"โอไมครอน" ไม่จบแค่หายหรือตาย พบเชื้อโควิดเพิ่ม 2 จุด ในผู้ป่วยลองโควิด
หมอธีระ เผย "โอไมครอน" ไม่จบแค่หายหรือตาย ผลวิจัยล่าสุด พบเชื้อ "โควิด19" อีก 2 จุด ในผู้ป่วยลองโควิด แนะป้องกันตัวเองอย่างสม่ำเสมอ
"หมอธีระ" รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊ก Thira Woratanarat (ป๊ามี้คีน) เปิดเผยถึง สถานการณ์ระบาด "โอไมครอน" เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่ม 479,376 คน ตายเพิ่ม 1,312 คน รวมแล้วติดไป 536,995,931 คน เสียชีวิตรวม 6,324,784 คน 5 อันดับแรกที่ติดเชื้อสูงสุดคือ ไต้หวัน เกาหลีเหนือ ฝรั่งเศส บราซิล และเยอรมัน
สำหรับไทยนั้น จำนวนติดเชื้อที่รายงานไม่สามารถนำมาใช้เปรียบเทียบกับประเทศอื่นได้ เพราะหลัง 1 มิ.ย. มีการประกาศปรับมารายงานเพียงจำนวนคนป่วย ไม่ใช่รายงานการติดเชื้อใหม่ทั้งหมดที่เกิดขึ้น ในขณะที่จำนวนเสียชีวิตเมื่อวาน สูงเป็นอันดับ 16 ของโลก และเป็นอันดับ 3 ของเอเชีย
ทั้งนี้จำนวนเสียชีวิตของไทยเมื่อวานคิดเป็น 9.25% ของการเสียชีวิตทั้งหมดที่รายงานของทวีปเอเชีย หากปรับตามคาดประมาณสัดส่วนของคนที่มีโรคร่วมเหมือน UK จะพบว่าคิดเป็น 12.71%
ล่าสุดทีมวิจัยจากสิงคโปร์และสเปน รายงานใน Research Square วันที่ 7 กรกฎาคม 2565 ตรวจพบเชื้อไวรัสโรค โควิด19 ได้ในไส้ติ่ง และเนื้อเยื่อเต้านม ของผู้ป่วยที่มีอาการ Long COVID ตั้งแต่ 6 เดือนถึง 15 เดือน โดยพบสารพันธุกรรมของไวรัส ที่เป็น replicative intermediate ซึ่งบ่งถึงกระบวนการแบ่งตัวของไวรัสที่ดำเนินอยู่
งานวิจัยนี้ตอกย้ำให้เห็นว่า หลังติดเชื้อโรค โควิด19 แล้ว ไม่ได้จบแค่หายหรือตาย แต่อาจเกิดภาวะผิดปกติระยะยาว เกิด Long COVID ที่ทำให้เกิดอาการต่างๆ ในหลากหลายอวัยวะ หลากหลายระบบ โดยกลไกหนึ่งที่เป็นไปได้สูงคือ การมีการติดเชื้อไวรัสแฝงระยะยาวในเซลล์ของร่างกาย
การป้องกันตัวอย่างสม่ำเสมอนั้นสำคัญมาก ใครจะให้ Move on ถอดหน้ากากทิ้ง ทั้งๆ ที่สถานการณ์ระบาดของไทยยังติดอันดับโลกทั้งติดเชื้อและเสียชีวิต (แม้จะพยายามเปลี่ยนระบบรายงานตัวเลขให้ลดลงไปดังที่เป็นข่าวรับทราบกันมาตลอดก็ตาม) ก็ขอให้ประชาชนไตร่ตรองให้ดี
บทเรียนสองปีที่ผ่านมา ติดเชื้อจำนวนมาก ป่วยมาก ตายกันมาก สูญเสียสมาชิกครอบครัว เสียหายทั้งกาย ใจ และเศรษฐกิจกันมหาศาล คนแบกรับความทุกข์ทรมานคือคนที่ประสบปัญหาโดยตรง คนในสังคมต้องดิ้นรนหายา หาการตรวจ สนับสนุนกันเองเพื่อให้รอดจากวิกฤติ การใส่หน้ากากในสถานการณ์ปัจจุบันจึงยังเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล เพื่อให้ผ่านพ้นการระบาดไปด้วยกันอย่างปลอดภัย
อ้างอิง
Goh D et al. Persistence of residual SARS-CoV-2 viral antigen and RNA in tissues of patients with long COVID-19. Research Square. 7 June 2022.