เช็คเลย อาการใหม่ "โอไมครอน" ส่วนใหญ่เจอในเด็ก ผื่นขึ้น 3 แบบ ส่งสัญญาณติดแน่ | คมชัดลึก

อัปเดตอาการ "โอไมครอน" หรือ "โอมิครอน" ซึ่งก่อนหน้านี้ มีการอัปเดตข้อมูลอาการจากผู้เชี่ยวชาญเป็นระยะ เบื้องต้น ผู้เชี่ยวชาญด้านระบาดวิทยาทางพันธุกรรม ของมหาวิทยาลัยคิงส์ คอลเลจ ลอนดอน ประเทศอังกฤษ ได้ให้ข้อสังเกตเกี่ยวกับ อาการผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด "สายพันธุ์โอไมครอน" (Omicron) หรือ "โอมิครอน" ว่า มีความคล้ายคลึงกับอาการของไข้หวัด ดังนี้

 

 

• มีอาการไอเล็กน้อย ระคายคอ
• น้ำมูกไหล
• จาม
• จมูกยังสามารถได้กลิ่น ลิ้นรับรสได้ดี
• ไม่ค่อยมีไข้
• รู้สึกล้า และปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ
• เหงื่อออกตอนกลางคืน แม้จะอยู่ในห้องแอร์
• ปวดหลังส่วนล่าง

ต่อมา พบข้อมูลใหม่ ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นอาการเฉพาะตัวของ "โอไมครอน" ข้อมูลจาก ดร.จอห์น แคมพ์เบล แพทย์จากอังกฤษ ระบุว่า อาการเปลี่ยนจากเดิมโดยสิ้นเชิง โดยอาการไข้ไม่ชัดเจน และไม่ค่อยพบการสูญเสียการรับกลิ่นและรส ส่วนอาการหลัก ๆ ที่พบ มีดังนี้

 

• ปวดหัว 65%
• อ่อนเพลียอ่อนล้า 65% ตั้งแต่ไม่มากจนกระทั่งถึงลุกไม่ไหว
• น้ำมูกไหล 65%
• เจ็บคอ  57%
• จาม 55%

 

ส่วนข้อมูลอาการของผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สายพันธุ์ "โอไมครอน" ในประเทศไทย จากการตรวจผู้มีอาการ 41 ราย กรมการแพทย์ ระบุว่า ส่วนใหญ่ 48% ไม่มีอาการ และ 8 อาการที่พบมากที่สุด คือ
 

• อาการไอ 54 %
• เจ็บคอ 37 %  
• มีไข้ 29 %
• ปวดกล้ามเนื้อ 15 %
• มีน้ำมูก 12 %
• ปวดศีรษะ 10 %
• หายใจลำบาก  5 %
• ได้กลิ่นลดลงมีเพียง  2 %  

 

ขณะเดียวกัน มีรายงานล่าสุดจาก เดอะซัน โดยผู้เชี่ยวชาญที่ ZOE รวบรวมอาการของโควิด-19 สายพันธุ์ "โอไมครอน" จาก 21 อันดับ ผลปรากฏว่าอาการผื่นอยู่ที่อันดับ 10 ได้แก่ ลมพิษ ผดร้อน และชิลเบลนส์ โดยแยกอาการดังนี้

 

• ลมพิษ ( Hives) มีลักษณะเป็นผื่น ตุ่มบวม และรอยนูนแดงขึ้นตามร่างกาย และทำให้เกิดอาการคันและเจ็บ มักเกิดขึ้นบริเวณฝ่ามือ หรือฝ่าเท้าอย่างเฉียบพลัน ตามข้อมูล การติดเชื้อโควิด อาจทำให้เกิดลมพิษในบางคน และส่วนใหญ่มักพบในเด็ก อย่างไรก็ตาม แพทย์เผยว่า การติดเชื้อต่าง ๆ รวมถึงไข้หวัด สามารถกระตุ้นให้เกิดโรคลมพิษได้เช่นกัน
• ผดร้อน (Prickly Heat) มีลักษณะเป็นตุ่มน้ำ รอยแดง และมีอาการคันปรากฏขึ้นทั่วร่างกาย ซึ่งพบได้บ่อยบริเวณข้อศอก, เข่า, หลังมือ และเท้า ซึ่งแพทย์แผนปัจจุบันในลอนดอน เตือนว่า เด็กที่ติดเชื้อ "โอมิครอน" มีอาการผื่นเกิดขึ้น โดยพบเด็กประมาณ 15 เปอร์เซ็นต์ ที่ได้รับการยืนยันว่า ติดเชื้อ อาการดังกล่าว ควบคู่ไปกับความเหนื่อยล้า ปวดหัว และเบื่ออาหาร
• ชิลเบลนส์ (Chilblains) ตามรายงานพบผู้ป่วยบางราย มีลักษณะผื่นสีแดง หรือสีม่วงปรากฏอยู่เหนือผิวหนังบริเวณมือและเท้าเป็นหย่อม ๆ บางครั้งอาจมีลักษณะคล้ายแผลพุพองและอาการบวม ทำให้เกิดความเจ็บปวดและแสบร้อน โดยส่วนใหญ่พบในเด็กและวัยรุ่น ซึ่งในบางกรณีอาจเกิดนิ้วเท้าอักเสบ

 

 

 

ขอบคุณที่มา : The Sun