คอลัมนิสต์

สมรภูมิเลือด “สจ.จอย” เติบโตใต้เงา “สจ.โต้ง” ไปไม่ถึงฝันเหตุปมเปลี่ยนสีเสื้อ

สมรภูมิเลือด “สจ.จอย” เติบโตใต้เงา “สจ.โต้ง” ไปไม่ถึงฝันเหตุปมเปลี่ยนสีเสื้อ

13 ธ.ค. 2567

ฝันสลาย “สจ.โต้ง” ปั้นคู่ชีวิต “สจ.จอย” นั่งนายก อบจ.ปราจีนฯ ซ้อนแผนเปลี่ยนสีเสื้อ น้ำเงินเป็นแดง จึงแตกหักโกทร

ความฝัน สจ.โต้ง ปั้นคู่ชีวิต สจ.จอย นั่งนายก อบจ.ปราจีนฯ ซ้อนแผนเปลี่ยนสีเสื้อ จากน้ำเงินเป็นแดง นำมาสู่ปมแตกหัก โกทร  

 

จากผู้หญิงบ้านบ้าน สจ.จอย ก้าวกระโดดสู่เวที นายก อบจ.ปราจีนฯ ด้วยบารมี สจ.โต้ง ขาใหญ่ยุทธจักรมวยไทย

 

ปมสังหาร “สจ.โต้ง” ชัยเมศร์ สิทธิสนิทพงศ์ มีความชัดเจนว่า มาจากปมการเมืองท้องถิ่น กรณีบ้านใหญ่วิลาวัลย์เผชิญหน้าดาวรุ่งพุ่งแรงอย่าง สจ.โต้ง

หลักฐานคลิปเสียง สจ.โต้ง ทะเลาะกับ “โกทร” สุนทร วิลาวัลย์ สะท้อนปัญหาการวางตัวผู้สมัครนายก อบจ.ที่ไม่ลงตัว

 

พลันที่มีพวงหรีดของ ทักษิณ ชินวัตร และ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ในงานศพ “สจ.โต้ง” ชัยเมศร์ สิทธิสนิทพงศ์ ที่วัดมะกอกสีมาราม อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี จึงทำให้ความคลุมเครือในคลิปเสียงนั้น มีความกระจ่างขึ้น

 

วันที่ 13 ธ.ค.2567 ทักษิณ ชินวัตร ให้สัมภาษณ์สื่อยอมรับว่า แกนนำเพื่อไทย พูดคุยกับ สจ.โต้ง เพื่อให้ภรรยา “สจ.จอย” ณภาภัช อัญชสาณิชมน ลงสมัครนายก อบจ.ปราจีนฯ ในนามพรรคเพื่อไทย แต่ภายหลังทราบว่า มีปัญหากับ “โกทร” ก่อนจะถูกยิงเสียชีวิต

 

ฟังจากทักษิณพูด เพื่อไทยก็พร้อมจะหนุน สจ.จอย ลงสนาม เพราะเชื่อว่า สจ.โต้ง มีศักยภาพที่จะลุยสนามเลือกตั้งได้

 

อย่างไรก็ตาม หลังสามีถูกยิงเสียชีวิต สจ.จอย แถลงว่า “ดิฉันเปลี่ยนใจไม่ลงสมัครเป็นนายก อบจ. ตามที่สามีวางแผนไว้อีกแล้ว เนื่องจากเสาหลักไม่อยู่แล้ว ต้องการอยู่ดูแลลูกให้ดีที่สุด”

 

“สจ.จอย” ณภาภัช รู้ตัวดีว่า เธอก็เป็นผู้หญิงบ้านบ้านคนหนึ่งที่โตมาจากละแวก ต.ดงพระราม อ.เมืองปราจีนฯ ทุกสิ่งทุกอย่าง สจ.โต้ง เป็นคนปูทางให้เดินไปตามความฝันของสามี

จอย จากเด็กบ้านบ้าน ต.ดงพระราม สู่ยุทธจักรการเมืองท้องถิ่น

 

ฝันสีเลือด สจ.โต้ง

 

