คอลัมนิสต์

ศึก อบจ.แปดริ้ว “พินิจ-สุชาติ” ผนึก “จาตุรนต์” ท้าชนบ้านใหญ่ ก๊วนธรรมนัส

ศึก อบจ.แปดริ้ว “พินิจ-สุชาติ” ผนึก “จาตุรนต์” ท้าชนบ้านใหญ่ ก๊วนธรรมนัส

09 ธ.ค. 2567

ครั้งแรกในรอบ 30 ปี “จาตุรนต์-สุชาติ-พินิจ” จับมือลุย “อบจ.ฉะเชิงเทรา” โค่นซุ้มบ้านใหญ่ สายธรรมนัส

ขาใหญ่แปดริ้ว จาตุรนต์-สุชาติ-พินิจ จับมือลุย อบจ.ฉะเชิงเทรา ครั้งแรกในรอบ 30 ปี โค่นซุ้มบ้านใหญ่สายธรรมนัส

 

ศึก อบจ.แปดริ้ว ส่อเค้าเดือดระอุ กลยุทธ ฉายแสง ท้าชนนายกไก่-กิตติ เป้าเปี่ยมทรัพย์ นายก อบจ.ฉะเชิงเทรา 4 สมัย

 

การรวมพลของนักการเมืองคนแปดริ้ว ทั้งระดับชาติและท้องถิ่น ที่โรงแรมเดอะบราวเฮาส์ อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา เมื่อวันที่ 6 ธ.ค.2567 สร้างปรากฏการณ์พิเศษระดับแผ่นดินไหว ในรอบกว่า 30 ปี

 

เมื่อตระกูลการเมืองเก่าแก่อย่าง ฉายแสง , ตันเจริญ และ จารุสมบัติ มารวมใจกันสู้ศึกเลือกตั้งท้องถิ่น ในนามกลุ่มรวมฉะเชิงเทรา ดัน “นายกก้อย” กลยุทธ ฉายแสง นายกเทศมนตรีเมืองฉะเชิงเทรา ลงสมัคร นายก อบจ.ฉะเชิงเทรา

ซุ้มฉายแสง มีพี่ใหญ่ “อ๋อย” จาตุรนต์ ฉายแสง เป็นผู้นำ โดยมีน้องสาว ฐิติมา ฉายแสง สส.ฉะเชิงเทรา เขต 1 คุมทัพ สจ.เขต อ.เมือง

 

ซุ้มตันเจริญ โดย “พ่อมดดำ” สุชาติ ตันเจริญ เป็นเสาหลัก “มดเล็ก” ศักดิ์ชาย ตันเจริญ สส.ฉะเชิงเทรา เขต 3 คุมทัพ สจ.เขต อ.พนมสารคาม และ อ.สนามชัยเขต

 

ซุ้มจารุสมบัติ ยังไม่หนีหายไปไหน พินิจ จารุสมบัติ หวนคืนสังเวียนการเมือง โดยอาศัยหลานชาย “นายกมะกัน” ธนะเกียรติ นพเกตุ นายก อบต.หัวสำโรง อ.แปลงยาว เป็นผู้ประสานงาน

 

มินับ “เฮียเน้า” สมชัย อัศวชัยโสภณ อดีต สส.ฉะเชิงเทรา บ้านใหญ่ อ.บางคล้า ที่กระโจนเข้ามาร่วมวงศ์ไพบูลย์ด้วย

สัญญาใจ บ้านใหญ่แปดริ้ว สู้ศึก นายก อบจ.

 

ขาใหญ่วังพญานาคคืนถิ่น

 

พินิจ จารุสมบัติ ไปเติบโตทางการเมืองที่ภาคอีสาน แต่ระยะหลังก็สนับสนุนพี่ชาย-พล.ต.ท.พิทักษ์ จารุสมบัติ เป็น สส.ฉะเชิงเทรา ปี 2554 โดยตอนหลัง พล.ต.ท.พิทักษ์ แพ้ต่อเนื่อง

 

