"โควิดระดับ4" สธ.ยกระดับเตือนภัย ทั่วประเทศ งดไปที่เสี่ยง-เลี่ยงเดินทาง
สธ.ยกระดับการเตือนภัย "โควิดระดับ4" หลังติดเชื้อรายใหม่เพิ่มต่อเนื่องภายใน 2 สัปดาห์ ขอความร่วมมือประชาชนงดไปที่เสี่ยง เลี่ยงกิจกรรมรวมกลุ่มและเลี่ยงเดินทางข้ามจังหวัด
นพ.จักรรัฐ พิทยาวงศ์อานนท์ ผู้อำนวยการกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่าระหว่างการแถลงอัปเดตสถานการณ์ "โควิด" เตือนภัย โควิดระดับ4 ทั่วประเทศ และแนวทางมาตรการควบคุมโรค ว่า จากสถานการณ์การติดเชื้อ "โควิด" มีแนวโน้มสูงขึ้น และคาดการณ์ว่าภายใน 1-2 สัปดาห์ห์ทรงตัวในระดับสูง
ดังนั้นกระทรวงสาธารณะจึงจำเป็นจะต้องมีการมาตรการและแนวทางเพื่อควบคุมไม่ให้เกิดการระบาดเพิ่มขึ้น โดยในเบื้องต้นสถานการณ์การระบาดของโควิด19 และการติดเชื้อของไทยพบว่า มีอัตราผู้ติดเชื้อรายใหม่เฉลี่ย 14 วัน ( 8-21 ก.พ.65 ) อยู่ที่ประมาณ 15,981 ราย ผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง 796 ราย ใส่ท่อช่วยหายใจ 202 ราย เสียชีวิตเฉลี่ย 14 วันอยู่ที่ประมาณ 25 ราย โดยที่ผ่านมากระทรวงสาธารณสุข ( สธ.) มีการเฝ้าระวังการติดเชื้อในลักษระคลัสเตอร์ แคมป์คนงาน โรงเรียนสถานประกอบการ มาอย่างต่อเนื่อง
นพ.จักรรัฐ กล่าวต่อว่า แต่จากการติดตามข้อมูลพบว่าขณะนี้ "โควิด" ได้แพร่กระจายไปทั่วประเทศแล้ว ดังนั้นเพื่อเป็นการควบคุมการแพร่ระบาด
สธ.จึงได้มีการยกระดับการเตือนภัยโควิดเป็นระดับ 4 ทั่วประเทศ โดยจะต้องขอความร่วมมือประชาชนงวดเข้าสถานที่เสี่ยง เลี่ยงการรวมกลุ่ม ชะลอการเดินทางข้ามจังหวัด
เพื่อควบคุมไม่ได้การแพร่เชื้อการจายเป็นวงกว้าง อย่างไรก็ตามมีการเปรียบเทียบอัตราการติดเชื้อของผู้ป่วย พบว่าแนวโน้มการติดเชื้อทั่งประเทศยังเพิ่ใขึ้นต่อเนื่อง อัตราการติดเชื้อเพิ่มขึ้นทุกกลุ่ม วันทำงานการทำงาน การกินข้าวร่วมกันทำให้แพร่เชื้อได้มากที่สุด รวมไปถึงการแพร่เชื้อในวัยเด็ก
ด้านนพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศอยู่ในช่วงการระบาดของ "โควิด" สายพันธุ์โอไมครอน แม้ว่าจะมีการติดเชื้อรายวันจำนวนมาก แต่พบว่าอัตราการเสียชีวิตจากการติดเชื้อโอไมครอนมีความรุนแรงต่ำ มีการเสียชีวิตต่ำลง แต่หากมีการปล่อยให้เกิดการระบาดมากยิ่งขึ้นจะทำให้ควบคุมอยาก จากข้อมูลพบว่า ขณะนี้ผู้ติดเชื้อจะอยู่ในวัย 18 ขึ้นไป ซึ่งพบมากในกลุ่มเด็กเล็ก วัยทำงาน และเพื่อเป็นการลดจำนวนผู้ติดเชื้อ ลดการแพร่ระบาดลงให้อยู่ในจุดที่สามารถควบคุมได้ สธ. ขอให้ประชาชนช่วยกันป้องกันตัวเอง เพราะโควิดสามาถติดต่อได้ง่ายในบางรายมีอาการเล็กน้อย หรือไม่มีอาการเลย เมื่อเดินทางไปพบปะผู้อื่นก็จะส่งให้มีการแพร่เชื้อโดยไม่รู้ตัง ดังนั้นหากมีความเสี่ยงขอให้กักตัวเอง มาตรการในการควบคุมโรคยังมีความสำคัญ ดังนั้น สธ. จึงมีความจำเป็นต้องยกระดับการเตือนภัยโควิดเป็นระดับ 4 ทั่วประเทศ โดยมีมาตรการดังนี้
