บันเทิง

ไขความลับกับหล่อขั้นเทพ'โดม'ปกรณ์

ไขความลับกับหล่อขั้นเทพ'โดม'ปกรณ์

28 เม.ย. 2555

ไขความลับกับหล่อขั้นเทพ'โดม'ปกรณ์ : สกู๊ปบันเทิงวันเสาร์ เรื่อง... ดวงใจ สอาดจิตต์ / การะเกด อัศวเสนา

          หลายคนคงรู้จักศิลปิน นักแสดง ผู้ที่มีนิยามว่า "หล่อขั้นเทพ" อย่าง "โดม" ปกรณ์ ลัม ดี ผู้ที่คร่ำหวอดในวงการบันเทิงมากว่า 15 ปี วันนี้หนังสือพิมพ์คม ชัด ลึก และรายการซุปตาร์ในดวงใจ ช่องแมงโก้ ทีวี มีโอกาสไขความลับอย่างกระจ่างกับบทสัมภาษณ์ของศิลปินขั้นเทพ ดังนี้
 

งานค่ายเพลง
00เปิดค่ายเพลง "ไอคอนนิคสตูดิโอ" เป็นอย่างไรบ้าง

          ตอนแรกมองแค่เป็นสตูดิโอที่ให้ทุกคนมาใช้บริการอัดเสียง หลายคนถามว่าทำไมไม่ทำเพลงเองเลย เพราะมีสตูดิโออยู่แล้ว แค่เติมเรื่องทีมโปรโมท ฝ่ายครีเอทีฟเข้าไปน่าจะทำได้ ตอนนั้นเลยเริ่มทำของตัวเองดูก่อน พอทำไปรู้สึกว่ามันไปได้ จากนั้นเลยมีวงดนตรีทยอยกันออกมา ในชื่อของวงดนตรีที่มีชื่อว่า "New old stock" โดยค่ายเพลงของผมไม่จำเป็นว่าต้องสวยต้องหล่อ หรือโด่งดังมาจากไหน แต่สิ่งที่สำคัญ คือ คุณต้องมีของมีความตั้งใจ มีความจริงใจในการนำเสนองานเพราะเป็นเรื่องที่ง่ายมากที่ผู้บริโภคจะจับได้ว่าคุณไม่มีความจริงใจในการนำเสนองานผมมองว่าถ้าทุกคนตั้งใจรักอาชีพตรงนี้ ก็มีสิทธิ์ที่จะร่วมงานกันได้
 

00ทำไมถึงอยากทำวงดนตรีขึ้นมา
          จากที่มีสตูดิโอและเคยเรียนซาวนด์เอ็นจิเนียร์มา เป็นความชอบมาตั้งแต่เด็ก ตั้งแต่สมัยเด็กๆ ผมว่ามีเด็กที่มีความสามารถมากกว่าผมเยอะ แต่พวกเขาไม่มีโอกาส ผมโชคดีได้รับโอกาสจนวันหนึ่งเรามีกำลังพอที่จะให้คนอื่นได้ ผมอยากให้โอกาสกับคนที่สมควรได้รับโอกาส ซึ่งผมมีโอกาสได้เจอกับวง New old stock ที่เชียงใหม่ เป็นวงดนตรีที่มีฝีมือเล่นมา 10 กว่าปี พอผมได้เจอกับเขาแล้วมีความรู้สึกว่า วงที่มีฝีมือขนาดนี้น่าจะได้รับการสนับสนุน ผมคุยกับเขาว่าผมไม่เคยทำวงดนตรีให้ใครมาก่อน มีบริษัทเล็กๆ แต่ผมสนใจวงพวกคุณมาก อยากลองดูไหม  นอกจากนี้ยังมี "มาร์โค" เมาเร่อ พี่ชายของ "มาริโอ้" เมาเร่อ มาร่วมงานด้วย ปกติมาร์โคเป็นคนร้องเพลงฮิพฮอพอยู่แล้ว ซึ่งเขาได้ไปจับมือกับโปรดิวเซอร์คนหนึ่งที่ทำแนวเพลงพวกอิเล็กทรอนิกส์และมีเพลงออกมาซึ่งเจ๋งมาก เป็นเพลงภาษาอังกฤษทั้งชุดเลย ซึ่งตอนที่ออกมาเขามองตลาดว่าเป็นตลาดเอเชีย ญี่ปุ่น จีน เกาหลี ผมไปบอกเขาว่าจริงๆ ตลาดไทยมันก็ได้ เลยได้ตกลงคุยกัน จึงจะมีการผลักดันให้ออกกันต่อไป ซึ่งตอนนี้เราเปิดเป็นเมลขึ้นมาให้ทุกคนได้มีโอกาสเสนอผลงานของตัวเองเข้ามา ซึ่งใครที่สนใจอยากร่วมงานทางไอคอนนิกมีโปรดิวเซอร์รออยู่ทุกแนวเพลง ลองส่งผลงานเข้ามาได้ที่ [email protected] ผมรอผลงานของทุกคนอยู่
 

