"หมอธีระ" ชี้ คลายล็อก เร็วเท่ากับเติม เชื้อไฟ แนะจับตาเห็นชัดปลายเดือนนี้
"หมอธีระ" โพสต์ล่าสุดถึงสถานการณ์ โควิด-19 ชี้ไทยยังระบาดรุนแรง ห่วง คลายล็อก เร็วเกินไปจะเป็นการเติมเชื้อไฟให้การระบาดปะทุขึ้นมา คาดเริ่มเห็นชัดเจนปลายเดือนนี้
วันที่ 7 กันยายน 2564 ศ.นพ. ธีระ วรธนารัตน์ หรือ "หมอธีระ" คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "Thira Woratanarat" ระบุถึงสถานการณ์ "โควิด-19" ของประเทศไทยเราขณะนี้
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ซึ้งใจ อินเดีย มอบ "เครื่องผลิตออกซิเจน" ให้ไทย 300 เครื่อง
- "ฉีดวัคซีน" ศูนย์ฯบางซื่อ เช็กด่วนยังทัน รับวัคซีนเข็ม 1 - Walk-in มีเงื่อนไข
- "โควิดวันนี้" เศร้ายอดผู้เสียชีวิตกลับมาพุ่งหลัก 200 ติดเชื้อเพิ่ม 13,821
โดย หมอธีระ ระบุว่า เมื่อวานจำนวนติดเชื้อใหม่สูงเป็นอันดับที่ 9 ของโลก และจำนวนเสียชีวิตสูงเป็นอันดับที่ 12 เป็น "ระลอกสาม" ที่มีลักษณะเหมือนภูเขาโต๊ะ พร้อมภูเขาไฟโผล่มาหลายต่อหลายลูก ดังที่เคยเปรียบไว้ว่าเป็น "The table mountain with big volcanoes" เป็นภูเขาที่เห็นขาขึ้น แต่ยังไม่เห็นทางลงไปยังตีนเขา
ตามธรรมชาติแล้ว หากนับจากยอดสูงสุด จะใช้เวลากดการระบาดลงราว 2 เดือนครึ่ง ถ้าคงมาตรการเข้มข้นเต็มที่ แต่เราผ่อนคลายกันไปตั้งแต่ 2 สัปดาห์หลังจากยอดสูงสุด ซึ่งถือว่าเร็วเกินไป เพราะสถานการณ์ระบาดยังรุนแรงต่อเนื่อง หลักหมื่นต่อวัน และกระจายไปทั่ว
ตามหลักวิชาการแล้ว เมื่อมีความแออัดมากขึ้น พบปะติดต่อสัมผัส ค้าขาย บริการกันมากขึ้น นานขึ้น ก็ครบองค์ประกอบของ "เชื้อไฟ" ในการทำให้เกิดการระบาดปะทุขึ้นมาได้แน่นอน ทั้งจำนวน (numbers), ความถี่ (frequencies), และระยะเวลา (duration) คาดว่าจะเริ่มเห็นชัดเจนตั้งแต่ปลายเดือนนี้
ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่างพวกเราทุกคนตระหนักถึงสถานการณ์ ป้องกันตัวอย่างเคร่งครัด ใช้ชีวิตอย่างมีสติ ใส่หน้ากากฯสองชั้น ชั้นในเป็นหน้ากากอนามัย ชั้นนอกเป็นหน้ากากผ้า สำคัญมาก เลี่ยงการกินดื่มในร้านอาหาร โรงอาหาร ศูนย์อาหาร ซื้อกลับจะปลอดภัยกว่า
ส่วน สถานการณ์ "โควิด-19" ทั่วโลก วันนี้ 7 กันยายน 2564 เมื่อวานทั่วโลกติดเชื้อเพิ่ม 392,979 คน (รวมแล้วตอนนี้ 221,947,426 คน) ตายเพิ่มอีก 6,512 คน (ยอดตายรวม 4,588,119 คน) 5 อันดับแรกที่มีจำนวนติดเชื้อต่อวันสูงสุดคือ สหราชอาณาจักร อเมริกา อินเดีย อิหร่าน และฟิลิปปินส์
ที่น่าสนใจคือ ประเทศที่มีจำนวนติดเชื้อต่อวันสูงสุด 10 อันดับแรกของโลกเมื่อวานนี้นั้นเป็นประเทศในทวีปเอเชียถึง 7 ประเทศ รวมไทยด้วย
อเมริกา ติดเชื้อเพิ่ม 37,569 คน รวม 40,863,719 คน ตายเพิ่ม 231 คน ยอดเสียชีวิตรวม 666,554 คน อัตราตาย 1.6%
อินเดีย ติดเพิ่ม 30,184 คน รวม 33,057,320 คน ตายเพิ่ม 290 คน ยอดเสียชีวิตรวม 441,075 คน อัตราตาย 1.3%
บราซิล ติดเพิ่ม 9,154 คน รวม 20,899,933 คน ตายเพิ่ม 238 คน ยอดเสียชีวิตรวม 583,866 คน อัตราตาย 2.8%
รัสเซีย ติดเพิ่ม 17,856 คน รวม 7,030,455 คน ตายเพิ่ม 790 คน ยอดเสียชีวิตรวม 187,990 คน อัตราตาย 2.7%
สหราชอาณาจักร ติดเพิ่ม 41,192 คน ยอดรวม 7,018,927 คน ตายเพิ่ม 45 คน ยอดเสียชีวิตรวม 133,274 คน อัตราตาย 1.9%
อันดับ 6-10 เป็น ฝรั่งเศส ตุรกี อาร์เจนติน่า อิหร่าน และโคลอมเบีย ติดกันหลักพันถึงหลายหมื่น
แถบอเมริกาใต้ ยุโรป แอฟริกา เอเชีย หลายต่อหลายประเทศติดกันเพิ่มหลักพันถึงหลักหมื่น หากรวมทวีปเอเชีย ยุโรป และอเมริกาเหนือ พบว่ามีสัดส่วนสูงถึงร้อยละ 91.66 ของจำนวนติดเชื้อใหม่ทั้งหมดต่อวัน
แถบสแกนดิเนเวีย บอลติก และยูเรเชีย ก็มีการติดเชื้อเพิ่มขึ้นหลักร้อยถึงหลักพัน แถบตะวันออกกลางส่วนใหญ่ยังติดเพิ่มหลักร้อยถึงหลักพัน ยกเว้นอิหร่านติดเพิ่มหลักหมื่นอย่างต่อเนื่อง ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย เวียดนาม และญี่ปุ่น ติดเพิ่มกันหลักหมื่น
ส่วนเมียนมา อินโดนีเซีย ออสเตรเลีย และเกาหลีใต้ ติดกันหลักพัน กัมพูชา ลาว และสิงคโปร์ ติดเพิ่มหลักร้อย ส่วนจีน ไต้หวัน และนิวซีแลนด์ ติดเพิ่มหลักสิบ ในขณะที่ฮ่องกงติดเพิ่มต่ำกว่าสิบ
ที่มา Thira Woratanarat