บันเทิง

เทศกาลกินเจของลูกจีนในไทยที่เดียวในโลกที่คึกคักอย่างนี้

เทศกาลกินเจของลูกจีนในไทยที่เดียวในโลกที่คึกคักอย่างนี้

26 ก.ย. 2554

เชื่อหรือไม่...เทศกาลกินเจของลูกจีนในไทย...มีที่เดียวในโลกที่คึกคักอย่างนี้:แขกรับเชิญ โดย... จิตรา ก่อนันทเกียรติ

          จากการเป็นนักเขียนเรื่องจีนมานานกว่า 20 ปี ก็ต้องเก็บข้อมูลกินเจกันทุกปี เก็บกันทุกประเด็นตั้งแต่ที่มาหรือกำเนิดเทศกาลกินเจ, พิธีกรรมที่ต่างศาลเจ้าและต่างท้องถิ่นก็ต้องพิธีกรรม รวมถึงอาหารเจที่ปัจจุบันพัฒนาจนมีเมนูใหม่ๆ จนยาวไปถึงการมีเมนูอาหารเจนานาชาติ แล้วก็พบเรื่องไม่น่าเชื่อว่า ที่เมืองไทยเป็นประเทศเดียวในโลกที่ไม่เพียงลูกจีนกินเจกันอย่างคึกคัก บรรดาคนไทยก็พากันกินตามอยู่ไม่น้อย ในขณะที่ประเทศที่จีนจ๋ากว่าไทยเยอะอย่างสิงคโปร์, มาเลเซีย ฯลฯ
 
          เมื่อถึงเทศกาลกินเจก็มีการกินกันในหมู่ลูกจีนบ้าง หากก็ไม่ได้แพร่กระจายเหมือนของไทยที่ถึงทุกย่านร้านตลาดและห้างดังๆ ทั้งปวง ตลอดจนทุกจังหวัดทั่วประเทศ กินเจกันอย่างคึกคัก ธงเจที่มีตราสินค้าทั้งซีอิ๊วและน้ำมันพืชทั้งหลาย ทั้งเสียบ...ทั้งแขวน สะพรึบสะพรั่บ แถมมีแนวรบใหม่เป็นเสื้อเอี๊ยมติดโลโก้ให้คนขายอาหารเจใส่กันถ้วนหน้า 
 
          แล้วลองนับเมนูอาหารเจดูสิ ปีนี้น่าจะเป็นปีที่มีการระดมความคิดในการทำเมนูเจใหม่ๆ มากมาย อย่างห้างเดอะมอลล์ทำเป็น 84 เมนูอาหารเจ เพื่อร่วมเฉลิมฉลองครบรอบ 84 พระชนมพรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งผู้เขียนเคยอ่านข้อมูลด้วยความทึ่ง ที่มีตัวเลขลูกค้าเข้าห้างเดอะมอลล์ในช่วงกินเจเป็นตัวเลขกว่าล้านคน จากการตระเวนเก็บข้อมูลมาทุกปีของผู้เขียน ก็พบเรื่องไม่น่าเชื่อหรือมุม unseen ที่น่าสนใจอยู่เรื่อยๆ เช่น-เมื่อเกือบ 20 ปีก่อน พบว่ามีเจ๊คนหนึ่งทำงานแค่ปีละครั้ง คือขายอาหารเจ 10 วัน แต่ขายแบบ 24 ชั่วโมง ทำกำไรกว่าล้านบาททุกปี แต่หลังสุดคือปีก่อน ไม่เห็นเจ๊มาเปิดร้าน ใจหายเหมือนกัน เพราะปีก่อนหน้าเห็นแล้วว่าเจ๊เริ่มหมดสภาพ สังขารร่วงโรยจากการตรากตรำที่ขายดีเกินไป เสียดายจัง-เมนูผักแปดเซียนใส่สาหร่ายเส้นผมของเจ๊...อร่อยถูกใจมาก-
 
          ในขณะที่ปีก่อนผู้เขียนไปนั่งกินราดหน้าเจฟรีที่ศาลเจ้าไต้ฮงกง ซึ่งหลายท่านอาจยังไม่ทราบว่า ตามศาลเจ้าที่จัดเทศกาลกินเจจะมีการจัดอาหารเจให้คนไปไหว้กินฟรี อย่างที่ศาลเจ้าไต้ฮงกง ทำอาหารเลี้ยงคนประมาณวันละ 1,000 คน อย่างราดหน้าทำทีละ 5 หม้อยักษ์ ลูกเดือยอีก 3 หม้อยักษ์ หม้อหนึ่งตักได้ 200 ชาม และที่นี่จะแบ่งนะจ๊ะว่า คนนุ่งชุดขาวเท่านั้นจึงจะให้กินเจที่ฝั่งศาลเจ้าได้ หากนุ่งชุดสีต้องไปนั่งอีกฟาก ในขณะที่ศาลเจ้าไต้ฮงกงนิยมเป็นอาหารจานเดียวอย่างราดหน้า, ผัดหมี่เจ, กระเพาะปลาเจ ที่ศาลเจ้าโจวซือกง-ตลาดน้อย กับศาลเจ้าชิกเซี้ยม่า มาเป็นแนวข้าวต้มกุ๊ยกับกับข้าว 4 อย่างเช่นเกี้ยมไฉ่, กาน่าไฉ่, ถั่ว, ผัดผัก 
 
