ชวนเที่ยวเกาะแบบลุย ๆ กับ10 เกาะ 3 จังหวัด ที่ห้ามพลาด | คมชัดลึก

ไม่ว่าจะขับรถไปเอง หรือนั่งรถโดยสารประจำทางไป ก็สามารถไปถึงได้ทั้งนั้น ลุยบ้าง สบายบ้างคละเคล้ากันไปตามสไตล์สายเที่ยวที่ชอบลุย ๆ โดยไม่ต้องคาดหวัง และไม่ต้องผิดหวัง สำหรับสายเที่ยวที่ชอบลุยทั้ง ป่าเขาและทะเล เชื่อว่าคงอึดอัดกันน่าดูกับสถานการณ์โรคระบาดที่ยังไม่มีทีท่าว่าจะหมดไป  ผู้เขียนเองก็เช่นกัน ระหว่าง WFH เลยลองค้นหาสถานที่ที่อยากไปโดยเฉพาะเกาะ ใช่ครับ อยากไปเป็นชาวเกาะ ผมเลยคัดสรร เกาะที่คิดว่าน่าจะเหมาะกับสายลุยมานำเสนอกัน เผื่อว่ามีโอกาสก็อย่าพลาดที่จะไปนะครับ

 

1 เกาะกำตก จ.ระนอง 

เป็นเกาะเล็ก ๆ ที่อยู่ในหมู่เกาะกำ ขึ้นอยู่กับอุทยานแห่งชาติแหลมสน บนเกาะไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวก
มีเพียงที่ทำการอุทยานเล็ก ๆ และห้องน้ำไว้คอยบริการนักท่องเที่ยว เหมาะกับการไปเที่ยวแบบ one day trip แต่ถ้าคุณมีความประสงค์อยากจะค้างคืนบนเกาะก็ไม่มีปัญหาอะไร ก็สามารถกางเต็นท์ได้ จุดที่สวยที่สุดก็จะอยู่บริเวณหาดเขาควาย และมีเส้นทางปีนเขาไปชมวิวมองลงมาทางหาดเขาควายที่มีความโค้งสวยงามรับกับท้องทะเลแต่ต้องดูช่วงเวลาน้ำขึ้นน้ำลงให้ดีนะครับ ตอนน้ำขึ้นจะสวยงามมากครับ การเดินทาง ให้มุ่งหน้าไปทางอุทยานแห่งชาติแหลมสน แล้วติดต่อว่าจ้างเรือจากชาวบ้านละแวกนั้นได้เลยครับ

2 เกาะพยาม จ.ระนอง 

เป็นเกาะขนาดใหญ่ หนึ่งในสองเกาะของจังหวัดระนอง พื้นที่บนเกาะมีร้านอาหารและที่พักไว้บริการ จึงเหมาะกับนักท่องเที่ยวทุกเพศวัย ส่วนสายลุยก็มีความสุขและลุยได้เหมือนกัน ด้วยพื้นยังเป็นป่าอยู่มากเหมาะที่จะเดินเล่นเรียกเหงื่อ หรือเช่ามอเตอร์ไซค์ขับสัญจรไปยังจุดต่าง ๆ คงไม่ต้องแนะนำมากว่าตรงไหนสวย เพราะความสวยอยู่ที่มุมมองของแต่ละคน ส่วนตัวผมบนเกาะพยามนี้เหมาะมากที่จะมาพักผ่อนมาเติมพลังให้กับร่างกายที่เหนื่อยล้า การเดินทางมาเกาะพยาม ให้มุ่งหน้ามาที่ท่าเรือเทศบาลตำบลปากน้ำ ที่นั่นจะมีเรือไว้คอยบริการสำหรับมาเกาะพยามโดยเฉพาะ เพียงหนึ่งชั่วโมงจากฝั่งเท่านั้นเอง

 

 

3 เกาะช้าง จ.ระนอง

เป็นเกาะขนาดใหญ่อันดับหนึ่งของจ.ระนอง มาเกาะช้างต้องแวะอ่าวเสียด ที่นี่มีที่พักสไตล์โจรสลัด ในราคาหลักร้อย เงียบสงบ ไม่มีแสงสีเสียง ป่าบนเกาะยังสมบูรณ์อยู่มาก ยังมีนกเงือกให้ได้เห็น บนเกาะช้างนี้ยังมีอ่าวใหญ่ อีกอ่าวหนึ่งที่ถือว่าเป็นที่ๆมีนักท่องเที่ยวคึกคักแบบเงียบๆ มากที่สุด  บริเวณนี้มีห้องพัก บังกะโลมากกว่าอ่าวเสียด แต่จะอยู่ห่างจากชายหาด เลยทำให้ไม่เห็นที่พักริมชายหาดซึ่งอันนี้ผมคิดว่าเป็นสิ่งที่ดี ทำให้ชายหาดนั้นดูเป็นธรรมชาติและไม่มีอะไรไปรบกวน การเดินทางมาเกาะช้างระนอง ใช้ท่าเรือเดียวกันกับที่มาเกาะพยาม แต่ต้องดูเวลารอบเรือให้ดีเพราะเรือมาเกาะช้างรอบการเดินเรือจะน้อยกว่าเกาะพยาม