ชีวิตวงการบันเทิง 15 ปี
00เดินทางมาถึงปีที่ 15 กับวงการบันเทิงจะมีอะไรพิเศษให้แฟนเพลงไหม

          จะมีอัลบั้มพิเศษฉลอง 15 ปี เป็นงานเพลงเดี่ยว จะออกอัลบั้มเต็มเดือนมิถุนายนนี้ ผมคิดว่าเป็นชุดเกียรติประวัติ ทำอย่างสุดชีวิตตั้งใจทำมากที่สุด โดยจะมีลิมิเต็ด เอดีชั่นด้วย โดยทำเป็นแพ็กเกจทั้งซีดีและโฟโต้บุ๊ก ซึ่งในชีวิตไม่เคยทำโฟโต้บุ๊กมาก่อน เป็นครั้งแรกได้ร่วมกับทางสำนักพิมพ์อัมรินทร์ ซึ่งข้างในเป็นประวัติย่อๆ ของผม ทัศนคติ วิธีคิด มุมมอง ผลการทำงานที่ผ่านมา
 

00ก่อนหน้านี้มีคอนเสิร์ตแร็พเตอร์ออกมา โดมมีโปรเจกท์จะทำคอนเสิร์ตกับทางอาร์เอสบ้างไหม
          จริงๆ เฮียฮ้อ (สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์)น่ารักมาก เรียกผมเข้าไปคุยว่าจะจัดคอนเสิร์ต ได้มีการคุยตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่ติดน้ำท่วมเลยพักไว้ก่อน ปีนี้คงจะลองไปคุยอีกที ว่าถ้าเป็นคอนเสิร์ตปลายปีนี้จะเป็นไปได้ไหม และหากได้จัดกับทางอาร์เอสจริง คงเป็นรูปแบบย้อนยุค แต่ถ้าเกิดไม่ได้จัดกับทางอาร์เอส คงเป็นรูปแบบปกติเป็นแบบยุคสมัยใหม่ตามแบบฉบับของผมไป แต่ยังไงปีนี้ต้องมีคอนเสิร์ตใหญ่ครบ 15 ปีแน่ๆ อยู่แล้ว แต่กับทางไหนต้องรอดูกันอีกที ว่าจะได้เห็นผมในรูปแบบไหน
 

00มีงานอะไรที่อยากทำแล้วยังไม่ได้ทำบ้างในวงการบันเทิง
          ทำมาเกือบครบแล้ว คงมีภาพยนตร์นี่แหละที่ยังไม่ได้ทำ มีค่ายหนังติดต่อมาเรื่อยๆ แต่ว่าการจะเล่นหนังต้องลงแรงลงเวลา เราต้องชอบจริงๆ ด้วย ที่ผ่านมาที่เขาติดต่อเข้ามา ยังไม่มีอะไรที่เรามีความรู้สึกว่าอยากจะออกไปถ่าย แต่ตอนนี้มีบทส่งมาเรื่องหนึ่ง ผมรู้สึกชอบและเป็นผู้กำกับที่ชอบด้วย เลยมีการคุยกัน แต่ยังบอกไม่ได้ว่าเป็นเรื่องอะไร ไว้รอรายละเอียดก่อน แต่เดี๋ยวคงได้ทราบกัน เป็นแนวดราม่าคอมเมดี้ ยังไงรอติดตามกันต่อไป แต่ตอนนี้คงเน้นเรื่องงานเพลงที่จะผลักดันคนอื่นไปให้ถึงฝั่ง ถ้าเขาไปถึงฝั่งได้ถือว่าเราประสบความสำเร็จและคงจะเป็นความสุข มุ่งไปทางค่ายเป็นหลัก เพราะอยากให้งานมันออกมาดี เราตั้งใจตรงนี้มาก ซึ่งกระแสตอบรับตอนนี้ถือว่าดี
 

