แพ้พิษหวานใจ “ประวิตร” แยกทาง “ธรรมนัส” ผงาดพรรคใหม่ 24 สส.ทาบ ปชป. | คมชัดลึก

ลุงสิ้นฤทธิ์ ประวิตร ดีลหวาน ธรรมนัส ขับ สส.สายผู้กองพ้น พปชร. หลังดึงเช็งจนเจอดี หวานใจ ช. ติดบ่วงเส้นเงินปริศนา

 

พรรคกล้าธรรม(นัส)โตข้ามคืน จาก 4 สส.พรรคเล็ก บวกสายผู้กอง รวม 24 ชีวิต พร้อมสู้ศึกเลือกตั้งสมัยหน้า

 

หลังซามูไรกฎหมายค่ายบ้านป่ารอยต่อฯ พยายามเล่นเกมยื้อ ไม่ยอมขับกลุ่ม ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ออกจากพรรคพลังประชารัฐ แถมมีแผนจะเอาผิดเรื่องจริยธรรม สส.

ในที่สุด พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ก็ยอมที่เข้าโครงการจากกันด้วยดี

 

ไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรค แถลงประชุมกรรมการบริหารพรรค มีมติขับ สส.กลุ่ม ร.อ.ธรรมนัส 20 คน อ้างมีแนวคิดและอุดมการณ์ทางการเมือง แตกต่างอย่างสิ้นเชิง

 

ระหว่าง ทักษิณ ชินวัตร เดินทางไปหาเสียงที่เมืองอุบลฯ นักข่าวได้สอบถามเรื่องลุงป้อมกับ ร.อ.ธรรมนัส นายใหญ่บ้านจันทร์ส่องหล้า ตอบทีเล่นทีจริงว่า “นายพลจูบปากกับร้อยเอก เขาไปจูบกันที่ไหน ในป่าทึบๆ หรือป่าอะไรนั่นหรือเปล่า ผมไม่ทราบเหมือนกัน มีป่าทึบอยู่ในกรุงเทพฯเหรอ...”

 

อันเนื่องมาจากช่วงบ่ายวันที่ 11 ธ.ค.2567 เพจดังเพจหนึ่งออกมาโพสต์ว่า “...รอฟังข่าวใหญ่นายพลกับนายร้อย เขาดีลกันลงตัว” จึงมีนักข่าวหยิบเรื่องนี้ไปถามทักษิณ

พิษหวานใจ ช.ช้าง

 

2 สัปดาห์มานี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เหมือนคนดวงตก พระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรก เมื่อหวานใจ ช. กำลังถูกไล่เช็คบิล หลังตำรวจพบเส้นเงิน 10 ล้านบาท โยงคดีไร่ภูนับดาวรุกที่ ส.ป.ก.

 

นับแต่ พล.อ.ประวิตร เล่นการเมืองเต็มตัว ไม่เคยเจอวิบากกรรมครั้งใหญ่เท่าหนนี้ แม้ลุงป้อมจะปฏิเสธว่า “ไม่รู้” กรณีหวานใจ ช. และไร่ภูนับดาว แต่ชาวบ้านชาวเมืองก็พร้อมจะเชื่อข้อมูลที่เผยแพร่ในโซเชียลมีเดีย

 

ช่วงที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประกาศอิสรภาพตัดสัมพันธ์กับลุงป้อม และแสดงเจตจำนงชัดเจนว่าอยากให้พรรคขับออก ตั้งแต่ปลายเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา แต่กลับถูกลุงป้อมดึงเช็งมาเรื่อยๆ

 

ล่าสุด ปลายเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา ไพบูลย์ นิติตะวัน ประธานคณะกรรมการตรวจสอบ สส.กลุ่มธรรมนัส ได้ขยายระยะเวลาทำงานไปอีก 30 วัน จากเดิมทีกำหนดกรอบเวลาไว้ 60 วัน

 

จู่ๆ ลุงป้อมและพรรค พปชร.กลับมีมติขับกลุ่ม ร.อ.ธรรมนัส จึงมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ตามมา เพราะเวลานี้ มีกรณีหวานใจ ช.และไร่ภูนับดาว

 

กล้าธรรม-โตวันโตวัน

 

พลันที่ สส.กลุ่ม ร.อ.ธรรมนัส ถูกขับออกจากพรรคพลังประชารัฐ แกนนำพรรคกล้าธรรม ก็เปิดประตูต้อนรับทันที

 

รายชื่อ สส. 20 คน สาย ร.อ.ธรรมนัสนั้น จำแนกออกเป็นรายภาคได้ดังนี้

 

ภาคเหนือ 8 คน : ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา,จีรเดช ศรีวิราช สส.พะเยา,อนุรัตน์ ตันบรรจง สส.พะเยา,นเรศ ธำรงค์ทิพยคุณ สส.เชียงใหม่,ปกรณ์ จีนาคำ สส.แม่ฮ่องสอน ,ไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร, เพชรภูมิ อาภรณ์รัตน์ สส.กำแพงเพชร และภาคภูมิ บูลย์ประมุข สส.ตาก

 

ภาคอีสาน 3 คน : จำลอง ภูนวนทา สส.กาฬสินธุ์, รัชนี พลซื่อ สส.ร้อยเอ็ด และอัครแสนคีรี โล่ห์วีระ สส.ชัยภูมิ

 

ภาคกลาง/ตะวันออก 6 คน : จตุพร กมลพันธ์ทิพย์ สส.ราชบุรี, ชัยทิพย์ กมลพันธ์ทิพย์ สส.ราชบุรี, บุญยิ่ง นิติกาญจนา สส.ราชบุรี, สะถิระ เผือกประพันธุ์ สส.ชลบุรี, องอาจ วงษ์ประยูร สส.สระบุรี และอรรถกร ศิริลัทธยากร สส.ฉะเชิงเทรา

 

ภาคใต้ 3 คน : ชนนพัฒฐ์ นาคสั้ว สส.สงขลา, สัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ สส.นราธิวาส และอามินทร์ มะยูโซ๊ะ สส.นราธิวาส

 

สำหรับพรรคกล้าธรรม มี สส.บัญชีรายชื่อ อยู่ในสภาแล้ว 4 คนคือ เชาวฤทธิ์ ขจรพงศ์กีรติ(พลังสังคมใหม่),กฤดิทัช แสงธนโยธิน (พรรคใหม่),บัญชา เดชเจริญศิริกุล(พรรคท้องที่ไทย)และปรีดา บุญเพลิง (พรรคครูไทยเพื่อประชาชน)

 

สรุปว่า พรรคกล้าธรรม(นัส) โตเร็วชั่วข้ามคืน เริ่มต้นจากศูนย์ กระโดดไป 24 ที่นั่ง ซึ่งมี สส.เท่ากับพรรคประชาธิปัตย์