ขอ3คำ
ขอ3คำ:เกรียนติดจอ โดย... โศภิน เงินสวัสดิ์
เรื่องเล่าคราวนี้ มีจุดเริ่มต้นจากเซเลบ รุ่นใหม่ ที่ออฟฟิศชื่อ น้องตี๋ ส่งงานมาให้ตรวจ และบอกเสร็จสรรพ ขอ 3 คำนะพี่
ก็เลยส่งกลับไป 3 คำ “แก้ มา ใหม่”
พอมีเวลา จึงกลับมานั่งคิด ว่า “ขอ 3 คำ”นี่เป็นยังไง ว่าแล้ว ก็ไปถาม อา กู๋ (เกิล) ขึ้นมาพรึ่บเลย มีตั้งแต่ ขอ 3 คำให้ เจ้าสาว ขอให้ คณะที่เรียนอยู่ ขอให้ละครต้มยำลำซิ่ง ขอให้ชมพู่ อารยา ขอให้อากาศร้อน หรือขอให้ดอกกุหลาบวาเลนไทน์
แล้วยังมี รายการขอ 3 คำ ทางเน็ต TV เฟซบุ๊ก ขอ 3คำ เวบบอร์ดขอ 3 คำ และก็คงจะ ฮิต ฮอตจริง จริง เพราะ คอนเสริต์ ก็ยังสามคำ ไม่ว่าจะ มัน ใหญ่ มาก หรือ มัน ไก่ มาก
ทีนี้เราก็มาหากันดีกว่า ว่าทำไมต้อง 3 จะ 4 5 6 ไม่ได้หรือ ….
เรื่องนี้มันมีที่มา ตั้งแต่สมัยอริสโตเติล แต่เพิ่งจะ Pop เป็นพลุแตก ก็คราวที่ สตีฟ จ็อบส์ ใช้เป็นกลยุทธ์ ขาย สินค้าใหม่ของตระกูลแอปเปิ้ลทั้งหลาย เพราะว่ากันว่าส่วนหนึ่งที่ น้อง “ไอ” ทั้งหลาย ฮิตติดยอดนั้น มาจากวิธีนำเสนอของ จ็อบส์ ในวันแนะนำสินค้า และมาจากโฆษณา ซึ่งมีแก่นอยู่เพียง 3 ใจความสำคัญ อย่าง คุณสมบัติของ Ipad 2 ใช้ thin, Light, Fast และหลักการนี้ ก็ยังถูกใช้แนะนำ Ipad ตัวล่าสุด คือ Stunning Display, 5 MP camera and Ultrafast
ย้อนกลับมาที่อริสโตเติล ซึ่งเป็นผู้ค้นพบกฎ “Rule of 3” ที่ทดลองจนได้ผลว่า สมองคนเราจะ จดจำ ของสามสิ่ง หรือ 3 อันดับได้ดีที่สุด โดยกฎนี้ถูก นักการเมือง และผู้นำทหารระดับโลกได้นำไปใช้ ตัวอย่างที่พิสูจน์ผลทดลองของกฎนี้ คือ ประโยคเด็ดที่ถูกจารึกในประวัติของ วินสตัน เชอร์ชิลล ก็ถูกจดจำได้เพียงแค่ 3 คำคือ I can promise you nothing but blood sweat and tears ทั้งที่ความจริงยังมีอีก 1 คำ คือ Toil (การต่อสู้)
และแม้ในยุคหลังๆ จะมีการค้นพบใหม่ว่า คนเราสามารถจำเลขได้ถึง 7 ตัว (นี่คือ ที่มาของ ชุดตัวเลข โทรศัพท์) แต่ถ้าเราทบทวนลึกลงไปจะเห็นว่า ในชุดเลข 7 ตัว เวลาเราเรียงคำ เพื่อจดจำ เราก็ยังแบ่งการจำของเราออกเป็นชุดละ 3 เช่น 08-1234-5678
ถ้าวันนี้ ขอ 3 คำ ให้ประเทศไทย ขอเสนอ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ใครเห็นด้วย ยกมือขึ้น !!
.............................
(หมายเหตุ ขอ3คำ:เกรียนติดจอ โดย... โศภิน เงินสวัสดิ์ )