- งดเข้าสถานที่เสี่ยง
- งดทานอาหารร่วมกัน ดื่มสุราในร้าน
- เลี่ยงไปซื้อของที่มีคนจำนวนมาก เช่น ตลาด ห้าง
- เลี่ยงใกล้ชิดผู้อื่นนอกบ้าน
- งดร่วมกิจกรรม กลุ่มตามเกณฑ์ต่างๆ
- มาตรการทำงานที่บ้านให้ได้ร้อยละ 50-80
- ชะลอการเดินทางข้ามจังหวัดหากจำเป็นใช้รถยนต์ส่วนตัว
- เลี่ยงไปต่างประเทศ
- หากเข้าประเทศต้องปรับตัวในสถานที่กักกัน
ระดับเตือนภัยป้องกันโควิด19 ของประเทศไทย จะมีทั้งหมด 5 ระดับ คือ
ระดับ 1 ใช้ชีวิตได้ปกติ แบบ COVID-19 Free Setting ประชาชนสามารถ โดยสารขนส่งสาธารณะได้ การเดินทางเข้าประเทศโดยปกติ
ระดับ 2 เร่งเฝ้าระวัง คัดกรอง เลี่ยงกิจกรรมรวมกลุ่ม 1,000 คนขึ้นไป งดเข้าสถานบันเทิง เลี่ยงเข้าสถานที่ปิด/แออัด เลี่ยงร่วมกิจกรรมที่มีการรวมกลุ่มจำนวนมาก เลี่ยงโดยสารขนส่งสาธารณะทุกประเภท
ระดับ 3 จำกัดการรวมกลุ่ม ทำงานจากที่บ้าน 20 – 50% เลี่ยงกิจกรรมรวมกลุ่ม 200 คนขึ้นไป เลี่ยงโดยสารขนส่งสาธารณะทุกประเภท งดไปต่างประเทศ
ระดับ 4 ปิดสถานที่เสี่ยง ทำงานจากที่บ้าน 50 – 80% งดไปรับประทานร่วมกัน งดดื่มสุราในร้าน งดเข้าสถานที่เสี่ยงทุกประเภท เลี่ยงเข้าใกล้ผู้อื่นนอกบ้าน คัดกรองก่อนเดินทาง ชะลอการเดินทางข้ามพื้นที่ ใช้ระบบกักตัวผู้เดินทางจากต่างประเทศ
ระดับ 5 จำกัดการเดินทางและกิจกรรมต่างๆ ทุกคนงดออกนอกบ้าน หากจำเป็นเพื่อการดำรงชีวิต เช่น ตรวจ รักษา ซื้ออาหาร ของใช้ งดรวมกลุ่มมากกว่า 5 คน งดใกล้ชิดกันในบ้าน รวมถึงเคอร์ฟิว ซึ่งจะมีการกำหนดมาตตรการตามระดับเตือนภัยทั้ง 5 ระดับด้วย
- สถานการณ์เตียงว่างสำหรับรองรับผู้ติดเชื้อโควิด
-จำนวนเตียงทั่วประเทศ 173,736 เตียง
-อัตราการครองเตียง 85,389 เตียง
-อัตราเตียงว่าง 88,347 เตียง
เตียงสำหรับรองรับผู้ป่วยอาการหนัก
-จำนวนเตียงทั้งหมด 2,160 เตียง
-อัตราการครองเตียง 383 เตียง
-อัตราเตียงว่าง 1,777 เตียง
เตียงสำหรับผู้ป่วยระดับ 2.2 (Oxygen high flow)
-จำนวนเตียงทั้งหมด 5,612 เตียง
-อัตราการครองเตียง 673 เตียง
-อัตราเตียงว่าง 4,939 เตียง
เตียงผู้ป่วยระดับ 2.1 (Oxygen low flow)
-จำนวนเตียงทั้งหมด 23,910 เตียง
-อัตราการครองเตียง 4,679 เตียง
-อัตราเตียงว่าง 19,231 เตียง
เตียงรองรับผู้ป่วยระดับ 1 (กลุ่มที่ไม่ใช้อ็อกซิเจน)
-จำนวนเตียงทั้งหมด 142,054 เตียง
-อัตราการครองเตียง 79,654 เตียง
-อัตราเตียงว่าง 62,400 เตียง