"วอลเลย์บอลชายทีมชาติไทย" ก้าวถอยหลัง ชวดเหรียญ "ซีเกมส์ ครั้งที่ 31"
เป็นเรื่องน่าเสียดายสำหรับทีม "วอลเลย์บอลชายทีมชาติไทย" ในการแข่งขันมหกรรมกีฬา "ซีเกมส์ ครั้งที่ 31" ณ กว่างนิงห์ยิมเนเซียม ประเทศเวียดนาม ที่ไม่สามารถคว้าแม้แต่เหรียญทองแดงไปได้ หลังพ่ายทีมกัมพูชา 3 – 2 เซ็ต ชวดเหรียญซีเกมส์ในรอบ 39 ปี
โดย วอลเลย์บอลชายทีมชาติไทย พลาดท่าพ่ายให้กับ ทีมชาติกัมพูชา 3-2 เซ็ต 25-23, 22-25, 25-22, 13-25 และ 15-13 ซึ่งนอกจากความรู้สึกของแฟน ๆ แล้ว ตัวนักกีฬาเองก็รู้สึกผิดหวังและเสียดายกับผลงาน ซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ครั้งนี้ไม่แพ้กัน โดย ยามีน กฤษฎา นิลไสว กัปตันทีมตำแหน่ง MB ได้ออกมาระบายความอัดอั้นก่อนเกมส์ชิงเหรียญทองแดงกับกัมพูชา
ยามีน กัปตันวอลเลย์บอลทีมชาติไทย กล่าวว่า รู้สึกเสียดายและเสียใจที่ไม่ได้เข้าไปชิงเหรียญทอง ใน ซีเกมส์ ครั้งที่ 31 เพราะปีนี้ตนตั้งใจมาก แต่กีฬาที่เล่นเป็นทีมต้องมีความมุ่งมั่นไปในทิศทางเดียวกัน ต้องมีวินัยในการซ้อม และความตั้งใจไปพร้อมกัน ทั้งนี้ตนไม่อยากโทษว่าเป็นความผิดใคร หากจะโทษก็คงจะโทษตัวเองที่เล่นได้ไม่ดีพอ
โดยในขณะที่ไลฟ์สดอยู่นั้นได้มีแฟน ๆ ถามว่า หากเปลี่ยนโค้ชละ จะช่วยให้ดีขึ้นไหม? ยามีน ก็ตอบว่า เรื่องนี้เคยพูดไปแล้ว แบบไม่เข้าข้างใคร ถึงแม้จะเปลี่ยนโค้ช ก็อาจจะช่วยได้ในเรื่องระบบการเล่น แต่ถ้าตัวนักกีฬาไม่มีความตั้งใจพอ ก็ไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้น ทั้งนี้เจ้าตัวยังเปรยอีกว่าหลังจากที่กลับไปคงต้องรอดูว่าน้อง ๆ ในทีม วอลเลย์บอลทีมชาติไทย จะมีวินัยและความกระตือรือร้นในการคว้าเหรียญ ในการแข่งขันในระดับอื่น ๆ เพิ่มขึ้นมาหรือไม่ หากทีมยังเป็นแบบเดิม ตนก็อาจจะเลิกเล่นทีมชาติ