ติดเชื้อโควิดไทย รวม ATK สูงอันดับ 5 ของโลก หมอชี้ "วิกฤตต้มกบ" หนักสุดในเมือง
หมอธีระ เผย ตัวเลขติดเชื้อโควิด-19 ประเทศไทย รวม ATK สูงอันดับ 5 ของโลก ระบุ "วิกฤตต้มกบ" หนักสุดในเมือง ทั้งเมืองกรุง และ เมืองท่องเที่ยว
รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ระบุว่า เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่ม 296,474 คน ตายเพิ่ม 4,467 คน รวมแล้วติดไปรวม 238,627,145 คน เสียชีวิตรวม 4,866,882 คน 5 อันดับแรกที่ติดเชื้อสูงสุดคือ สหราชอาณาจักร รัสเซีย ตุรกี อเมริกา และอินเดีย จำนวนติดเชื้อใหม่ในแต่ละวันของทั่วโลกตอนนี้ มาจากทวีปเอเชีย ยุโรป และอเมริกาเหนือ ซึ่งรวมกันคิดเป็นร้อยละ 93.8 ของทั้งโลก ในขณะที่จำนวนการเสียชีวิตคิดเป็นร้อยละ 90.64
สำหรับสถานการณ์ไทยเรา เมื่อวานติดเชื้อเพิ่ม 10,817 คน สูงเป็นอันดับ 9 ของโลก แต่หากรวม ATK อีก 10,055 คน จะสูงเป็น "อันดับ 5" ของโลกเช่นเดียวกับเมื่อวาน แต่เขยิบเป็นอันดับ 2 ของเอเชีย เป็นรองเพียงตุรกีประเทศเดียวเท่านั้นที่น่าวิตกคือ ปัจจุบันสถานการณ์ระบาดของทั่วโลกลดลงชัดเจน แต่ของไทยเรายังรุนแรงอย่างต่อเนื่อง จำนวนติดเชื้อใหม่ เมื่อวานของเราแค่ประเทศเดียว หากรวม ATK จะคิดเป็นร้อยละ 7 ของการติดเชื้อใหม่ทั้งโลก ถือว่าเป็นสัดส่วนที่สูงมาก
บทเรียนที่ควรตระหนัก
1. ผลกระทบจากนโยบายกล่องทราย ทำให้เห็นการระบาดที่รุนแรงขึ้นในภาคใต้ ดังที่กำลังเผชิญอยู่
ความเสี่ยงที่เกิดขึ้นนั้น ส่วนหนึ่งมาจากการมาจากต่างประเทศ แต่ส่วนสำคัญยิ่งกว่านั้นคือ การทำให้จำนวนประชากรที่หมุนเวียนในพื้นที่มากขึ้น เกิดกิจกรรมต่าง ๆ รวมถึงการพบปะติดต่อสังสรรค์มากขึ้น จึงทำให้ระบาดหนักขึ้น ตราบใดที่ไม่กดการระบาดให้ดีพอ แล้วไปเปิดเมือง เปิดท่องเที่ยว เปิดประเทศ ย่อมหนีไม่พ้นเรื่องโอกาสที่จะระบาดหนักกลับซ้ำขึ้นมา ถามว่าต้องกดการระบาดไปถึงแค่ไหน ถึงจะลองเปิดดูได้ คำตอบมาจากงานวิจัยฝั่งยุโรป ชี้ให้เห็นว่า อาจมีโอกาสสร้างสมดุลเศรษฐกิจกับการระบาดได้ หากติดเชื้อใหม่ต่อวัน ไม่เกิน 10 คนต่อประชากร 1,000,000 คน ดังนั้น หากคิดย้อนกลับไป เราจึงไม่แปลกใจว่าเหตุใดแต่ละพื้นที่ข้างต้น จึงเป็นดังเช่นปัจจุบัน เหตุผลตรงไปตรงมาที่สุดคือ ไปเปิดในขณะที่สถานการณ์ระบาดยังไม่ดีพอนั่นเอง
2. ผลลบปลอมจากการใช้ชุดตรวจไว ATK
หากค่าความไวของชุดตรวจไม่มาก จะทำให้เกิดผลลบปลอมได้สูง นั่นคือคนที่ติดเชื้อแต่ตรวจแล้วกลับได้ผลลบ จำนวนคนที่ตรวจแล้วได้ผลลบเหล่านั้น ย่อมนำไปสู่โอกาสที่จะนำเชื้อไปแพร่ต่อเนื่องในชุมชนที่อยู่อาศัยนั่นเอง สิ่งที่ควรทำคือ การขยายระบบการตรวจคัดกรองมาตรฐาน RT-PCR และกลไกการประสานงานส่งต่อสิ่งส่งตรวจให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ ใช้วิธีตรวจนี้เป็นมาตรฐาน ให้คนเข้าถึงได้โดยอิสระ ไม่คิดค่าใช้จ่าย เพราะหากระบบนี้ไม่เกิดขึ้นมา หรือไม่มีศักยภาพที่จะทำได้มากเพียงพอ การประกาศนโยบายเปิดเมือง เปิดท่องเที่ยว และเปิดประเทศ ท่ามกลางสถานการณ์ระบาดรุนแรงต่อเนื่อง จะมีความเสี่ยงสูงที่จะทำให้เราเข้าสู่การระบาดหนักซ้ำปลายปี เป็น Blue or Black New Year และเกิดผลกระทบมากมายและยาวนานได้
นอกจากนี้ รศ.นพ.ธีระ ยังระบุว่า หากถามว่า "วิกฤตต้มกบ" นั้นจะหนักตรงจุดไหน ตอบโดยไม่ลังเลว่า "ในเมือง" ครับ ไม่ว่าจะเมืองกรุง หรือเมืองท่องเที่ยวก็ตาม จะเสี่ยงสูงกว่าที่อื่น ๆ ขอให้ป้องกันตัวอย่างเป็นกิจวัตร
ณ จุดนี้ ย้ำอีกครั้งว่า ขอให้ใส่หน้ากากเสมอ สำคัญมาก