คอลัมนิสต์

จับตารีแมตช์ “โกทร” เผชิญหน้า “ทักษิณ” ล้างตา พท.พ่ายบ้านใหญ่วิลาวัลย์

จับตารีแมตช์ “โกทร” เผชิญหน้า “ทักษิณ” ล้างตา พท.พ่ายบ้านใหญ่วิลาวัลย์

14 ธ.ค. 2567

รอลุ้น “สจ.จอย” เปลี่ยนใจลงสนาม “ทักษิณ” พร้อมหนุนชิง อบจ.ปราจีนฯ ระบอบบ้านใหญ่ “โกทร” ยังสู้เพื่อไทย

เขย่าระบอบบ้านใหญ่ โกทร เผชิญหน้านายใหญ่ทักษิณ วัดใจ สจ.จอย ถ้าพร้อมลุยนายก อบจ.ปราจีนฯ เพื่อไทยก็พร้อมหนุน

 

ย้อนรอยเลือกตั้งซ่อมปราจีนฯ 2553 โกทร ปะทะเพื่อไทย ทักษิณอยู่แดนไกล ยังโฟนอินหาเสียงช่วยผู้สมัคร แต่ก็พ่ายพลังบ้านใหญ่วิลาวัลย์

 

สงครามบ้านใหญ่ปราจีนฯ ยังไม่จบ แม้ “โกทร” สุนทร วิลาวัลย์ จะเข้าไปนอนในเรือนจำ ฝั่งบ้านใหญ่เล่าฉากสุดท้ายของ สจ.โต้ง ต่างจากฝั่งตำรวจ เหมือนหนังคนละม้วน

ทักษิณ ชินวัตร ยอมรับว่า สจ.โต้งได้พาภรรยา “สจ.จอยณภาภัช อัญชสาณิชมน เข้ามาพูดคุยกับแกนนำเพื่อไทย จะขอลงสมัครนายก อบจ.ปราจีนฯ ในนามพรรคเพื่อไทย โดยการสนับสนุนของโกทร

 

แกนนำเพื่อไทย ได้นั่งเจรจากับ สจ.โต้ง มีอยู่ 2 คนคือ สรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรค และ สาโรจน์ หงษ์ชูเวช ผอ.พรรค

 

นัยว่ามีอีกหนึ่งตัวละครคือ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ที่ได้ประสานงานกับ สจ.โต้ง เพื่อเตรียมการเปิดตัว สจ.จอย

 

หลัง สจ.โต้ง ถูกยิงเสียชีวิต สจ.จอยได้แถลงผ่านสื่อว่า จะไม่ลงสมัครนายก อบจ.ปราจีนฯ แต่ฟังจากคำให้สัมภาษณ์ของ ทักษิณ และสรวงศ์ ก็ขึ้นอยู่กับ สจ.จอย หากยืนยันว่า จะลงสมัคร เพื่อไทยก็พร้อมสนับสนุน

 

สำหรับตระกูล “วิลาวัลย์” คงไม่ส่งใครลงสมัครนายก อบจ.ปราจีนฯ เนื่องจากหลานชายโกทร อายุไม่ถึงเกณฑ์ตามคุณสมบัติผู้สมัครนายก อบจ.

 

อย่างไรก็ตาม ตัวแทนซุ้มบ้านใหญ่ใน 7 อำเภอ น่าจะมีตัวแทนลงสนาม เพื่อรักษาฐานเสียง ระหว่างที่โกทรยังตกเป็นผู้ต้องหาร่วมกันฆ่า สจ.โต้ง

เครือข่ายโกทร ยังพร้อมจะลงสนามการเมืองท้องถิ่น ปี 2568

 

รีแมตช์โกทร-ทักษิณ

 

“โกทร” สุนทร วิลาวัลย์ เป็นนักการเมืองที่ขายแบรนด์ตัวเองคือ “บ้านใหญ่วิลาวัลย์” ส่วนสีเสื้อพรรคการเมืองนั้น ก็แค่ยืมมาใส่ให้ถูกต้องตามกฎกติกา

