"เทียบอาการไข้หวัดกับโควิด" BA.4 BA.5 อาการคล้ายกัน แต่ระยะเริ่มต้นต่างกัน
โอไมครอน BA.4-BA.5 ระบาด "เทียบอาการไข้หวัดกับโควิด" หลายอาการคล้ายกันมากจนแยกลำบาก แนะเช็คอาการป่วยเริ่มต้นให้ชัดก่อนสรุปเป็นหวัดหรือติดโควิด
สถานการณ์การระบาดของ โควิด ในไทยดูเหมือนว่ากำลังจะคลี่คลายลง และในวันที่ 1 ก.ค. 2565 สถานการณ์โควิดในประเทศไทยจะเริ่มเข้าสู่การเป็นโรคประจำถิ่น แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีการตรวจพบโควิด โอไมครอน สายพันธุ์ย่อย BA.4 และ BA.5 ที่เริ่มระบาดมากยิ่งขึ้น โดยสายพันธุ์ดังกล่าวเกิดการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังมีข้อมูลว่าสามารถแพร่กระจายได้ดีบริเวณปอด หรือ ทางเดินหายใจส่วนหลัง แต่อาการที่แสดงออกนั้นพบว่ายังคงมีอาการคล้ายคลึงกับอาการไข้หวัด ซึ่งในบางรายอาจจะแบกได้ยาก วันนี้ "คมชัดลึกออนไลน์" ได้สรุป "เทียบอาการโควิดกับไข้หวัด" หรือ อาการไข้หวัดกับ โอไมครอน BA.4 และ BA.5 มาให้เช็คความเหมือนและความแตกต่าง เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการเข้ารับการรักษาได้อย่างถูกวิธี
"เทียบอาการโควิดกับไข้หวัด" โดย ดร.อนันต์ จงแก้ววัฒนา นักวิจัยด้านไวรัสวิทยา ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) ระบุ อาการของผู้ที่ติดเชื้อ โอไมครอน BA.4/BA.5 ว่า ชัชัดกว่าผู้ป่วยที่ติดโอมิครอนรุ่นแรก ในทุกอาการที่รายงาน สังเกตจากกราฟสีเขียวสูงกว่าสีชมพูทั้งหมด โดยอาการที่พบมากกว่า 50% ของผู้ป่วยคือ อ่อนเพลีย ไอ ไข้ ปวดศีรษะ น้ำมูกไหล ตามลำดับ และ เป็นที่น่าสนใจว่า กลุ่มอาการทางเดินหายใจเช่น หายใจถี่ และ หายใจลำบาก พบได้ในกลุ่ม BA.4/BA.5 เช่นเดียวกัน กลุ่มอาการทางเดินอาหารเช่น อาการท้องเสียก็พบได้มากกว่าในกลุ่ม BA.4/BA.5 โดย อาการโอไมครอน ที่แสดงออกในกลุ่มที่ได้รับเชื้อไวรัส แยกต่ามกลุ่มอาการหลักมีดังนี้
-อ่อนเพลีย / เมื่อยล้า
-ไอ
-ไข้
-ปวดศรีษะ
-ปวดกล้ามเนื้อ
-น้ำมูกไหล
-เจ็บคอ
-น้ำมูกไหล
-เจ็บคอ
-ครั่นเนื้อครั่นตัว
-ลิ้นไม่รับรส
-คลื่นไส้/อาเจียน
-จมูกไม่ได้กลิ่น
-หายใจถี่
-ท้องเสีย
-หายใจลำบาก
-อาหารหวัด
-วิงเวียนศรีษะ
"เทียบอาการไข้หวัดกับโควิด" โรคไข้หวัดใหญ่ เกิดจากการติดเชื้อไวรัสอินฟลูเอนซา (Influenza Virus)อาการโดยทั่วไป มักจะไม่รุนแรง และไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ที่ปัจจุบันได้กลายเป็นไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลที่พบปะปนกับสายพันธุ์ต่างๆ ทั่วไป อาการทั่วไปคล้ายกับโควิดโอไมครอนค่อนข้างมาก คือ
-มีไข้สูงเกิน 38 องศาฯ
-ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อมาก
-ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย หนาวสั่น
-เบื่ออาหาร
-คัดจมูก มีน้ำมูกใสๆ ไอแห้งๆ
-บางรายมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน
หากผู้ใหญ่ได้รับเชื้อไวรสจะ อาการจะน้อยมากอาจมีแค่คัดจมูกและน้ำมูกไหล (ยกเว้นผู้ที่มีโรคประจำตัวเป็นโรคทางการหายใจ) อาการของโรคมักเป็นไม่เกิน 2 – 5 วัน แต่อาจมีน้ำมูกไหลนาน 10 – 14 วัน ทั้งนี้ อาการจะคล้ายกับการติดเชื้อไวรัสโควิด19 ค่อนข้างมาก โดยมีข้อแตกต่าง คือ จะไม่มีอาการทางเดินหายใจส่วนล่าง คือ หายใจลำบาก แน่นหน้าอก เมื่ออาการมีความคล้ายคลึงกัน ในระยะเริ่มต้นของอาการป่วยลักษณะนี้