เธอสวยจังเลยจ๊ะ ไปซื้อเสื้อผ้าที่ไหนมา ไม่มีหรอกแบบนั้น สวยแค่ไหนเพื่อนก็ด่า สวยที่สุดเพื่อนก็ด่า เพื่อนก็บอกตลกอยู่ดี เราด่ากันไม่มีทะเลาะกัน คนไม่ด่ากันทะเลาะกันเยอะแยะไป เราเป็นเพื่อนกัน เรารู้ว่าอะไรที่เราพูดได้พูดไม่ได้มากกว่า ด่าไปเลย ด่าไปซะให้จบๆ ได้โอกาสด่าแล้วก็ด่าไปเลย ลุยเลย มันจะไปเก่งกว่าเราได้ยังไง เราจะเป็นจิกกันตลอด พิมจะเป็นสายแว๊ด จ๊ะจะเป็นนั่งงง อินั่นจะเป็นมึนๆ งงๆ บางทีแยกกันถึงบ้านแล้วเพิ่งจะรู้ว่าเมื่อกี้เพื่อนด่ากัน ไม่ค่อยรู้เรื่อง” เอมกล่าว