โควิด-19

เจออีก ผลวิจัยพบ "ติดเชื้อโควิด" เสี่ยง "ลิ่มเลือดอุดตัน" สูง เพราะสาเหตุใด

เจออีก ผลวิจัยพบ "ติดเชื้อโควิด" เสี่ยง "ลิ่มเลือดอุดตัน" สูง เพราะสาเหตุใด

09 เม.ย. 2565

เจออีก ผลวิจัยจากสวีเดน พบ "ติดเชื้อโควิด" เสี่ยงภาวะ "ลิ่มเลือดอุดตัน" เพิ่มสูง เป็นเพราะสาเหตุใด หนักกว่าจากฉีดวัคซีน

ที่ผ่านมาเรามักจะได้รับคำเตือน อาจต้องเจอกับภาวะ "ลิ่มเลือดอุดตัน" ซึ่งเป็นผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีนโควิด แต่รายงานการวิจัยจากสวีเดนพบว่า ผู้หายจากการ "ติดเชื้อโควิด" ขั้นรุนแรง และหายจากการติดเชื้อในการระบาดระลอกแรก มีความเสี่ยงที่จะเกิดลิ่มเลือดร้ายแรงในอีก 6 เดือน 

และนักวิจัยกล่าวว่า สิ่งนี้เน้นถึงความสำคัญของการฉีดวัคซีนป้องกันไวรัส โดยผู้ติดเชื้อโควิด-19 มีแนวโน้มที่จะเกิดลิ่มเลือดมากขึ้น โดยเฉพาะผู้ป่วยที่ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล ซึ่งนักวิจัยพบว่า หลังติดเชื้อโควิด ความเสี่ยงที่จะเพิ่มขึ้นมีดังนี้

 

  • ลิ่มเลือดในขา หรือ ลิ่มเลือดอุดตัน หลอดเลือดดำลึก (DVT) เป็นระยะเวลานานถึง 3 เดือน
  • ลิ่มเลือดในปอดหรือเส้นเลือดอุดตันที่ปอดเป็นระยะเวลานานถึง 6 เดือน
  • เลือดออกภายใน เช่น โรคหลอดเลือดสมองเป็นระยะเวลานานถึง 2 เดือน


ทั้งนี้ เมื่อนักวิจัยเปรียบเทียบความเสี่ยงของ "ลิ่มเลือดอุดตัน" หลัง "ติดเชื้อโควิด" กับระดับความเสี่ยงปกติพบว่า ผู้ป่วยโควิด 4 คน ใน 10,000 คน มีอาการ DVT เทียบกับ 1 ใน 10,000 คน ที่ไม่ติดโควิด ผู้ป่วยโควิดราว 17 คนในทุก 10,000 คน มีลิ่มเลือดในปอด เทียบกับน้อยกว่า 1 คนในทุก 10,000 คนที่ไม่ติดโควิด

 

การศึกษาดังกล่าว ที่ตีพิมพ์ในนิตยสารแพทย์อังกฤษ (บีเอ็มเจ) ระบุว่า ความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของการเกิดลิ่มเลือดในการระบาดระลอกแรกสูงกว่าระลอกถัดมา อาจเป็นเพราะการรักษาดีขึ้นในช่วงการระบาดใหญ่ และผู้ป่วยสูงอายุเริ่มได้รับการฉีดวัคซีนในการระบาดระลอกที่สอง ซึ่งนักวิจัยต้องการทราบว่า ความเสี่ยงนั้นจะกลับสู่ระดับปกติเมื่อใด จึงติดตามสุขภาพของคนมากกว่า 1 ล้านคน ที่มีผลตรวจโควิด-19 เป็นบวก ระหว่างเดือน ก.พ. 2563-พ.ค. 2564 ในสวีเดน และเปรียบเทียบกับคนอายุและเพศเดียวกัน 4 ล้านคนที่ไม่ได้ผลตรวจเป็นบวก 

อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงของการเกิดลิ่มเลือดอุดตันในปอด ในผู้ป่วยหนักด้วยโควิด-19 รุนแรง จะสูงกว่าปกติ 290 เท่า และสูงกว่าปกติ 7 เท่าหลังติดโควิด-19 ไม่รุนแรง แต่ไม่มีความเสี่ยงที่จะมีเลือดออกภายในในกรณีติดโควิดรุนแรง แต่ในการศึกษาครั้งนี้ นักวิจัยไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่า โควิดทำให้ลิ่มเลือดก่อตัว แต่มีหลายทฤษฎีว่าทำไมมันเกิดขึ้น ซึ่งอาจเป็นผลโดยตรงของไวรัสต่อชั้นของเซลล์ที่เรียงตัวกันในหลอดเลือด การตอบสนองต่อการอักเสบที่มากเกินไปต่อไวรัส หรือร่างกายทำให้ลิ่มเลือดก่อตัวในเวลาไม่เหมาะสม

 

อันน์-มารี ฟอร์ส คอนโนลลี นักวิจัยหลักจากมหาวิทยาลัยอูเมโอ (Umeå) ในสวีเดน กล่าวว่า สำหรับผู้ไม่ได้รับวัคซีน นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ควรจะได้รับวัคซีน เพราะความเสี่ยงดังกล่าว สูงกว่าความเสี่ยงจากวัคซีนมาก วัคซีนมีประสิทธิภาพมากในการต้านโควิดขั้นรุนแรง แต่ให้การป้องกันการติดเชื้อน้อยกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเชื้อกลายพันธุ์โอไมครอน ซึ่งหมายความว่า การติดเชื้อซ้ำ ที่มีอาการมักเป็นเรื่องปกติ เนื่องจากประเทศต่าง ๆ หาวิธีอยู่ร่วมกับโควิด

 

ทั้งนี้ ที่ผ่านมา มีข้อมูลว่าผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีนโควิด พบอาการที่อาจเกิดจากมี "ลิ่มเลือดอุดตัน" ที่ควรรีบพบแพทย์ คือ

  • ปวดหัวรุนแรงและต่อเนื่อง
  • มีอาการทางระบบประสาทเฉพาะที่ เช่น ตามัว เห็นภาพซ้อน
  • หายใจไม่เต็มอิ่ม เจ็บหน้าอก ปวดหลัง และปวดท้องรุนแรง คลื่นไส้ อาเจียนต่อเนื่อง
  • มีเลือดออกผิดปกติ เช่น มีจ้ำเลือดตามตัว มีตุ่มน้ำที่มีเลือดออกภายใน
  • แขน ขา บวมปวด

แต่ผลวิจัยยังยืนยันว่า แม้ความเสี่ยงของการเกิดลิ่มเลือดเพิ่มขึ้นหลังการฉีดวัคซีน แต่ความเสี่ยงยังน้อยกว่าและยังอยู่ในช่วงเวลาสั้นกว่าที่เกี่ยวข้องกับการติดเชื้อ

 

 

 

 

ขอบคุณข้อมูล บีบีซี