 

4 เกาะกุลา จ.ชุมพร

อยู่ในความดูแลของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร และต้องมาขึ้นเรือที่นี่ เพื่อมาขออนุญาตตามระเบียบอุทยาน จริง ๆ แล้วต้องจองออนไลน์มาก่อน จากนั้นจึงค่อยนำเอกสารมายื่นตรวจสอบความถูกต้องอีกครั้ง ทำไมต้องเป็นเกาะกุลา ที่นี่เป็นเกาะที่เหมาะมากกับการกางเต้นท์แค้มป์ปิ้ง แต่ต้องบอกไว้ก่อนว่า ไม่อนุญาตให้ประกอบอาหาร แต่ถ้าต้มกาแฟล่ะพอได้ ส่วนอาหารนั้นบนเกาะจะมีบริการโดยคิดเป็นราคาต่อหัว หรือถ้าใครอยากประกอบอาหารกินเองจริงๆ ทางอุทยานมีครัวกลางไว้ให้ครับ ส่วนกิจกรรมที่น่าสนใจก็จะเป็นเรื่องดำน้ำตื้น และพายเรือคายัครอบเกาะ 

 

5 เกาะมะพร้าว จ.ชุมพร

ใกล้ฝั่งมากที่สุด คือประมาณ 2 กิโลเมตร อยู่ตรงข้ามศาลกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ จุดขึ้นเรืออยู่ที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร บนเกาะมีพื้นที่กางเต้นท์แต่ต้องขออนุญาต ส่วนอาหารต้องเตรียมมาเอง โดยส่วนตัวผม ๆ คิดว่าที่นี่แค่แวะมาดำน้ำเล่นน้ำก็น่าจะ ok แล้ว แต่ถ้าสายลุย บอกเลยที่นี่สุดจริงในเรื่องของการโดนปล่อยเกาะ

 

6 เกาะยอ จ.ชุมพร

อยู่นอกเขตอุทยานแห่งชาติ ที่ดูแลกันเองโดยชุมชนหน่วยงานท้องถิ่น อบต.ตำบลปากคลอง กรมทรัพยากรชายฝั่ง และกรมป่าไม้ ช่วยกันดูแล บนเกาะไม่สามารถนอนพักได้ แต่มีเส้นทางเดินชมวิวรอบเกาะ เหมาะกับการมา one day trip เป็นที่ตั้งของธนาคารปูที่เป็นต้นแบบของธนาคารปูในบ้านเรา การเดินทางไปก็ไปติดต่อของลงเรือที่บ้านเกาะเตียบ อ.ปะทิว สำหรับผมถ้าไปถึงแล้ว อาจจะต้องขออนุญาตนอนบนเกาะสักคืน เพราะบอกเลยว่าบรรยากาศน่าโดนปล่อยเกาะมาก ๆ

 

7 เกาะไข่ จ.ชุมพร

อีกเกาะหนึ่งในหมู่เกาะทะเลชุมพร เป็นเกาะที่มีหาดทรายขาวนวล มีความเป็นเกาะส่วนตัวสูงมาก อยู่ตรงข้ามสนามบินชุมพร สามารถมาลงเรือที่ท่าเรือไปเกาะไข่ได้เลยอยู่ใกล้สนามบิน เกาะไข่เป็นเกาะใกล้ฝั่ง ที่เงียบสงบเหมาะแก่การโดนปล่อยเกาะอีกเกาะหนึ่ง สำหรับท่านที่ชอบดำน้ำดูปะการังน้ำตื้น ที่ใต้ผืนน้ำแห่งนี้มีหอยมือเสือที่สวยงามและหายากให้ชมอีกด้วย การมาท่องเที่ยวที่นี่รายได้เข้าชุมชนถือว่าเป็นการกระจายรายได้ทางหนึ่ง ชุมชนอยู่ได้ ธรรมชาติก็อยู่ได้ เราก็ได้เที่ยวในที่สวย ๆแบบนี้ดีมั้ยครับ