 

อย่างเช่นการเลือกตั้งซ่อม สส.ปราจีนบุรี วันที่ 10 ม.ค.2553 สืบเนื่องจากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้สมาชิกภาพของเกียรติกร พากเพียรศิลป์ สส.ปราจีนบุรี พรรค ปชป. สิ้นสุดลงในวันที่ 2 ธ.ค.2552

 

เนวิน ชิดชอบ และอนุทิน ชาญวีรกูล ที่เพิ่งสร้างพรรคภูมิใจไทย ได้มาพบโกทร และขอร้องให้ส่งคนในบ้านใหญ่ลงสมัคร สส. ซึ่งโกทรก็รับปาก แต่มีเงื่อนไขห้ามเนวิน และ สส.ภูมิใจไทย มาช่วยหาเสียง

 

โกทร ให้หลานชาย อำนาจ วิลาวัลย์ ลงแข่งกับ พล.อ.สิทธิ์ สิทธิมงคลอดีตหัวหน้าฝ่ายเสนาธิการประจำ รมว.กลาโหม (พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ) พรรคเพื่อไทย

 

ตอนนั้นเป็นการเลือกตั้งทั้งจังหวัด โกทร และ “ป้าอ้วน” บังอร วิลาวัลย์ ได้ลุยหาเสียงโดยไม่ใช้แบรนด์ภูมิใจไทย บอกกันปากต่อปาก “เลือกหลานโกทร”

 

ส่วนแกนนำเพื่อไทยก็ยกทีมเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ทุกอำเภอ โดยมีทักษิณ ที่อยู่ต่างแดนโฟนอินมาปลุกพลังคนเสื้อแดงปราจีนฯ

 

ผลการเลือกตั้ง อำนาจได้ 1.3 แสนคะแนน ชนะ พล.อ.สิทธิ์ ที่ได้แค่ 6 หมื่นคะแนน นี่เป็นบทพิสูจน์ชัยชนะของแบรนด์บ้านใหญ่โกทร ไม่ใช่ภูมิใจไทย

 

ระบอบบ้านใหญ่โกทร

 

จริงๆแล้ว ฐานเสียงหลักของตระกูลวิลาวัลย์ อยู่ใน อ.เมืองปราจีนบุรี ส่วนรอบนอก 7 อำเภอ เป็นซุ้มเล็กซุ้มน้อยที่อยู่ในเครือข่ายโกทร

 

ยกตัวอย่าง 3 เขตเลือกตั้ง จ.ปราจีนบุรี ซึ่งโกทร ได้สร้างพันธมิตรกับกลุ่มการเมืองทุกซุ้ม

 

เขต 1 (อ.เมืองปราจีนฯ) ฐานเสียงของตระกูลวิลาวัลย์ โดย อำนาจ วิลาวัลย์ เป็น สส.เขตนี้มา 3 สมัยแล้ว

 

เขต 2 (อ.ศรีมหาโพธิ อ.บ้านสร้าง อ.ประจันตคาม) ฐานเสียงของตระกูลภุมมะกาญจนะ ที่มี ชยุต ภุมมะกาญจะ อดีต สส.ปราจีนฯ ดูแลอยู่

 

เขต 3 (อ.กบินทร์บุรี อ.นาดี) มีแกนหลักคือ รังสรรค์ บุตรเนียร นายกเทศมนตรีตำบลกบินทร์ พี่ชาย สฤษดิ์ บุตรเนียร สส.ปราจีนฯ และตระกูลเสียงเจริญ บ้านใหญ่ อ.นาดี

 

หากไม่มีตัวโกทรนั่งบัญชาการ แต่เครือข่ายระบอบบ้านใหญ่ คงเดินหน้าลุยเลือกตั้งท้องถิ่นทุกระดับ ยกเว้นโกทร จะสั่งถอยชั่วคราว