โควิด-19

"หมอยง" พัฒนาตัวจับ "โอไมครอน" ใช้เวลา 4 ชั่วโมงตรวจวินิจฉัยสายพันธุ์ได้

"หมอยง" พัฒนาตัวจับ "โอไมครอน" ใช้เวลา 4 ชั่วโมงตรวจวินิจฉัยสายพันธุ์ได้

02 ธ.ค. 2564

"หมอยง" เดินหน้าพัฒนาตัวจับจำเพาะ "โอไมครอน" เพื่อการวินิจฉัยสายพันธุ์ที่รวดเร็วมั่นใจตรวจเจอพร้อมระบุความชัดเจนได้ภายใน 4 ชั่วโมง

ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิกภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊ก Yong Poovorawan เกี่ยวกับโควิดสายพันธุ์ "โอไมครอน" โดยระบุ ว่า  

โควิด 19 การตรวจหาเชื้อสายพันธุ์โอมิครอน (Omicron) ต้องทำได้อย่างรวดเร็ว
ยง ภู่วรวรรณ   2 ธันวาคม 2564
ปัจจัยสำคัญในการควบคุมโรค covid-19 สายพันธุ์โอมิครอน  ในบ้านเราจะต้องทำได้อย่างรวดเร็ว 
การตรวจวินิจฉัยจึงมีความจำเป็นที่จะต้องพัฒนา ให้ได้อย่างรวดเร็ว
ในต่างประเทศ ชุดตรวจที่มีการตรวจยีน S  หรือ ยีนหนามแหลมสไปท์ ร่วมกับการตรวจยีนอื่น และถ้าให้ผลบวกต่อยีนอื่น โดยให้ผลลบต่อยีนหนามแหลมสไปท์ ที่มีการเปลี่ยนแปลงพันธุกรรมค่อนข้างมาก จะเข้าข่ายสงสัยไว้ก่อนทันที แต่สำหรับประเทศไทยชุดตรวจส่วนใหญ่ RT PCR จะเป็นชุดตรวจ หายีน N ยีน E และยีน orf1ab หรือ RdRp ดังนั้น จึงใช้วิธีที่กล่าวไม่ได้

ขณะนี้ทางศูนย์ได้พัฒนา probe ตัวจับจำเพาะ ต่อสายพันธุ์ โอมิครอน เพื่อการวินิจฉัยให้ได้รวดเร็วที่สุด ที่ผ่านมาก็มีตัวจับจำเพาะ (probe) ต่อสายพันธุ์แอลฟา สายพันธุ์เดลต้าอยู่แล้ว สามารถทำพร้อมกันได้เป็นจำนวนมากและใช้เวลาเท่ากับการทำ RT PCR ธรรมดา คือประมาณ 4 ชั่วโมงก็สามารถที่จะบอกหรือคาดว่า เป็นสายพันธุ์ โอมิครอน ได้ 

การตรวจยืนยันจำเป็นที่จะต้องใช้วิธีถอดรหัสพันธุกรรม โดยเฉพาะในรายที่สงสัยจากการตรวจกรองดังกล่าว ให้ได้อย่างรวดเร็ว
กลุ่มผู้ป่วยที่ต้องสงสัยและจำเป็นต้องตรวจหาสายพันธุ์ โอมิครอน คือกลุ่มผู้ป่วยที่เดินทางมาจากต่างประเทศทุกคน ผู้ฉีดวัคซีนครบแล้วติดเชื้อ ผู้ที่เคยป่วยแล้วติดเชื้อซ้ำ ผู้ป่วยที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง ผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง หรือการระบาดใน cluster ควรสุ่มตัวอย่างในคลัสเตอร์มาตรวจทุก คลัสเตอร์ 
การถอดรหัสพันธุกรรมสำหรับประเทศไทยจะต้องทำเพิ่มขึ้น และมีการสุ่มหลากหลายในประชากร งบประมาณในส่วนนี้ จำเป็นจะต้องใช้เพิ่มขึ้น เพื่อการเฝ้าระวังและควบคุมการระบาดในประเทศไทย และมีความจำเป็นที่ต้องทำอย่างรวดเร็วด้วย
#หมอยง