          แต่ถ้าจะวัดสถิติคนมากินเจฟรีที่ศาลเจ้า ผู้เขียนขอยกให้การกินเจที่ทางใต้ ที่ได้ข้อมูลมาจากของศาลเจ้ากิ่วอ๋องเอี่ย-ตรัง จะเป็นการสถิติคนมากินตลอด 10 วัน ร่วมๆ หมื่นคน มีทั้งที่กินฟรีและจ่ายคนละ 400 บาท เป็นการเอาปิ่นโตมาตักกลับบ้านไปกินกัน 3 มื้อทุกวัน กินเจฟรีที่ภูเก็ตยิ่งสนุก เพราะผู้เขียนไปมาเมื่อปีก่อน กับข้าวอร่อยมาก...ขอบอก อย่างผัดเผือกนี้ เคยกินแต่เผือกแบบเป็นขนม คนภูเก็ตเอามาผัดเป็นกับข้าวได้อร่อยจัง ห่อหมกเห็ดแครงก็อร่อย โรงครัวก็ใหญ่โต ตุนสารพัดผัก,ฟักทอง, ฟักเขียว, เผือก และอื่นๆ มีชาวบ้านเอาปิ่นโตมาเอาอาหารเจไปกิน 3 มื้อที่บ้านตลอดวัน ที่นี่เป็นระบบแล้วแต่บริจาค แถมมีนายกอบจ.อย่างคุณไพบูลย์ อุปติศฤงค์ ชอบมาเดินสายตักอาหารแจกแบบตระเวนไปช่วยตักทุกศาลเจ้า เหมือนคนภูเก็ตอื่นๆ ที่ทุกเทศกาลกินเจจะมาช่วยกันที่ศาลเจ้าในหน้าที่ต่างๆ และทำกันมาอย่างนี้นานนับร้อยปี แปลว่าสืบทอดธรรมเนียมการมาช่วยงานที่ศาลเจ้าจากรุ่นสู่รุ่น มากันตั้งแต่ยังเด็กจนทำงานก้าวหน้าแค่ไหน ไม่ว่าจะรวยถึงไหน ก็ยังมาช่วยกันคนละไม้ละมือ เพราะถือเป็นการทำบุญใหญ่ 
 
          เรื่องเคร่งๆ ของเทศกาลกินเจก็สนุกนะเพราะทุกศาลเจ้าล้วนเคร่งเรื่องคนนุ่งขาวเท่านั้นที่จะเข้าไปในศาลเจ้าได้ และหลายศาลเจ้าเคร่งถึงขนาดว่า เฉพาะผู้ชายชุดขาวเท่านั้นที่เข้าไปปักธูปได้ เอาที่เคร่งขึ้นไปอีกไหม บางศาลเจ้าเจาะจงให้เจ้าหน้าที่ชุดขาวเท่านั้นที่ปักธูปได้ คนมาไหว้ต้องฝากเจ้าหน้าที่เหล่านี้เอาธูปไปปักให้ แต่ที่อัศจรรย์ที่สุดต้องเป็นที่ภูเก็ต ผู้เขียนไปดูมากับตาว่า ที่ภูเก็ตจะมีกั้นม่านมังกรสีเหลืองบังหน้าห้องที่ตั้งองค์เทพเจ้ากินเจคือ เจ้าแม่ปักเต้าบ้อ กับกิ่วอ๋องไต่ตี่ หรือเทพเจ้า 9 องค์ เฉพาะเจ้าหน้าที่ชุดขาวที่ได้ถูกเลือกให้ทำหน้าที่เท่านั้น ที่จะนำธูปจากผู้มาไหว้เข้าไปปักที่กระถางบูชา และเจ้าหน้าที่เหล่านี้ที่เรียกว่า “เถ้าแก่หล่อจู้” เท่านั้นเข้าไปทำความสะอาดในห้องได้ คนภูเก็ตทั้งหลายทั้งปวงจึงไม่เคยเห็นว่า ในห้องที่ตั้งองค์เทพเจ้าทั้งเก้าองค์และเจ้าแม่ปักเต้า หน้าตาเป็นอย่างไร เมื่อผู้เขียนบอกว่ามีลงภาพองค์เทพของศาลเจ้าในกรุงเทพฯ และที่ตรังให้ดู อยู่ในหนังสือ “คู่มือกินเจยุคใหม่ กินเจอย่างไรให้ได้สุดยอดประโยชน์”
 
          หนังสือเล่มนี้จะไขปริศนาคาใจ ที่มา, ตำนาน, ความต่างของการกินเจระหว่างภาคกลางและทางใต้ หลายเรื่องเป็นคนละเรื่องเดียวกันจริงๆ แถมด้วยไดเร็กทอรี่อาหารเจ และสถานที่กินเจสุดอร่อย ที่จะพยายามทยอยไปเก็บข้อมูลของจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศไปเรื่อยๆ เพราะแรงใจตรงนี้คือการอยากเห็นนักท่องเที่ยวทั่วโลกเข้ามาเที่ยวไทยในช่วงนี้ มาเที่ยวด้วยกินเจด้วย แล้วได้สุขภาพที่ดีขึ้นแถมกลับไปด้วย เช่นลดคอเลสเตอรอลได้ เหมือนที่ผู้เขียนทำได้ 
 
          สุดท้ายขอเล่าถึงความน่ารักของแฟนคลับที่ขายอาหารเจทอดที่ตลาดน้อยว่า เป็นร้านเก่าแก่ขายมา 50 ปี โทรมาขอสมัครเพื่อจะไปไหว้เจ้าฮ่องกง ทริปใหม่ที่จะไปคือ 20-23 ตุลาคม และ 9-11 พฤศจิกายน คุณเขาบอกว่าขายเฉพาะช่วงกินเจซึ่งขายดีจริงๆ แต่ไม่ชวนผู้เขียนไปชิมเพราะคนทำงานใช้เสียงไม่ควรกินของทอดเยอะสมกับเป็นลูกจีน คืออะไรดีหรือไม่ดี เราก็มีน้ำใจบอกกัน