คอลัมนิสต์

ดีลไม่ล่ม “ทักษิณ” ลุยทุกเรื่องศูนย์กลาง “บ้านใหญ่” ธงนำอนุรักษ์ใหม่ทุบสีส้ม

ดีลไม่ล่ม “ทักษิณ” ลุยทุกเรื่องศูนย์กลาง “บ้านใหญ่” ธงนำอนุรักษ์ใหม่ทุบสีส้ม

22 พ.ย. 2567

ขวาจัดอกหัก “ทักษิณ” ดีลไม่ล่มลุยทุกเรื่อง “บ้านใหญ่” ของบ้านใหญ่ เปิดปฏิบัติการทุบส้ม จาก อบจ.ยันสนาม สส.

ดีลไม่ล่ม ทักษิณ ลุยทุกเรื่อง สถาปนาบ้านใหญ่ของบ้านใหญ่ เปิดปฏิบัติการทุบส้ม จาก อบจ.ยันเลือกตั้ง สส.สมัยหน้า

 

ขวาจัดไปไม่เป็น สับสนในฉากทัศน์การเมืองลี้ลับ ทักษิณยังเป็นไพ่ลับ ตามยุทธศาสตร์สกัดสีส้ม

 

ในที่สุด ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์ไม่รับคำร้อง ทักษิณ ชินวัตร และ พรรคเพื่อไทย ร่วมกันล้มล้างการปกครองฯ ทั้ง 6 ประเด็น เหตุยังไม่มีน้ำหนักพยานหลักฐานเพียงพอ

แม้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งยกคำร้องในครั้งนี้ แต่เชื่อว่า กลเกมการสู้รบด้วยนิติสงครามของฝ่ายค้าน น่าจะยังไม่จบสิ้นเพียงเท่านี้

 

นอกจากทักษิณจะรอดคดีล้มล้างการปกครองฯ วันที่ 22 พ.ย.2567 ยังเป็นวันดีๆอีกวันหนึ่งของตระกูล “ชินวัตร” เนื่องจากเป็นวันครบรอบวันเกิดของคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ ซึ่งมีอายุครบรอบ 68 ปี

 

คุณหญิงพจมาน ไม่ได้ปรากฏตัวต่อสาธารณชนมากนัก แต่คนในเพื่อไทยทราบดีว่า คุณหญิงอ้อไม่เคยทอดทิ้งพรรค ยิ่งลูกสาวเข้ามารับตำแหน่งนายกฯ ยิ่งต้องทำงานหนักขึ้น ในภารกิจพิเศษการเมืองลี้ลับ

 

ย้อนไปค่ำวันที่ 21 พ.ย.2567 ทักษิณได้ไปร่วมพูดคุยบนเวที Forbes Global CEO Conference-22 ซึ่งทักษิณได้เอ่ยถึงศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยคำร้องกรณีล้มล้างการปกครองฯ

 

“..ไม่เป็นไร ก็แค่รอรับฟังคำตัดสิน เพราะต้องมองไปข้างหน้า เราไม่ย้อนกลับไปในอดีต ไปข้างหน้า แต่ไม่ใช่ moving forward”

 

ทักษิณพูดคำว่า moving forward ที่คล้ายชื่อภาษาอังกฤษพรรคก้าวไกล จึงเรียกเสียงฮือฮาของผู้ที่ไปร่วมงานจำนวนมาก

กางยุทธศาสตร์ทุบส้ม

 

มีคนพูดกันเยอะ กรณีทักษิณไปขึ้นเวทีเป็นผู้ช่วยหาเสียงนายก อบจ.อุดรธานี เหมือนจะรู้สัญญาณบวกมาล่วงหน้า จึงมีอาการฮึกเหิม และมีการปราศรัยจัดหนัก อัดสีส้มทุกดอกทุกเม็ด

 

ถึงขั้นเปิดแคมเปญหาเสียงล่วงหน้า “เพื่อไทย 200 ที่นั่ง” ส่งสัญญาณถึงชนชั้นนำว่า นายใหญ่คือตัวเลือกที่จะทุบส้มให้อยู่หมัดได้

 

ประเมินว่า นับจากนี้ไป ทักษิณเดินลุยทุกเรื่อง เหมือนการพูดบนเวทีหาเสียง ขอแต่งตั้งตัวเอง มีตำแหน่ง ส.ท.ร. ซึ่งน่าจะหมายถึง ล.ท.ร.(ลุยทุกเรื่อง)

 

พร้อมกันนั้น ตั้งตัวเป็นแม่ทัพปราบส้ม ทักษิณเปิดศึกถล่มธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และพรรคสีส้ม แสดงตัวเป็นผู้พิทักษ์ มาตรา 112 เอาใจกลุ่มชนชั้นนำ

 

นอกจากดีลลับไม่ล่มแล้ว กรณีทักษิณให้สัมภาษณ์สื่อญี่ปุ่นว่า ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะกลับไทยช่วงสงกรานต์ปีหน้า จึงใกล้ความเป็นจริงเข้าไปทุกที

 

บ้านใหญ่ของบ้านใหญ่

 

ผลคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ กรณีคำร้องทักษิณล้มล้างการปกครองฯ ที่มีผลออกมาเป็นบวก ย่อมส่งผลการเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี อาจทำให้พรรคเพื่อไทยชนะ ด้วยคะแนนเสียงท่วมท้น

 

คิวต่อไป การเลือกตั้งนายก อบจ.ทั่วประเทศอีก 47 จังหวัด พรรคประชาชนเปิดตัว 12 จังหวัดใน 4 ภาค ซึ่งพรรคสีส้ม คาดหวังจะได้ภาคละ 1 จังหวัด

 

ฝั่งพรรคร่วมรัฐบาล คงจะใช้ “ราชบุรีโมเดล” คือบ้านใหญ่รวมตัวกันถล่มพรรคสีส้ม ยกเว้นบางจังหวัดที่เลี่ยงไม่ได้ บ้านใหญ่อาจต้องแข่งกันเอง โดยมีสีส้มลงสนามด้วย

 

ส่วนจังหวัดอื่นๆ ที่ไม่มีพรรคสีส้มลงแข่งขัน ก็สู้กันไปตามเกมเลือกตั้ง บ้านใหญ่ชนบ้านใหญ่ ผู้ชนะก็ยังอยู่ในฝั่งรัฐบาล

 

พูดกันตามตรง พรรคเพื่อไทยในสถานการณ์ปัจจุบัน ต่างจากพรรคไทยรักไทย ในบริบทการเมืองช่วงเปลี่ยนผ่าน

 

20 ปีที่แล้ว ไทยรักไทย มีส่วนผสมของแนวทางปฏิรูปที่ก้าวหน้า และการเมืองบ้านใหญ่ กลายเป็น “พรรคกระแส” ที่มีลักษณะก้าวหน้า

 

เมื่อพรรคประชาชน ชิงธงพรรคกระแสไปครอง ทักษิณจึงสถาปนาตัวเองเป็น “บ้านใหญ่ของบ้านใหญ่” รวบรวม สส. รวมถึงนักการเมืองท้องถิ่น ที่ชนะเลือกตั้งโดยไม่อิงกระแสมาไว้ใต้ร่มธงผืนเดียวกัน

 

การเลือกตั้งครั้งหน้ามาถึง พรรคของทักษิณ อาจมีมากกว่าเพื่อไทย ซึ่งเวลานี้ ก็มีพรรคประชาชาติ และพรรคกล้าธรรม นำร่องเป็นตัวอย่าง