มองผ่านเลนส์คม - ปรัมปรา
ปรัมปรา เป็นคำในภาษาบาลี-สันสกฤต อ่านว่า ปะรำปะรา แปลว่า สืบๆ กันมา เก่าก่อน
เคยชมการแสดงทางวัฒนธรรมในประเทศอินเดีย ที่มีนักแสดงเต้นระบำรำฟ้อนเป็นเรื่องราวจากวรรณกรรมอมตะ “รามายณะ” หรือ “รามเกียรติ์” ในพากย์ไทย
ผู้บรรยายการแสดงชาวอินเดีย พูดภาษาฮินดีก่อนแปลเป็นภาษาอังกฤษ คนไทยที่ไม่เคยศึกษาภาษาฮินดีฟังไม่รู้เรื่อง รู้แต่ได้ยินคำว่า “ปะรำปะรา” ไม่น้อยกว่าห้าครั้ง
“ปะรำปะรา” ในภาษาฮินดี มีความหมายเดียวกับ “ปะรำปะรา” ของไทย
คุยเรื่อง “ปะรำปะรา” หรือ “ปรัมปรา” ในวันนี้ เพราะนึกถึงนิทานปรัมปราแต่โบราณที่ว่ามีผู้สร้างขึ้นเพื่อเชื่อมโยงผู้คนเผ่าไท-ลาว-ย้อ-ญวน-ข่า-เขมร-ส่วย-โส้ และอีกมากมายหลายชาติพันธุ์ที่ลงหลักปักฐานอยู่ในเอเชียและอุษาคเนย์เข้าด้วยกัน
บางเวลาชนชาติพันธุ์ต่างๆ กันนั้นเป็นมิตรกัน จับคู่แต่งงานกันกลายเป็นเครือญาติกัน แต่บางเวลาชนชาติพันธุ์เหล่านั้นก็สู้รบกัน แย่งชิงแหล่งน้ำและที่ดินจากกันและกัน
แทบทุกชนชาติพันธุ์มีนิทานร่วมชนชาติพันธุ์ ที่ว่าด้วยการเกิดของมนุษย์หลากเผ่าพันธุ์จากน้ำเต้าลูกเดียวกัน เช่นนิทานเรื่อง “น้ำปุ้งเต้า” หรือ “น้ำเต้าปุง” ของกลุ่มชนชาติพันธุ์ในลุ่มน้ำโขง
นอกจากนั้น แต่ละชนชาติพันธุ์ก็ยังมีนิทานว่าด้วยวีรบุรุษของชาติพันธุ์ตนซึ่งรวบรวมแต่ละชนเผ่าเข้าด้วยกันเป็นปึกแผ่น
นิทานปรัมปราช่วยให้คนจำนวนมากรู้สึกว่าเราทั้งผองคือพี่น้องกัน ดังนั้นไม่จำเป็นต้องฆ่ากัน แต่นิทานเรื่องเดิมเมื่อฟังนานๆ ก็อาจไร้มนต์ขลัง ผู้คนซึ่งเคยคิดว่าเราเป็นพี่น้องกัน จึงได้เวลาสู้รบตัดพี่ตัดน้องกัน (อีกครั้ง) เป็นธรรมดาโลก
เวลานี้ยังไม่มีนิทานปรัมปราว่าด้วยไทหลายสียุคใหม่ แม้ประเทศไทยปัจจุบันจะมีไทหลายสีเหลือเกิน รวมทั้งสีกระดำกระด่างเพราะความเวียนหัวมั่วไปหมด
ส่วนนิทานปรัมปราว่าด้วยพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยและพรรคสังคมนิยม ซึ่งว่ากันว่าคืนชีพมาสนับสนุนไทแดงนั้น หากเป็นจริงก็หวังว่าทั้งสองพรรคคงไม่ลงไปเล่นใต้ดินให้สังคมยิ่งหดหู่ ประชาชนยุคใหม่ต้องการประชาธิปไตยโปร่งใสบนดินมากกว่าสู้รบใต้ดิน
บ้านเมืองวันนี้คล้ายเป็นกาลียุคในนิทานปรัมปรา จะพ้นจากกาลียุคไปสู่แสงสว่างใหม่ให้ทารุณน้อยที่สุด เราแต่ละคนคงต้องช่วยกันลดความโกรธเกลียดกัน แล้วมองกันและกันอย่างพยายามเข้าใจกันมากขึ้น ทั้งแดงมองเหลือง และ เหลืองมองแดง โดยเฉพาะที่เป็นประชาชนด้วยกัน
อย่าเพิ่งเบื่อนิทานปรัมปราโบราณ ที่ย้ำเตือนว่าเราทั้งผองล้วนเป็นพี่น้องร่วมน้ำเต้าเดียว
"นิธินันท์ ยอแสงรัตน์"