บ้านเกิดของ พินิจ อยู่ที่บ้านตาถั่ว ต.บางกรูด อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา เขาเติบโตในตระกูลพ่อค้าจีน ทำโรงสีไฟรุ่งเรือง คลองเจ้า จึงได้เรียนมัธยมที่ ร.ร.เซนต์หลุยส์ ในตัวเมืองแปดริ้ว ก่อนจะเข้าไปเรียนคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง

 

ปี 2531 พินิจ ลงสมัคร สส.ฉะเชิงเทรา ในสังกัดพรรคราษฎร แต่พ่ายแพ้เจ้าถิ่นตระกูลฉายแสง พินิจจึงย้ายไปอยู่อีสาน เป็น สส.หนองคาย และรัฐมนตรีหลายกระทรวง

 

หลังรัฐประหาร 2549 พินิจหันไปสวมหัวโขนประธานสภาวัฒนธรรมไทย-จีนและส่งเสริมความสัมพันธ์ และในพื้นที่แปดริ้ว ก็หนุนน้องสาว-พรรณี จารุสมบัติ เป็น สว.ฉะเชิงเทรา และพี่ชาย-พล.ต.ท.พิทักษ์ จารุสมบัติ เป็น สส.ฉะเชิงเทรา เขต 4

 

ฐานเสียงของพินิจคือ อ.บ้านโพธิ์ และ อ.แปลงยาว โดยมี ธนะเกียรติ นพเกตุ นายก อบต.หัวสำโรง อ.แปลงยาว รับช่วงต่องานการเมือง

 

ศึกแค้นพ่อมดดำ

 

หลายคนคงจำได้ ก่อนการเลือกตั้งปี 2566 “พ่อมดดำ” สุชาติ ตันเจริญ บ้านใหญ่พนมสารคาม ขัดแย้งกับนักการเมืองท้องถิ่นใน “ซุ้มนายกไก่” กิตติ เป้าเปี่ยมทรัพย์ นายก อบจ.ฉะเชิงเทรา

 

ที่ผ่านมา สุชาติหนุนบ้านใหญ่ตระกูลเป้าเปี่ยมทรัพย์ สู้ศึกนายก อบจ.มาโดยตลอด ตั้งแต่ปี 2555 และปี 2563 ในครั้งนี้ พ่อมดดำกลายเป็นคู่แข่งของกลุ่มแปดริ้วโฉมใหม่

 

หลัง “เสี่ยธิ” อิทธิ ศิริลัทธยากร นั่ง รมช.เกษตรและสหกรณ์ ก็ทำให้บ้านใหญ่เป้าเปี่ยมทรัพย์ ผงาดเหนือทุกซุ้ม

 

ยิ่งเสี่ยธิ-อิทธิ และลูกชาย เบนซ์-อรรถกร อดีต รมช.เกษตรฯ มีความแนบชิดกับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ก็ยิ่งทำให้บารมีนายกไก่เบ่งบาน

 

“นายกไก่” อยู่ในการเมืองท้องถิ่นแปดริ้วมานาน และมีความสัมพันธ์กับทุกซุ้ม ยกเว้นตระกูลฉายแสง

 

ภาพความยิ่งใหญ่ของ “เสี่ยธิ-นายกไก่” ใต้ร่มเงาผู้กองธรรมนัส สร้างความไม่สบายใจให้กับคนรุ่นใหม่

 

“นายกมะกัน” ธนะเกียรติ นพเกตุ นายก อบต.หัวสำโรง ทายาทตระกูลนพเกตุ บ้านใหญ่ อ.แปลงยาว และหัวคะแนนของพินิจ จึงปรึกษากับซุ้มบ้านใหญ่แปดริ้ว ที่อยู่ตรงข้าม “นายกไก่”

 

ในที่สุด ทุกซุ้มได้มีมติจะส่ง “นายกก้อย” กลยุทธ ฉายแสง ลงชิงนายก อบจ. แข่งกับ “นายกไก่”

 

นับเป็นคู่ต่อสู้ ที่สมน้ำสมเนื้อ สมราคากองเชียร์ ศึกนี้ไม่มีซูเอี๋ย เมื่อสามสหาย “จาตุรนต์-สุชาติ-พินิจ” เปิดหน้าชนนายกไก่