ปัญญา-เรณู 2
ปัญญา-เรณู 2:หนังจอกว้าง โดย... ณัฐพงษ์ โอฆะพนม
ผมไม่ได้ดูปัญญา-เรณูภาคแรก เลยไม่มีโอกาสได้ซึมซับประสบการณ์ความประทับใจในครั้งนั้น จนกลายเป็นที่มาของปัญญา-เรณู 2 ในวันนี้ แต่ถึงไม่ได้ดูปัญญา-เรณู 1 แต่ผมก็สนุกกับปัญญา-เรณู 2 เข้าขั้นเป็นหนังที่ ‘ชอบ’ อีกเรื่องหนึ่งด้วยซ้ำ
ครึ่งชั่วโมงแรก หนังไม่ได้มีอะไรมากไปกว่าเด็กสาวแก่แดดอย่างเรณู เทียวไล้เทียวขื่อเด็กน้อยปัญญา ที่เล่นซนตามประสาเด็กมากกว่าจะใส่ใจว่าใครจีบใคร รักใคร ชอบใคร เช่นเด็กในวัยที่กำลังโตแตกเนื้อหนุ่ม เนื้อสาว (ซึ่งในทางกายภาพแล้ว เด็กหญิงโตเป็นสาวเร็วกว่าเด็กผู้ชายนะครับ ไม่แปลกที่เรณู จะเป็นฝ่ายตามจีบปัญญาก่อน) แม้ใครจะว่าหนังไร้สาระ แต่ผมคิดว่าคุณบิณฑ์ บันลือฤทธิ์ สะท้อนภาพความเป็นจริงในชีวิตสอดรับกับบรรยากาศท้องทุ่งที่จำลองผ่านหนังเรื่องนี้อย่างมีชีวิตชีวา หนังขายยาเอย, บรรยากาศตลาดขายควายเอย, จูงควายไปกินหญ้า อาบน้ำอาบท่าให้มันบ้าง ฉากถมขี้เถ้าเผ่าถ่าน ล้วนเป็นวิถีบ้านนาแบบไทยแท้ที่หาดูไม่ได้ เพราะไม่ว่าที่ไหนๆ บนผืนแผ่นดินไทยในทุกวันนี้ สังคมชายขอบได้เปลี่ยนไปแล้วอย่างสิ้นเชิง (ขออนุญาตไม่ใช่คำว่า ‘ชนบท’ นะครับ เพราะความเจริญแพร่ไปอย่างทั่วถึงและรวดเร็ว ไม่ว่าคนกรุง หรือคนต่างจังหวัด ล้วนสัมผัสได้ถึงเทคโนโลยี นวัตกรรม และมหรสพร่วมสมัย ไม่ต่างกัน (เด็กวัยรุ่นที่บึงกาฬมีไอแพดใช้ เช่นเดียวกับวัยรุ่นที่อำเภออมก๋อยรู้จักแอพพลิเคชั่น Simsimi บนไอโฟน ไม่ต่างจากก๊วนเด็กแว้นที่อำเภอตันหยง นัดกันไปดูหนัง ATM เออรักเออเร่อเป็นกลุ่มใหญ่)
คุณท็อป พยายามย้อนภาพความทรงจำอันงดงามกลับมาหายังคนดูผ่านเรื่องราวของเด็กๆ ในหมู่บ้านโคกสะอาด
อำเภอวารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ที่สำคัญเสน่ห์อันรุนแรงของหนังเรื่องนี้สำหรับผมก็คือ ภาษาอีสาน ที่นักแสดงเกือบทุกคนเว้าออกมาได้อย่างไม่ผิดเพี้ยน ดูจริงใจ ใสซื่อ และเป็นกันเอง เฉกเช่นเดียวกับหมู่มิตรในชีวิตจริงของใครหลายคน
หลากหลายผองเพื่อนทั้งบักจอบ, พี่อาภัสรา, พี่กิ๋ง (แม้หนังจะขึ้นซับไตเติ้ลว่า ‘กึ๋ง’ แต่ตัวละครทั้งหมดในหนังต่างก็เรียกชื่อพี่กิ๋ง เป็นพี่ ‘กิ่ง’ ตลอดทั้งเรื่อง) ล้วนเป็นสีสัน ที่ไม่ได้เข้ามาขโมยแค่ความโดดเด่นของตัวละครหลักอย่าง ‘ปัญญา’ หรือ ‘เรณู’ หากแต่เป็นตัวละครที่เข้ามาเติมสีสันสร้างชีวิตชีวาให้แก่หนังขึ้นมาอีกระดับหนึ่ง
