โควิด-19

"อภิปรายไม่ไว้วางใจ" สธ.-อภ. โร่แจงปมร้อน เงินทอนวัคซีน

"อภิปรายไม่ไว้วางใจ" สธ.-อภ. โร่แจงปมร้อน เงินทอนวัคซีน

31 ส.ค. 2564

"อภิปรายไม่ไว้วางใจ" สธ.-อภ. โร่แจงปมร้อน เงินทอนวัคซีน ยืนยันไม่มีการได้รับส่วนต่างในการจัดซื้อ ย้ำ ซิโนแวค มีประสิทธิภาพ

วันที่ 31 สิงหาคม 2564 การ "อภิปรายไม่ไว้วางใจ" ประเด็นเรื่องของ "เงินทอน" "วัคซีนโควิด" ที่นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา เลขาธิการพรรคเพื่อไทย อภิปรายจนเกิดการตั้งข้อสงสัย ซึ่งล่าสุด นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข และนพ.วิฑูรย์ ด่านวิบูลย์ ผอ.องค์การเภสัชกรรม ร่วมชี้แจงถึงประเด็นดังกล่าว 

 

 

 

โดย นพ.โอภาส ได้ชี้แจงว่า ไทยเริ่มนำ "วัคซีนโควิด" "ซิโนแวค" มาใช้ครั้งแรกเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2564 ซึ่งวัคซีนได้ผ่านการรับรองจาก อย.แล้ว การนำวัคซีนมาใช้จะคำนึงถึง 2 ปัจจัย คือ ประสิทธิภาพ และความปลอดภัย 

 

อธิบดีกรมควบคุมโรค เผยต่อว่า จากการศึกษาประสิทธิภาพโดยมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ที่นำมาใช้ในสถานการณ์จริงในพื้นที่ จ.ภูเก็ต พบว่าวัคซีนช่วยลดการระบาดของโรค มีเอกสารวิชาการยืนยันและเมื่อมีการระบาดในบุคลากรทางการแพทย์ ที่ จ.เชียงราย พบว่า "ซิโนแวค" ช่วยลดการติดเชื้อและลดความรุนแรงของโรคประมาณ 70-80% ขึ้นไป ย้ำไม่มีวัคซีนโควิดชนิดไหนป้องกันโควิดและป้องกันการเสียชีวิตได้ 100% แต่วัคซีนทุกชนิดยังมีประสิทธิผลที่ดีในการลดป่วยหนักและเสียชีวิตได้ 

 

ประเด็นการ "ฉีดวัคซีน" แบบไขว้ นพ.โอภาส กล่าวว่า สร้างภูมิคุ้มกันสูงเทียบเท่าแอสตร้าเซนเนก้า 2 เข็ม แต่การฉีดแบบไขว้จะสามารถฉีดครบ 2 เข็มได้เร็วกว่า เรื่องนี้มีหลักฐานทางวิชาการชัดเจน ทั้งจากนักวิชาการจากคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ 

 

ฉะนั้นประเด็นที่บอกว่าการ "ฉีดวัคซีนแบบไขว้" อันตรายโดยไม่มีข้อมูลวิชาการ และไม่มีประสิทธิภาพนั้นไม่ใช่เรื่องจริง เรื่องนี้อาจกระทบต่อระบบการควบคุมโรคได้ ยืนยันว่า "ซิโนแวค" มีประสิทธิภาพ 

 

 

ทางด้าน นพ.วิฑูรย์ ด่านวิบูลย์ ผอ.องค์การเภสัชกรรม ชี้แจงว่า อภ.เป็นตัวแทนนำเข้า "วัคซีนโควิด" "ซิโนแวค" ซึ่งประเด็นที่บอกว่าไทยซื้อวัคซีนซิโนแวค ราคา 17 ดอลลาร์นั้น เป็นราคาในล็อตแรก จำนวน 2 ล้านโดส ซึ่งหากเทียบกับบราซิลและอินโดนีเซียที่มีราคาถูกกว่านั้น เนื่องจากทั้ง 2 ประเทศนี้เป็นพื้นที่ในการวิจัย มีการซื้อวัคซีนเข้ามาจำนวนมากและเป็นแบบนำมาบรรจุเอง ทำให้ราคาถูกกว่าประเทศไทยที่ซื้อแบบสำเร็จรูป 

 

จากนั้นมีการเจรจาต่อรองราคาเกี่ยวกับการซื้อวัคซีนมาอย่างต่อเนื่อง จนทำให้สามารถลดราคาลงจาก 17 เหรียญดอลลาร์ ลดเหลือ 15 เหรียญ 14 เหรียญ 9.5 เหรียญ 9 เหรียญ และราคาสุดท้ายเหลือที่ 8.9 ดอลลาร์ เฉลี่ยทั้งหมดราคาจะอยู่ประมาณ 11.99 เหรียญดอลลาร์ 

 

ประเด็นที่ระบุว่า เรามีส่วนต่างนั้น ขอยืนยันว่าไม่มีส่วนต่างในการจัดซื้อ องค์การเภสัชกรรม เป็นผู้ไปลงทุนซื้อโดยใช้เงินเราไปก่อน เมื่อได้วัคซีนแล้วจึงขายให้แก่กรมควบคุมโรค ซึ่งเป็นผู้ดูแลกรอบวงเงินงบประมาณจัดซื้อมีการเรียกเก็บราคารวมค่าดำเนินการและขนส่งตามความเป็นจริง ยืนยันว่าไม่มีการได้รับส่วนต่างจากกรอบวงเงินที่ตั้งไว้