โควิด-19

"โอไมครอน" เปิด ผลวิจัย น่ากังวล ไม่เคยรู้มาก่อน เด็ก ต้องเจอ หนักถึงขั้นนี้

"โอไมครอน" เปิด ผลวิจัย น่ากังวล ไม่เคยรู้มาก่อน เด็ก ต้องเจอ หนักถึงขั้นนี้

20 ส.ค. 2565

เปิด ผลวิจัย ไวรัสสายพันธุ์ "โอไมครอน" Omicron น่ากังวล เกี่ยวกับ เด็ก ที่ไม่เคยรู้มาก่อน ถึงขั้น ความจำเสื่อม

อัปเดตสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด โดยเฉพาะสายพันธุ์ "โอไมครอน" Omicron ถึงแม้จะพบแนวโน้มว่า การระบาดจะลดลง แต่ก็ยังมีสิ่งที่น่ากังวลออกมาเรื่อย ๆ โดยที่เราไม่คาดคิด ทั้งเรื่องความสามารถในการแพร่กระจายของสายพันธุ์โอไมครอน โดยเฉพาะในกลุ่มเด็ก ๆ และปัญหาที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เกี่ยวกับอาการโควิด ที่บางคนเคยเป็น ซึ่งล่าสุด งานวิจัยจากผู้เชี่ยวชาญนานาประเทศ ก็พบว่า เด็กสามารถรับเชื้อโอไมครอนทางจมูกได้ง่ายกว่าสายพันธุ์ก่อนหน้า และปัญหาการ ไม่ได้กลิ่นหลังติดเชื้อ อาจบ่งบอกถึงปัญหาทางสมอง-ความจำในอนาคต

สำนักข่าวรอยเตอร์ ได้รวบรวมบทสรุปของ ผลการศึกษาล่าสุด เกี่ยวกับโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน ซึ่งรวมถึงผลการศึกษาที่น่าเชื่อถือ และน่าจะนำไปสู่การค้นคว้าเพิ่มเติม รวมทั้ง รายงานที่ยังรอการประเมินคุณภาพโดยผู้เชี่ยวชาญรายอื่น ๆ ก่อนจะมีการตีพิมพ์ ไว้ดังนี้

 

1. เด็ก รับเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนทางจมูกได้ง่ายกว่าสายพันธุ์อื่น

 

การศึกษา ระบุว่า โคโรนาไวรัสสายพันธุ์โอไมครอน อาจแพร่เชื้อไปสู่เด็กผ่านทางจมูกได้ง่ายกว่าโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ก่อนหน้านี้ โดยในช่วงต้นของการระบาดใหญ่ของโควิด-19 จมูกของเด็กรับเชื้อไวรัสที่เป็นสาเหตุของโควิด-19 ได้น้อยกว่าจมูกของผู้ใหญ่ โดยการศึกษาเชื้อไวรัส ซาร์ส-โควี-ทู สายพันธุ์ดั้งเดิมและสายพันธุ์อื่น ๆ พบว่าเซลล์เยื่อบุจมูกของเด็ก ๆ มีภูมิคุ้มกันไวรัสเหล่านั้นได้ดีกว่าเซลล์เยื่อบุจมูกของผู้ใหญ่ และไวรัสสายพันธุ์ดังกล่าวก็ไม่สามารถเพิ่มจำนวนได้มากเมื่ออยู่ในจมูกของเด็ก ๆ

เด็กป่วยโควิด

ทั้งนี้ การทดลองในหลอดทดลองเมื่อเร็ว ๆ นี้ เปิดเผยผลการทดลอง ที่ผสมไวรัสกับเซลล์จมูกจากเด็กสุขภาพดี 23 คน และผู้ใหญ่สุขภาพดี 15 คน พบว่า การต้านไวรัสในจมูกของเด็ก “เด่นชัดน้อยกว่าในกรณีของ โอไมครอน Omicron” นักวิจัยรายงานเมื่อวันจันทร์ใน PLOS Biology ระบุว่า Omicron สามารถแบ่งตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ในเซลล์เยื่อบุจมูกของเด็ก เมื่อเทียบกับทั้ง Delta และไวรัสดั้งเดิม 

 

 

2.การรับรู้กลิ่นที่มีปัญหาอาจเป็นสัญญาณปัญหาสมองและความจำในอนาคต

 

การศึกษาอีกชิ้นจากประเทศอาร์เจนตินา ระบุว่า ระดับความรุนแรงของความผิดปกติในการรับรู้กลิ่นหลังการติดเชื้อโควิดนั้น อาจเป็นสิ่งที่ทำนายภาวะถดถอยทางสมองในระยะยาวได้ โดยนักวิจัยได้ทำการศึกษากลุ่มตัวอย่างแบบสุ่มจำนวน 766 คน ที่มีอายุมากกว่า 60 ปี โดยประมาณ 90% ในจำนวนนี้เคยติดเชื้อโคโรนาไวรัสมาแล้ว

 

นักวิจัยได้ทำการการทดสอบทางกายภาพ ความรู้ความเข้าใจ และอาการทางจิตประสาทของคนกลุ่มนี้เป็นเวลา 3-6 เดือน หลังจากการติดเชื้อโควิด และพบว่า 2 ใน 3 ของผู้ที่เคยติดเชื้อมีอาการ "ความจำเสื่อม" ในระดับหนึ่ง และหลังจากพิจารณาปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ ของแต่ละบุคคล เช่น การสูญเสียการรับรู้กลิ่นอย่างรุนแรง หรือ Anosmia แล้ว ก็ทำให้สามารถทำนายภาวะถดถอยทางสมองได้อย่างมีนัยสำคัญ 

 

 

กาบรีเอลา กอนซาเล-อาเลแมน นักวิจัยจากมหาวิทยาลัย Pontificia Universidad Catolica Argentina ในกรุงบัวโนสไอเรส เปิดเผยว่า ยิ่งมีข้อมูลเชิงลึกมากขึ้นเกี่ยวกับสาเหตุ หรืออย่างน้อยก็คาดการณ์ได้ว่า ใครจะเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบจากภาวะถดถอยทางสมองในระยะยาวอย่างมีนัยสำคัญจากการติดเชื้อโควิด-19 เราก็จะสามารถจะติดตามและเริ่มพัฒนาวิธีการป้องกันได้ดียิ่งขึ้น

 

ทั้งนี้ ข้อมูลเหล่านี้ สอดคล้องกับจำนวนการติดเชื้อในเด็กที่เพิ่มขึ้นในช่วงคลื่นโอไมครอน Omicron ซึ่งนักวิจัยเขียนในขณะที่เรียกร้องให้มีการศึกษาเพิ่มเติม

 

 

เพื่อไม่พลาด ข่าวสารต่างๆ คมชัดลึก ไปที่
Youtube - https://www.youtube.com/channel/UCnniqWGq9lOqYd5sGWxVi7w
LineToday - https://today.line.me/th/v2/publisher/100057

เช็กรายชื่อศิลปินเข้าชิง "คมชัดลึก ลูกทุ่ง Awards 2565" ใครคือ 6 Candidate กับ 8  สาขา Popular Vote 

https://www.komchadluek.net/entertainment/524524