หลังพ้นโทษคดีฮั้วประมูล สจ.โต้ง เด็กบ้านใหญ่เมืองปราจีนฯ ขยับเข้าสู่เมืองหลวงในฐานะหัวหน้าค่ายมวย “สจ.โต้งปราจีน” กลายเป็นพ่อพระวงการมวย

 

ชัยเมศร์ สิทธิสนิทพงศ์ หรือชื่อเดิม เต็มพงษ์ ฤทธิ์เดช อดีต ส.อบจ.ปราจีนบุรี หลายสมัย ได้ยกระดับตัวเองเป็นเซเลบ ไปไหนมาไหน ใครก็รู้จัก สจ.โต้ง

 

ปลายปี 2563 สจ.โต้ง ตัดสินใจไม่ลงสมัคร ส.อบจ.ปราจีนฯ แต่ให้ “จอย” ลงสมัครแทน ยี่ห้อบ้านใหญ่วิลาวัลย์ จอยได้รับเลือกเป็น ส.อบจ.ปราจีนฯ เขต 2 อ.เมือง และได้รับเลือกเป็นรองประธานสภา อบจ.ปราจีนฯ คนที่ 1

 

ปี 2565 สจ.โต้ง ผลักดันภรรยา สจ.จอย เข้าเรียนหลักสูตรพิเศษของสถาบันพระปกเกล้า เพื่อเป็นต้นทุนทางสังคม เพราะ สจ.โต้ง วาดฝันให้ภรรยาก้าวสู่ตำแหน่งนายก อบจ.ปราจีนบุรี ในต้นปี 2568

 

สู่อ้อมอกบ้านจันทร์

 

ว่ากันว่า สจ.โต้ง ได้ประสานขอนำ สจ.จอย เข้าพรรคเพื่อไทย ผ่านทาง “ส.” คนสนิทบ้านจันทร์ส่องหล้า

 

เมื่อได้รับไฟเขียวจากผู้ใหญ่ สจ.โต้ง จึงวางแผนการหาเสียง จัดทำโปสเตอร์หาเสียง ที่มีแคมเปญ “คิดใหญ่ทำใหญ่ เพื่อปราจีน” เตรียมเปิดตัว สจ.จอย ช่วงสัปดาห์หน้านี้

 

ก่อนหน้านั้น “โกทร” ได้ขึ้นเวทีงานเลี้ยงแถว อ.บ้านสร้าง ประกาศขอวางมือ ไม่ลงสมัครนายก อบจ.สมัยหน้า และขอสนับสนุนภรรยา สจ.โต้ง ลงสมัครนายก อบจ.ในนามบ้านใหญ่วิลาวัลย์

 

แหล่งข่าวแถวโรงแรมบางปะกง เปิดเผยว่า ภายหลังโกทรรู้ข่าวเรื่อง สจ.โต้ง ไปเจรจากับทักษิณและเพื่อไทย จึงมีการโทรศัพท์ไปแจ้งให้ผู้นำท้องถิ่นและท้องที่ไม่ให้สนับสนุน สจ.โต้ง

 

ในทางการเมือง สุนทร วิลาวัลย์ รับบทแม่ทัพบูรพาให้พรรคภูมิใจไทย มาตั้งแต่ปี 2554 แต่การหาเสียงในพื้นที่ โกทรไม่เคยชูแบรนด์ภูมิใจไทย แต่ขายความเป็น “บ้านใหญ่วิลาวัลย์”

 

เมื่อ สจ.โต้ง-สจ.จอย จะใส่สีเสื้อเพื่อไทย ทางฝั่งโกทรจึงจะส่งคนลงแข่งด้วย อันเป็นที่มาของการนัดเคลียร์ใจกัน และจบด้วยเหตุฆาตกรรม สจ.โต้ง กลางบ้านใหญ่

 

นี่คือบทเรียนของเด็กบ้านใหญ่ ในวันที่คิดจะเปลี่ยนสีเสื้อ หลังสามีเสียชีวิต สจ.จอย จึงตัดสินใจถอยทันที