ดีกรีไม่ธรรมดา ทำความรู้จักกับ 'นิโคลีน' รองมิสเวิลด์ปี 2018 | คมชัดลึก

การประกวดมิสเวิลด์ 2018 ที่เมืองซานย่า มณฑลไห่หนาน ประเทศจีน รอบตัดสิน ซึ่งผลปรากฏว่า 'นิโคลีน' พิชาภา ลิมศนุกาญจน์ ได้ตำแหน่งรองมิสเวิลด์ไปครอง ซึ่งเป็นคนแรกในประวัติศาสตร์ของประเทศไทย โดยก่อนหน้านี้ ผู้ที่เคยทำผลงานได้ดีที่สุดคือ ปทุมรัตน์ วรมาลี ได้รองอันดับ 3 มิสเวิลด์ปี 1989 และตำแหน่งนางงามประจำทวีปเอเชีย ตามด้วย 'ลูกเกด' เมทินี กิ่งโพยม คว้านางงามประจำทวีปเอเชีย มิสเวิลด์ปี 1992 และ ธัญญา สื่อสันติสุข เข้ารอบ 5 คนสุดท้าย มิสเวิลด์ปี 1997

 

 

 

 

สำหรับ พิชาภา ลิมศนุกาญจน์ หรือ นิโคลีนเกิดวันที่ 22 กันยายน ค.ศ. 1998 ปัจจุบันอายุ 20 ปี เกิดที่ลองบีช แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ถือสัญชาติไทย-อเมริกัน ศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 2 คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย (ภาคอินเตอร์) ส่วนสูง 170 เซนติเมตร ส่วนผลงานก็เรียกว่าอยู่ในระดับที่ไม่ธรรมดา เพราะเวทีนี้ไม่ใช่เวทีแรกของเธอถือว่าเจนสนามและมีการเตรียมตัวที่ดีมาโดยตลอด ซึ่งเธอเริ่มจากการชนะเลิศได้เป็นมิสไทยนิวเยียร์ยูเอสเอ 2014 ต่อด้วยการชนะเลิศเวทีมิสทีนเอเชียยูเอสเอ 2015 พร้อมคว้าตำแหน่งบุคลิกภาพยอดเยี่ยมและชุดประจำชาติยอดเยี่ยมมาครองด้วย

 

"คุณจำเป็นต้องทำงานให้บรรลุเป้าหมายด้วยตัวเองได้ รวมทั้งการทำงานร่วมกันเป็นทีม นิโคลีนเชื่อว่าการฝึกฝนทักษะสำคัญมาก สำหรับความมุ่งมั่น ในการเป็นนางงาม ทั้งการกิน การออกกำลังกาย ทุกอย่างต้องฝึกฝน ฝึกฝน และฝึกฝน ด้วยการลงมือทำค่ะ" นิโคลีน เผยถึงการเตรียมตัว

 

 

 

ส่วนโครงการ Love For All ที่เธอกล่าวถึงนั้นคือโครงการเกี่ยวกับเด็กออทิสติก เด็กด้อยโอกาส เด็กดาวน์ซินโดรม พิการซ้ำซ้อน เป็นโครงการที่เธอเริ่มทำมาตั้งแต่ 5 ขวบ ด้วยความปรารถนาให้สังคมยอมรับ และให้โอกาสกับเด็กๆ ได้ใช้ชีวิตอย่างปกติเฉกเช่นเด็กทั่วไป และเธอยังเคยรวบรวมเงินของตัวเองและเพื่อนๆ กว่า 1,000 เหรียญ เพื่อนำไปช่วยบริจาคให้กับผู้ประสบภัยสึนามิอีกด้วย ทำให้เธอได้รับการยอมรับและเป็นที่รู้จักมากขึ้น พร้อมกับได้รับรางวัลจิตอาสาดีเด่น "THE PRESIDENT’S VOLUNTEER SERVICE AWARDS" จากประธานาธิบดี บารัค โอบา
 

ทั้งนี้ตามกำหนดการนิโคลีนจะเดินทางกลับมาประเทศไทย ในวันที่ 11 ธ.ค. 2561 ด้วยสายการบินฮ่องกงแอร์ไลน์ ถึงสนามบินสุวรรณภูมิเวลาประมาณ 23.05 น. สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมต้องรอติดตามจากกองประกวดมิสเวิลด์อย่างใกล้ชิดต่อไป