"โอไมครอน" อังกฤษเสียชีวิตเพิ่มเป็น 12 ราย จับตาอีก 2 สัปดาห์ติดเชื้อเพิ่ม | คมชัดลึก

ดร.อนันต์ จงแก้ววัฒนา นักไวรัสวิทยา ผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยนวัตกรรมสุขภาพสัตว์และการจัดการ ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.)  โพสต์ข้อความว่าบนเฟซบุ๊ก Anan Jongkaewwattana ถึงสถานการณ์การระบาดของโอไมครอน โดยระบุว่า

วันนี้ผู้เสียชีวิตจากโอมิครอนใน UK เพิ่มมาอีก 5 คน เป็น 12 คน จากจำนวนผู้เสียชีวิตในช่วง 28 วันที่ผ่านมาทั้งหมด 45 คน...ตกลงโอมิครอนจะลดความรุนแรงจริงๆหรือ??? เนื่องจากเหตุการณ์วันนี้เป็นผลจากการติดเชื้อเมื่อ 2 อาทิตย์ก่อน ซึ่งตัวเลขของโอมิครอนยังน้อยกว่าเดลต้าหลายเท่า แต่ถ้าโอมิครอนยังขึ้นไม่หยุด นับจากนี้ไปอีก 2 อาทิตย์เพื่อดูผลจากการติดเชื้อของวันนี้ เราอาจเห็นตัวเลขผู้เสียชีวิตจากโอมิครอนสูงกว่าเดลต้า ตามหลักการติดมากก็ป่วยได้มาก ... วาทะกรรมโอมิครอนไม่ทำให้คนเสียชีวิตไม่จริงจากข้อเท็จจริงครับ

ตัวเลขผู้ที่ได้วัคซีนครบ 3 เข็มของ UK มีสูงถึง 28 ล้านคน น่าจะทำให้ความต่างระหว่างเดลต้า และ โอไมครอน เห็นชัดขึ้นไปเรื่อยๆ ถ้าโอมิครอนติดทำให้คนกลุ่มนี้ป่วยได้เป็นตัวเลขที่มากพอ จะเห็นภาพ % การป้องกันด้วยวัคซีนเข็มกระตุ้น อันนี้คือ real-world data ที่น่าเชื่อถือ และ อ้างอิงครับ

นอกจากนี้ ดร.อนันต์ ยังโพสต์ข้อความถึงกรณีที่ซิโนแวคให้ข้อมูลว่า ฉีดวัคซีนซิโนแวคครบ 3 เข็มสามารถป้องกันโอไมครอนได้ 90%

เนื้อหาของข่าวคือ ทีมวิจัย Sinovac นำไวรัสโอมิครอนที่แยกได้จากฮ่องกงจำนวน 2 ตัวอย่างไปตรวจดูว่าภูมิคุ้มกันในคนที่ได้รับ Sinovac 3 เข็มสามารถยับยั้งไวรัสโอมิครอนนั้นได้หรือไม่ จากข้อมูลที่รายงานในข่าวบอกว่า 94% ใน 48 ตัวอย่างที่ทดสอบ สามารถตรวจวัดค่า Neutralizing Antibody ต่อ ไวรัสโอมิครอนได้ 

เนื่องจากรายละเอียดของข่าวมีน้อยมาก และ การเขียนไม่ได้สื่อสารให้นักวิทยาศาสตร์อ่านเข้าใจ เลยไม่แน่ใจว่า positive rate of NAb ที่ว่าหมายถึงอะไร แต่คิดว่าน่าจะหมายถึงว่าตรวจพบแอนติบอดีที่สามารถยับยั้งไวรัสโอมิครอนได้...แต่จะมีมากแค่ไหน และที่สำคัญ เพียงพอหรือไม่ต่อการยับยั้งไวรัสโอมิครอน.ตรงนี้ไม่สามารถคาดเดาอะไรได้ครับ

หวังว่าทางทีมวิจัยจะแสดงผลแบบชัดๆออกมาไวๆนะครับ จะได้คลายข้อสงสัย เพราะเขียนพาดหัวข่าวออกมาแบบนี้ คงที่อยู่นอกวงการจะแปลความว่า "ฉีด Sinovac 3 เข็ม สามารถป้องกันโอมิครอนได้ 94%" ซึ่ง"ไม่ใช่"ความหมายของเนื้อข่าวนี้