แม้หลายๆ ฉากใน “ปัญญา-เรณู 2” จะเต็มไปด้วยความเฉิ่มเชยตามขนบหนังไทยยุคเก่า ทั้งฉากร้องเพลงเกี่ยวข้าวบนท้องนาที่เซตอัพขึ้นมาอย่างตั้งอกตั้งใจ, ฉากปรากฏตัวของปัญญาในหอประชุมเพื่อจงใจเรียกน้ำตาจากคนดู การจัดวาง ขับเน้น ในหลายฉากหลายตอนที่ดูประดักประเดิด แต่ทั้งหมดดูจะให้อภัยได้กับการแสดงของเหล่าขบวนเด็กๆ ที่ตีบทแตกกระจุยกระจาย (ซึ่งเอาเข้าจริง พวกเขาอาจไม่ได้กำลังแสดงหากแต่เป็นธรรมชาติของตัวตนจริงๆ ที่ไม่จำเป็นต้องเสแสร้งแกล้งทำ และแน่นอนละว่า มันเป็นเสน่ห์ที่ไม่เหมือนใคร และยากจะหาใครเหมือนได้เต็มที)
ถ้ามองข้ามพล็อตเรื่องโบราณคร่ำครึ หรือวิธีการเล่าเรื่องเชยๆ แล้วเพ่งพินิจลงไปในความใสซื่อที่ฉายฉานผ่านการแสดงของเด็กๆ ในเรื่อง ตลอดจนสถานการณ์ยิบย่อยที่แฝงเร้นมาในหนัง เราจะเห็นความจริงใจที่คนทำหนังคนหนึ่งพยายามรังสรรค์ให้เกิดขึ้นกับหนังของเขาเท่าที่จะทำได้ การหวนคืน กลับสู่วันอันแสนสุขในวัยเยาว์ท่ามกลางสังคมบริโภคนิยม ที่ถาโถมสาดซัดใส่หนุ่มสาวให้หลงใหลได้ปลื้มอย่างไม่ลืมหูลืมตา น่าจะเป็นสาระสำคัญอีกประการที่บิณฑ์ บันลือฤทธิ์ บรรจงถ่ายทอดเอาไว้ในหนังของเขา
ความไร้เดียงสาของเด็กๆ ในเรื่อง มิตรภาพอันแน่นแฟ้นไร้ซึ่งความเคลือบแคลง สังคมไทยในอุดมคติแบบเก่าที่มีพระสงฆ์เป็นศูนย์กลางชุมชน ทั้งหมดนี้ปรากฏในหนังไทยมาตลอดหลายสิบปี แต่การเข้าถึง หรืออาจจะเข้าไปอยู่ในใจคนดูนั้น แตกต่างกันตามเหตุและผลรวมถึงปัจจัยแวดล้อมที่แตกต่างกัน แต่สำหรับหนังที่เข้าฉายในห้วงเวลาห่างกันไม่กี่เดือน ตัวละคร ชุดเดียวกัน สถานที่เดียวกัน เงื่อนไขในการดำเนินเรื่องราวไม่ผิดแผกแตกต่างกันสักเท่าไหร่ เหตุไฉน ‘ชีวิต’ ที่คนทำปลูกถ่ายมันลงไปในหนังถึงได้งอกงาม เติบโตในใจคนที่ได้ดู แม้จะไม่ผลิบานล้นอกถึงกับกระอัก แต่มันกำลังแตกหน่อชูช่อแห่งความงามในหัวใจทีละเล็กละน้อย เป็นหนังไร้สารพิษ ปราศจากจริตคร่ำครวญที่ได้อิทธิพลจากหนังฮอลลีวู้ดมาเต็มปรี่หลายปีดีดัก ตัวหนังแม้อาจจะไม่ดีมาก แต่ขอคาราวะในความตั้งอกตั้งใจของบุคคลากรทุกท่านที่เกี่ยวข้องกับหนังปัญญา-เรณู ทั้งสองภาค อย่างน้อยทำให้เราได้รู้ว่าวงการหนังไทย ยังมีคนรักหนัง ที่พร้อมทำทุกอย่างเพื่อหนังที่เขารัก ที่สำคัญเป็นหนังที่ซื่อตรงต่อความรู้สึก บอกเล่าด้วยน้ำเสียงจริงใจ แม้จะไม่สมบูรณ์กระพร่องกระแพร่งแค่ไหนก็ตาม
ชื่อเรื่อง : ปัญญา-เรณู 2
ผู้เขียนบท-กำกับ : บิณฑ์ บันลือฤทธิ์
นักแสดง : ด.ช.โชติทิวัตถ์ ผลรัศมี, ด.ญ.สุธิดา หงษา, หม่ำ จ๊กมก, ตุ๊กกี้ ชิงร้อย, ด.ช.บุญฤทธิ์ จันทร์แก้ว, หยอง ลูกหยี, สายสิน วงษ์คำเหลา
เรตติ้ง : ท.ภาพยนตร์ที่เหมาะสมกับผู้ชมทั่วไป
วันที่เข้าฉาย : 26 มกราคม 2555
...................
(หมายเหตุ ปัญญา-เรณู 2:หนังจอกว้าง โดย... ณัฐพงษ์ โอฆะพนม)