บทบาทการเป็นนักแสดง
00ได้มาลองงานแสดงเป็นอย่างไรบ้าง
          เรื่อง "ตะวันทอแสง" เป็นเรื่องที่ 2 รู้สึกว่าแสดงดีขึ้นเยอะ เพราะมีโอกาสไปเล่นละครเวที "ทวิภพ" มาก ละครเวทีเขาเคี่ยวเข็ญมาก ทำให้เราได้พัฒนาเรื่องการแสดงเพราะเราต้องเล่นทุกวัน ทุกอย่างสด เพราะฉะนั้นเรื่องความแม่นยำ การแสดงอารมณ์มันต้องเป๊ะ ต้องขอบคุณพี่บอย (ถกลเกียรติ วีรวรรณ) ขอบคุณหม่อมน้อย (หม่อมหลวงพันธุ์เทวนพ เทวกุล) และทุกๆ คนที่ทำให้เรามีประสบการณ์ที่ดี สามารถนำประสบการณ์ตอนนั้นมาใช้กับละครเยอะมาก พอมาเห็นการแสดงในเรื่อง "รักไม่มีวันตาย" แล้วก็อยากจะย้อนไปแก้ไขมาก (หัวเราะ) รู้สึกเล่นแข็งมาก ก็คงต้องรอต่อไปว่ารักไม่มีวันตายอาจจะมีภาค 2 ก็ได้ (ยิ้ม)
 

00ร่วมงานกับใหม่ (ดาวิกา โฮร์เน่) เป็นอย่างไร เพราะรู้มาว่าเขาปลื้มโดม
          แรกๆ เขาเกร็ง แต่เราก็ทำทุกอย่างให้มันดูง่ายๆ สนุกสนาน หลังๆ เริ่มสนิทมากขึ้นก็ไม่มีอะไร ใหม่น่ารัก เป็นนักแสดงที่วินัย เงียบมากพูดน้อย เรียบร้อย ต้องพยายามชวนคุยว่าเขาหลับหรือยัง กับเรื่องนี้ ต้องมีการปะทะอารมณ์และคารมสุดเหวี่ยงมาก เราเป็นเจ้าของกิจการเป็นเจ้าบ้านใหญ่ที่สุดในบ้าน ใครจะมาต่อปากต่อคำไม่ได้ แต่พอใหม่เข้ามาจึงมีการต่อปากต่อคำขึ้น มีการทะเลาะกัน สนุกดี ผมว่าคนดูน่าจะชอบ ดูได้ง่ายหลากหลาย เป็นชีวิตมนุษย์ที่ดราม่ามากเป็นการท้าทายความสามารถเรา
 

เรื่องราวของหัวใจ
00ความรักเป็นอย่างไรบ้าง
          กับกัสจัง (จิรันธนิน พิทักษ์พรตระกูล) แฮปปี้มีความสุขดีกับกระแสข่าวที่ผ่านมา เราไม่ได้ทำให้มันมามีผลกระทบกับเรา คือเราได้มารู้จักกันได้มาคบหาดูใจกันก็เป็นเรื่องที่ดี จึงไม่ไปคิดถึงข่าวอะไรที่ไม่เกี่ยวกับเรา ซึ่งเขาเป็นคนเข้าใจอะไรที่ง่าย บางทีเราทำงานหนัก คนอื่นจะไม่เข้าใจ แต่เขาเข้าใจดี
 

