ไฟใต้คุโชน “แพทองธาร” ขอโทษ “ตากใบ” จับตาศึกส้ม-นอมินีแดง | คมชัดลึก

ไม่มีปาฏิหาริย์ แพทองธาร ขอโทษญาติเหยื่อคดีตากใบ สส.ส้มรุกขอสภาฯ ร่วมทางออกกรณีโศกนาฏกรรมชายแดนใต้

 

ตากใบในมุมการเมือง นักวิชาการชี้รัฐบาลเพลี่ยงพล้ำ หากมีการเลือกตั้ง คะแนนนิยมจะตกไปอยู่ที่ฝ่ายค้านคือ พรรคประชาชน

 

ก่อนที่คดีสลายการชุมนุมตากใบ จะหมดอายุความในวันที่ 25 ต.ค.2567 แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ออกมาแถลงกรณีตากใบแสดงความเสียใจและขอโทษต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต

 

“ดิฉันเองในฐานะนายกรัฐมนตรี วันนี้ก็รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก และขอโทษในนามของรัฐบาลด้วย ก็จะทำให้ดีที่สุดไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก”

 

ด้าน รอมฎอน ปันจอร์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน แถลงข่าวเปิดเผยว่า ในการประชุมสภาผู้แทนฯนัดพิเศษในวันที่ 25 ต.ค.2567 พรรคประชาชนจะเสนอญัตติด่วนด้วยวาจา ขอให้สภาฯ เปิดให้มีการอภิปรายหารือทางออกทางการเมืองเกี่ยวกับโศกนาฏกรรมคดีตากใบ เนื่องจากเป็นวันสุดท้ายของอายุความของคดีอาญา

 

“เราควรต้องใช้ปาก และหู ในการพูด และรับฟัง แทนที่จะใช้ปืน และความเงียบ เรามีพื้นที่ไว้สำหรับการอภิปรายถกเถียง” สส.รอมฎอน กล่าว

 

ที่ผ่านมา รอมฎอน ปันจอร์ แกนนำหลักพรรคประชาชน 3 จังหวัดชายแดนใต้และ กัณวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม คือตัวละครหลักฝั่งฝ่ายค้านที่ลุกขึ้นมาทวงถามความยุติธรรมให้แก่เหยื่อในคดีตากใบ

ตากใบและคะแนนนิยม

 

‘รศ.เอกรินทร์ ต่วนศิริ' อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ ม.สงขลานครินทร์ ให้สัมภาษณ์ Spacebar กล่าวถึงฉากทัศน์ทางความมั่นคงหลังคดีตากใบสิ้นอายุความ ซึ่งคนในพื้นที่ให้ความสำคัญกับการแสดงออกในเชิงประชาธิปไตย ไม่ว่าจะเป็นการลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง หรือการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์

 

ในมิติทางการเมือง มองว่า สถานการณ์ชายแดนภาคใต้ ถือเป็นความซับซ้อน มีหลายมิติที่เกี่ยวเนื่องกัน โดยเฉพาะพรรคการเมือง และคะแนนนิยม

 

หากมีการจัดการเลือกตั้งในระยะอันใกล้ คะแนนความนิยมจะตกไปอยู่กับ ฝ่ายค้านอย่างพรรคประชาชน ที่เอาจริงเอาจังกับการทวงความยุติธรรมให้เหยื่อคดีตากใบ

 

“หากระบบการเลือกตั้งยังเป็นแบบบัตร 2 ใบ ในส่วนระบบปาร์ตี้ลิสต์ พรรคประชาชนจะได้รับการลงคะแนนเสียงจากคนสามจังหวัดชายแดนใต้มากขึ้น และอาจมีแนวโน้มที่จะได้ สส. แบบแบ่งเขตด้วยเช่นกัน”

 

ส้มปะทะนอมินีแดง

 

อย่างที่ทราบกัน “นายใหญ่” และพรรคเพื่อไทย ได้ถอยออกจากชายแดนใต้ และส่งไม้ต่อให้พรรคประชาชาติ ลุยสนามเลือกตั้งแทน

 

เนื่องจากแบรนด์ “ทักษิณ” ไม่ว่าจะมาในนามไทยรักไทย พลังประชาชน และเพื่อไทย คนชายแดนใต้ได้ใช้คูหาเลือกตั้งลงโทษพรรคของทักษิณ

 

สำหรับพรรคประชาชาติ ที่มี วันมูหะมัดนอร์ มะทา เป็นหัวหน้าพรรค และ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรค ครองแชมป์ 3 จังหวัดชายแดนใต้ติดต่อกัน 2 สมัย

 

เฉพาะการเลือกตั้ง สส.ปี 2566 พรรคประชาชาติ กวาดเก้า สส.ยะลา 3 ที่นั่ง, ปัตตานี 3 ที่นั่งและนราธิวาส 1 ที่นั่ง รวมเป็น 7 ที่นั่ง

 

ส่วนคะแนนบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชาติ กวาดได้มาเยอะมากคือ ปัตตานี180,144 คะแนน, นราธิวาส 190,498 คะแนน และยะลา 126,485 คะแนน จึงได้ สส.บัญชีรายชื่อ 2 คน

 

พรรคประชาชน(พรรคก้าวไกลเดิม) ไม่ได้ สส.เขตแม้แต่เขตเดียวจากปลายด้ามขวาน แต่ได้คะแนนบัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 2 คือ ปัตตานี ได้ 72,621 คะแนน, ยะลา ได้ 66,386 คะแนน และนราธิวาส ได้ 85,742 คะแนน

 

ประเมินจากคะแนน สส.บัญชีรายชื่อ ทั้ง 3 จังหวัด พรรคประชาชาติ มีคะแนนทิ้งห่างพรรคประชาชนเกือบเท่าตัว ไม่นับคะแนนของผู้สมัคร สส.เขตของค่ายสีส้ม เฉลี่ยแล้วได้เขตละ 5,000-10,000 คะแนน

 

สาเหตุนี้ แกนนำพรรคประชาชาติ ยังไม่หวั่นไหวในกระแสทวงคืนความยุติธรรรมตากใบ ที่กำลังดังกระหึ่มในโซเชียล

 

ด้วยเหตุที่บริบทการเมือง และการต่อสู้ระหว่างรัฐไทยกับบีอาร์เอ็นได้เปลี่ยนแปลงไปค่อนข้างมาก เมื่อเปรียบเทียบกับสถานการณ์ไฟใต้เมื่อปี 2547