หนังจอกว้าง : The Conspirator
ปกติหนังว่าความในชั้นโรงชั้นศาลหรือที่เรียกกันว่า Courtroom Drama มักจะน่าเบื่อ ต้องอาศัยสมาธิในการติดตามเพราะเนื้อหาเรื่องราวเต็มไปด้วยรายละเอียดปลีกย่อยเล็กๆ น้อยๆ ที่หนังมักจะหยิบนำมาใช้ไขปริศนา
หรือนำมาเป็นหลักฐานในการสู้คดีจนฝ่ายที่เสียเปรียบหรือผู้ที่ด้อยกว่าชนะความไปในที่สุด แต่ก็มีเหมือนกันครับที่หนังแนวนี้อีกหลายเรื่อง กลับทำได้สนุกน่าติดตาม สามารถตรึงเราอยู่กับเก้าอี้ให้ลุ้นเอาใจช่วยตัวละครจนจบ ทั้งๆ ที่ตลอดทั้งเรื่องแทบไม่มีฉากแอ็ดชั่นใดๆ เลยแม้แต่น้อย นั่นหมายถึงว่าหนัง “Courtroom Drama”
เหล่านั้นไปเต็มด้วยความเข้มข้นทั้งจากการแสดงของตัวละครแต่ละคน บทสนทนาที่ทั้งคมคายเชือดเฉือน ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมลดละให้แก่กัน ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายโจทก์หรือจำเลย และที่สำคัญบทหนังมักถูกเขียนขึ้นอย่างชาญฉลาด วางหมากกลแต่ละจุดเอาไว้อย่างแยบยล เชื่อมโยงเหตุการณ์เข้าด้วยกันอย่างกลมกลืน มีรายละเอียดปลีกย่อย เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยและสุดท้ายกลายเป็นจุดหักเหที่สามารถพาหนังเดินไปอีกทาง ย่างก้าวเข้าสู่สถานการณ์ทั้งคับขัน ทั้งคลี่คลาย มัดใจคนดูจนอยู่หมัด และโดยเฉพาะหนังที่ตัวละครหลัก ดำรงอยู่ในสถานะคนตัวเล็กๆในสังคมที่หาญกล้าต่อกรกับอำนาจรัฐหรือผู้มีอิทธิพล ยิ่งทำให้เราต้องลุ้นเอาใจช่วยแทบจะตลอดเวลา เหมือนเช่นที่เคยรู้สึกกับหนังคลาสสิคที่หลายคนจดจำกันได้อย่าง “To Kill A Mockingbird” “12 Angry Men” “The Verdict” “A Few Good Men”…
“The Conspirator” เข้าใกล้หนังเหล่านั้นครับ โดยมีเนื้อหาว่าด้วยการว่าความในชั้นศาลเมื่อร้อยกว่าปีก่อน หลังเกิดคดีลอบสังหารประธานาธิบดีอับราฮัม ลินคอล์นจนเสียชีวิต และรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศที่อยู่ในเหตุการณ์ครั้งนั้นก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส จากฝีมือของกลุ่มหัวรุนแรงฝ่ายใต้ หลังสงครามกลางเมืองในสหรัฐอเมริกาเพิ่งจบสิ้นลงไม่นาน แม้จับกุมตัวมือสังหารได้ แต่การออกจับตัวเหล่าผู้ร่วมสมรู้ร่วมคิดเป็นอีกหนึ่งภารกิจของกองทัพ โดยหนึ่งในผู้ต้องหาคดีนี้เป็นหญิงม่ายเจ้าของหอพักที่ลูกชายของเธอใช้เป็นที่ซ่องสุมหารือวางแผนลอบสังหารประธานาธิบดี
แม้สงครามกลางเมืองที่กินเวลายาวนานร่วมครึ่งทศวรรษสงบลง แต่บรรยากาศความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างฝ่ายเหนือและใต้ยังคุกรุ่น การปกครองระบอบประชาธิปไตยภายใต้ผู้นำอย่างประธานาธิบดีลินคอล์นก็ยังต้องอิงกับอำนาจทางการทหาร แต่เมื่อมีการจับกุมดำเนินคดีกับประชาชนคนธรรมดา ผู้ต้องหาเหล่านั้นกลับถูกนำตัวไปพิจารณาคดีในศาลทหาร เพื่อป้องกันคำครหาจากหลายฝ่าย วุฒิสมาชิกนายหนึ่งจึงเสนอให้นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดไปดำเนินคดีในศาลพลเรือนแทน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของทหาร อันนำมาซึ่งการถูกมองว่า การพิจารณาคดีลอบสังหารครั้งนี้ คือการจัดฉากของทหาร เพราะตั้งแต่คณะลูกขุน อัยการ ผู้พิพากษา ล้วนเป็นทหารหรือไม่ก็มีสายสัมพันธ์อันลึกซึ้งกับทหารฝ่ายเหนือ จนถึงทนายจำเลยผู้รับผิดชอบคดีนี้ ทำหน้าที่แก้ต่างให้หญิงม่าย ก็ยังเป็นอดีตนายทหารฝ่ายเหนือผู้ผ่านสมรภูมิรบสงครามกลางเมืองจนเกือบเอาชีวิตไม่รอดมาแล้ว
เมื่อมือสังหารและกลุ่มผู้สมคบคิดเป็นพวกหัวรุนแรงฝ่ายใต้ที่เพิ่งจะปราชัยในสงครามอย่างย่อยยับ การดำเนินคดีที่กำหนดขึ้นในดินแดนรัฐฝ่ายเหนือที่ผู้คนล้วนเต็มไปด้วยอคติต่อฝ่ายใต้ ทั้งชิงชัง เคียดแค้น โกรธขึ้ง หนำซ้ำยังแวดล้อมไปด้วยนายทหารผู้ล้วนผ่านอดีตอันเลวร้ายจากสงครามซึ่งเต็มไปด้วยความสูญเสีย แน่นอนว่า จำเลยในคดีนี้ ต้องรับโทษทัณฑ์ตัดสินประหารชีวิตให้ตายตกไปตามกันอย่างไม่ต้องสงสัย
เฟรเดอริค ไอเค่น นายทหารผู้ได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่ทนายจำเลยให้ ‘แมรี่ เซอร์แรท’ ผู้หญิงคนเดียวที่อยู่ในกลุ่มผู้ต้องหาสมรู้ร่วมคิดลอบวางแผนสังหารประธานาธิบดีลินคอล์นและรัฐมนตรีต่างประเทศ ท่ามกลางเหล่าบรรดาชายหนุ่มหัวรุนแรงจากแดนใต้ ท่าทีเฉยเมย เย็นชาต่อชะตากรรมของตัวเอง จากแค่จะทำคดีให้จบๆ ไปด้วยการผู้ต้องหาสารภาพ ‘ไอเค่น’ กลับพยายามเค้นหาความจริงจากหญิงม่าย และทำทุกวิถีทางเพื่อให้ความจริงปรากฏ นั่นคือเธอเป็นผู้บริสุทธิ์ ท่ามกลางสายตาคนฝ่ายเหนือที่มองเขาด้วยสายตาขุ่นเคือง และประหลาดใจว่าเหตุใดถึงยื่นมือช่วยเหลือศัตรู
อคติและความถูกต้อง ‘ไอเค่น’ เลือกมองมันคนละฝั่งและชั่งใจอยู่กับความยุติธรรม ทนายมือใหม่อย่างเขาอาจปล่อยละเลยคดีนี้ โดยไม่มีใครถือโทษโกรธเคืองเอาผิดแต่อย่างใด ทว่าเขาตัดสินใจเดินหน้าหาความจริงทั้งพยานหลักฐานมายืนยันความบริสุทธิ์ของ ‘เซอร์แรท’ ทั้งๆที่เขาและเธอ ถูกแยกให้เลือกข้างโดยผู้คนที่หน้ามืดตามัวด้วยความชิงชัง และอคติที่ครอบงำมากกว่ามองเห็นความจริง ‘เซอร์แรท’ และลูกสาวที่ตกอยู่ในวงล้อมคนฝ่ายเหนือ ที่จงเกลียดจงชังฝ่ายใต้อย่างไม่ลืมหูลืมตา มีเพียง ‘ไอเค่น’ อดีตนายทหารหนุ่มที่นอกจากไม่เพียงเบ่งตามองหากแต่ยังเปิดใจรับรู้ความรู้สึกของผู้ทุกข์ตรม และยื่นมือแห่งมนุษยธรรมออกไปท่ามกลางความขัดแย้งทั้งปวง แน่นอนว่า มันไขว่คว้าได้เพียงแต่ความว่างเปล่าเท่านั้น
เหตุการณ์เมื่อร้อยกว่าปีก่อนในอีกซีกโลก ช่างละม้ายคล้ายเคียงกับบ้านเราเหลือเกิน แต่ขออย่าให้ลงเอยด้วยศึกสงครามกลางเมือง ที่นำมาซึ่งความสูญเสียเหลือคณานับ เป็นรอยแผลร้ายที่จารึกบนประวัติศาสตร์อเมริกันที่คนในชาติไม่อาจลืม
ชื่อเรื่อง : The Conspirator
ผู้เขียนบท : เจมส์ ดี โซโลมอน
ผู้กำกับ : โรเบิร์ต เรดฟอร์ด
นักแสดง : เจมส์ แมคอะวอย, โรบิน ไรท์, ทอม วิลคินสัน, เควิน ไคลน์, อีแวน ราเชล วู้ด
วันที่เข้าฉาย : 23 มิถุนายน
โรงภาพยนตร์ : ลิโด้ สยามสแควร์
ณัฐพงษ์ โอฆะพนม