00ความรักมีผลกระทบกับแฟนคลับไหม
          ไม่มีอะไรเลย ผมเคารพความคิดของแฟนคลับทุกๆ คนมาก ผมรักแฟนคลับมาก ถ้าไม่มีพวกเขาก็คงไม่มีเรา ณ วันนี้ แต่ว่ามีบางคนเท่านั้นเอง ที่รู้สึกว่าไม่ชอบ แต่จริงๆ เราเคารพความคิดเขา ทุกคนมีสิทธิ์แสดงออกทางความคิดได้ แต่จะมีแค่ไม่กี่คน ที่เขารู้สึกว่าชอบและต้องการที่จะทำอะไรออกมา ซึ่งก็ต้องมีการคุยกันบ้าง
 

00กัสจังไปเล่นภาพยนตร์ว่าเราเป็นป๋าดันช่วยน้อง
          ไม่เกี่ยวเลย เป็นความสามารถของเขาเอง หนังแต่ละเรื่องลงทุนเยอะ การที่จะเลือกตัวละคร จึงต้องเลือกที่ความสามารถ ไม่สามารถใช้เส้นสายได้ เพราะเขาอาจไม่มีความสามารถพอในการแสดง อีกอย่างเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องแรกของกัสจังด้วย เขาเคยผ่านงานแสดงมาก่อนหน้านี้แล้ว และสิ่งหนึ่งที่ผมรู้ได้ คือทางน้องเขาค่อนข้างจะโดดเด่นในเรื่องการพูดภาษาอังกฤษคล่อง หนังทุกเรื่องที่เขาเล่นมาเป็นหนังที่มุ่งเน้นไปฉากเมืองนอก อย่าง"ไฟท์ติ้งฟิต" ถ่ายในเมืองไทยจริง แต่ว่ามุ่งเน้นไปฉายในเมืองนอก ขายตามเทศกาลหนัง อย่าง "เอเลเฟนธ์ ไวท์" ก็เป็นหนังฮอลลีวู้ด เขาก็เล่นพูดภาษาอังกฤษ ในเมืองไทยอาจไม่ประสบความสำเร็จเท่าไหร่ แต่เขามักเป็นตัวแสดงที่ได้รับ เรียกให้ไปแคสติ้งบ่อยๆเนื่องจากเขาได้ในเรื่องภาษา ส่วนเรื่องการแสดงของน้องก็โอเค แต่เรื่องที่เด่นก็เรื่องภาษานี่แหละ ซึ่งเราก็คอยให้คำแนะนำเขาเกี่ยวกับกลไกลของวงการนี้ สิ่งที่สำคัญในการอยู่ตรงนี้คืออะไร ช่วยแนะนำในฐานะที่อยู่มาก่อน
 
          ไขข้อความกระจ่างของศิลปินหนุ่มขั้นเทพไปแล้ว ทำให้รู้ว่าเขาไม่ได้มีเพียงแค่หน้าตาที่ขั้นเทพเท่านั้น แต่ความคิดความอ่านต้องบอกว่าเทพมาก

เขาคนนี้คือ.. ปกรณ์ ลัม
ชื่อเล่น : โดม
เกิด : 12 กันยายน พ.ศ. 2522
การศึกษา : ชั้นอนุบาล โรงเรียนยุคลธร ชั้นประถมศึกษา โรงเรียนเรวดี ชั้นมัธยมศึกษา โรงเรียนปาณะพันธ์ และศึกษาต่อด้าน Pyramid sound engineering school และ Expression conidia ที่ America รัฐ California เมือง San Francisco
ผลงานที่ผ่านมา : งานเพลงกับค่ายอาร์เอส งานเพลงกับค่ายแกรมมี่ ละครรักไม่มีวันตาย ละครเวทีทวิภพ ฯลฯ
ผลงานปัจจุบัน : ละครตะวันทอแสง งานอัลบั้มเดี่ยวและดูแลค่ายเพลงไอคอนนิคสตูดิโอ
.............................
(หมายเหตุ ไขความลับกับหล่อขั้นเทพ'โดม'ปกรณ์ : สกู๊ปบันเทิงวันเสาร์ เรื่อง... ดวงใจ สอาดจิตต์ / การะเกด อัศวเสนา)