
เปิดปูม"ธีระพล" สามีคนแรก "พุ่มพวง" ฟังเสียงหัวใจลูกสาว "สุนีย์"
เปิดปูม"ธีระพล" สามีคนแรก "พุ่มพวง" ฟังเสียงหัวใจลูกสาว "สุนีย์"
ทีมข่าว "เนชั่นสุดสัปดาห์" นำโดย แคน สาริกา, นิติราษฎร์ บุญโย ร่วมกับผู้สื่อข่าวภูมิภาค มนูญ มุ่งชู ร่วมกันทำรายงานข่าวอย่างรอบด้าน ตั้งแต่การแกะรอยชีวิตของ ธีระพล แสนสุข สามีคนแรกของ พุ่มพวง ดวงจันทร์ จากบุคคลแวดล้อม รวมทั้งแม่ของพุ่มพวงเอง
เรียกว่าเต็มอิ่มกับความเป็นมาและเป็นไป ที่จะทำให้เราเข้าใจถึง "เสียงเล็กๆ" ของ สุนีย์ อยู่คเชนท์ ลูกสาววัย 40 ปี ที่พยายามเรียกร้องความเป็นธรรมให้พ่อ หลังจากที่ถูกสวมบทบาทโดย "ป๋อ" ณัฐวุฒิ สกิดใจในเรื่อง "พุ่มพวง" เวอร์ชั่น สหมงคลฟิล์ม ที่ค่อยๆ กลืนหายไปกับทะเลข่าวในขณะนี้
(ติดตามโดยละเอียดใน "เนชั่นสุดสัปดาห์" ฉบับที่ 1002)
'หนังพุ่มพวง' นำเสนอชีวิตรันทดของราชินีเพลงลูกทุ่ง จากเด็กบ้านนอกที่เขียนไม่ได้อ่านไม่ออก แต่ใจมุ่งมั่นจะสู้ตามฝันแบบล้มลุกคลุกคลานจนประสบความสำเร็จ
แต่สำหรับแง่มุมของ 'คนเบื้องหลัง' อย่าง ธีระพล แสนสุข หรือ ธีระพล อยู่คเชนท์ ที่เคยเป็นทั้งคู่ชีวิต และผู้ที่คอยผลักดัน เด็กสาวบ้านนอกจากไร่อ้อย ก้าวไปโลดแล่นบนเวทีแห่งเสียงเพลงจนโด่งดังนั้น กลับมิได้ถูกบอกเล่าผ่านแผ่นฟิล์มมากนัก
โดยให้รู้เพียงว่า เขาเป็นนักดนตรีเป่าแซกโซโฟน ได้พบ 'รำพึง จิตรหาญ' ที่วงดนตรี ไวพจน์ เพชรสุพรรณ และแล้วเรื่องราวฝ่าพายุมรสุมชีวิตและการล่าฝันของทั้งคู่ก็เริ่มขึ้น ณ จุดนั้น
แล้วปฏิบัติการแกะรอยไอ้หนุ่มแซกโซโฟน ก็เริ่มต้นขึ้น...
จากถนนลาดยางเลียบไปตามคลองขุด ที่แบ่งเขตระหว่าง อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี กับ อ.องครักษ์ จ.นครนายก จากปากคลอง 14 มุ่งไปทาง อ.วิหารแดง จ.สระบุรี ประมาณ 13-14 กิโลเมตร ก็ถึงวัดปทุมนายก ต.ศาลาครุ อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี
"หลวงตาน้อย" อายุ 60 ปีกว่า เป็นพี่ชายคนโตของธีระพล เล่าชีวิตของ 'ครอบครัวอยู่คเชนท์' ถึงความทุกข์ยากจากรุ่นพ่อ สู่รุ่นลูก สืบไปถึงรุ่นหลานว่ายังดิ้นรนขายแรงเลี้ยงชีพอยู่เหมือนเดิม ไม่เคยมีที่ดินที่นาทำกินเป็นของตัวเอง
โยมพ่อ ฟุ้ง อยู่คเชนท์ และโยมแม่ ปัด อยู่คเชนท์ ใช้แรงแลกข้าวให้ลูกได้กิน ปลูกบ้านเรือนหลังเล็กๆ ด้วยไม้ไผ่ แค่ลูกๆ ทุกคนนอนก็จะเต็มแล้ว พอโตขึ้นก็แยกย้ายกันไปทำงานตั้งแต่แตกเนื้อหนุ่มใหม่ๆ จึงไม่รู้ว่าธีระพลไปอยู่ไหนและทำอะไร
ไม่เพียงถ้อยสนทนากับ 'หลวงตาน้อย' ทีมงานยังได้คุยกับ สำเนียง อยู่คเชนท์ และประนอม เสมอใจ วัย 46 ปี และ 47 ปี น้องสาวของธีระพล ซึ่งมีบ้านอยู่ละแวกหลังโรงเรียนวัดปทุมนายก ทั้งสองเล่าว่า พี่ชายเป็นคนเงียบๆ ไม่ค่อยพูด หลังจากเรียนจบ ป.4 ไม่รู้เหมือนกันว่าไปเป็นนักดนตรีตอนไหน
หลังจาก 'ธีระพล' ถูกยิงตาย น้องสาวทั้งสองยืนยันว่า พี่ชายไม่มีทรัพย์สมบัติอะไรทิ้งไว้ให้ ขนาดจัดงานศพพี่ชายที่วัดหลักสี่ กรุงเทพฯ เป็นเวลา 2 คืน 'พ่อฟุ้ง' จึงย้ายศพมาอยู่ที่วัดปทุมนายก และจัดการงานฌาปนกิจที่บ้านเกิด โดยครอบครัวอยู่คเชนท์ต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในงานทั้งหมด
สำหรับคนในวงการ ก็มีเพียง 'ไวพจน์ เพชรสุพรรณ' เท่านั้น ที่ยกวงมาแสดงเป็นการไว้อาลัยครั้งสุดท้าย ซึ่งในเวลานั้น พุ่มพวง ดวงจันทร์ ยังมีชีวิตอยู่ แต่ได้แยกทางกับธีระพลแล้ว
ถามถึงเรื่องหนังพุ่มพวง สองพี่น้องก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ไม่เคยรู้ว่ามีการประกาศตามหาญาติ ส่วนหนังก็ยังไม่ได้ดู
"หนังพุ่มพวง ฉันอยากดูมาก เขาจะเอาพี่พลไปวิพากษ์วิจารณ์แบบไหน มีคนมาบอกว่า พุ่มพวงร้องเพลงเลี้ยงพี่พลจนตาย เราก็คิดในใจ ใครตายก่อนใคร ฉันอยากรู้ และฉันว่าไม่จริง" สำเนียง กล่าว
"วันที่พี่พลถูกยิงตาย เป็นวันที่พี่เขาบอกจะมาซื้อที่ดินให้พ่อแม่ และครอบครัวอยู่ แต่ไม่ทันมาซื้อให้อยู่ ก็ถูกยิงตายเสียก่อน"
แม่ปัดและน้องๆ ของธีระพล จึงอาศัยอยู่ในบ้านหลังที่ปลูกอยู่บนที่ดินของญาติ และสามปีสุดท้ายก่อนเสียชีวิต ตาของแม่ปิดสนิท
นี่เป็นอีกแง่มุมหนึ่งของ 'ครอบครัวอยู่คเชนท์' ที่สะท้อนตัวตน 'ธีระพล แสนสุข' ผู้อยู่เบื้องหลังราชินีลูกทุ่ง!