 

8 เกาะหมาก จ.ตราด

จากเกาะทางภาคใต้คราวนี้ย้ายมาภาคตะวันออกบ้าง เพียง 3 ชั่วโมงจากกรุงเทพมหานคร มุ่งหน้ามาแหลมงอบ เพื่อมาลงเรือไปเกาะหมาก ไปสัมผัสวิถี LOW CARBON โดยชุมชนชาวเกาะชูจุดขายการท่องเที่ยวแบบคาร์บอนต่ำ เช่นการใช้พลังงานทดแทน ดูแลแหล่งน้ำ การจัดการขยะมีการคัดแยกชัดเจน สุดท้ายคือการรักษาวิถีชีวิตของชุมชนให้คงอยู่แบบเดิมให้มากที่สุดทำลายธรรมชาติน้อยที่สุด ที่เริ่มเห็นชัดเจนก็เริ่มมีเรือ กับรถที่ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ บนเกาะมีที่พักไว้บริการนักท่องเที่ยวมากมาย ร้านอาหารก็เยอะ ฉะนั้นไม่ต้องกลัวว่าไม่มีที่พักที่กิน แต่สายลุยแบบผมๆขอที่กางเต็นท์ริมชายหาด มีห้องน้ำสะอาด ๆ เท่านี้ผมก็ดีใจแล้ว

 

9 เกาะกระดาด จ.ตราด

อยู่ติดกับเกาะหมากเลย นั่งเรือจากแหลมสนเกาะหมาก ประมาณ 10 นาที บนเกาะไม่มีภูเขาสูง เหมือนเกาะอื่นๆ มีบ้านเก่าสถาปัตยกรรมท้องถิ่นที่อายุร่วมร้อยปีให้ศึกษาถึงวิถีชีวิตของคนในสมัยก่อน ธรรมชาติที่สวยงามบนเกาะกระดาดนั้นเงียบสงบต่อการพักผ่อนอย่างยิ่ง การได้เดินเล่นระยะทางไกลๆรอบเกาะก็เป็นกิจกรรมอย่างหนึ่งที่น่าทำเพราะพื้นที่รอบเกาะไม่มากระยะทางเดินรอบเกาะประมาณ 5-6 กิโลเมตรเท่านั้นเอง ไฮไลค์อย่างหนึ่งของที่นี่คือกวางที่เดินเล่นกันอย่างสบายใจทั่วเกาะมีให้เห็นชินตา และจุดถ่ายรูปที่ใครๆมาก็ต้องมาถ่ายคือต้นมะพร้าวที่เอนออกสู่ทะเล

 

10 เกาะหวาย จ.ตราด

เกาะนี้จะอยู่ทางใต้ของเกาะช้าง วิธีเดินทางมาเกาะหวายต้องลงเรือที่แหลมงอบ ซึ่งมีให้บริการอยู่หลายเจ้า ระยะเวลาจากแหลมงอบก็ประมาณ 1 ชั่วโมงเศษ ๆ ขึ้นอยู่ฟ้าฝนและคลื่นลมด้วย บรรยากาศบนเกาะเงียบสงบดูส่วนตัว ที่นี่มีเส้นทางเดินเทรล สำหรับผู้ที่ชื่นชอบในการเดินป่าชมธรรมชาติไปยังจุดชมวิว เกาะหวายไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกใดใดเลย ยกเว้นที่พักบนเกาะและต้องจองล่วงหน้า ประเภทแบกเป้เที่ยวก็มาได้ ส่วนห้องน้ำก็คงต้องคุยกับผู้ให้บริการบนเกาะกันเองครับ แต่สำหรับสายลุยแล้วละก็ผมว่าตรงไหนก็อยู่ได้นอนได้ ใช่มั้ยครับ

 

ก่อนวางแผนเดินทางอย่าลืมเช็กเดือนที่เหมาะสมกับการท่องเที่ยวและอ่านเงื่อนไขรายละเอียดการเข้าพื้นที่อีกครั้งนะครับ

ช่วงเวลาที่ควรเที่ยวทะเลตะวันออก  มกราคม , กุมภาพันธ์ , มีนาคม , เมษายน , พฤศจิกายน และธันวาคม

ช่วงเวลาที่ควรเที่ยวทะเลอันดามัน  มกราคม , กุมภาพันธ์ , มีนาคม , เมษายน , พฤศจิกายน และธันวาคม

 

ขอบคุณภาพประกอบบทความจาก https://thai.tourismthailand.org/