เดอะ วอยซ์ไทยแลนด์มาแล้วจ้า
เดอะ วอยซ์ไทยแลนด์มาแล้วจ้า : มายาวิชั่น โดย... เทพิตา
รายการเรียลิตี้ประกวดร้องเพลงจากเมืองนอกที่ครองความนิยมนานหลายปีต้องยกให้ อเมริกัน ไอดอล และ ดิ เอ็กซ์-แฟกเตอร์ ที่ขับเคี่ยวกันน่าดู ที่บ้านเรารายการประกวดค้นหาดาวประดับวงการบันเทิงไทย เป็นการแย่งชิงกันของ 2 เวที เดอะ สตาร์ และเอเอฟ แต่เห็นทีว่าทั้งสองรายการต้องหนาวๆ ร้อนๆ เมื่อกำลังจะได้เจอคู่แข่งที่สมน้ำสมเนื้อรายการ เดอะ วอยซ์ (The Voice) เสียงจริง ตัวจริง ที่เปิดตัวไปหมาดๆ ที่ว่า เดอะ วอยซ์ ที่มีต้นกำเนิดรายการจากประเทศเนเธอร์แลนด์ พร้อมเป็นคู่ท้าชิงบรรดาแชมป์เรียลิตี้ยอดนิยมในเมืองไทย เพราะความสำเร็จของรายการนี้ที่ออกอากาศกว่า 40 ประเทศทั่วโลก แต่ละประเทศล้วนได้รับการตอบรับงดงาม ที่เมืองไทยก็ไม่น่าไกลเกินเอื้อม
แต่ที่ประสบผลสำเร็จงดงาม รู้จักไปทั่วโลกต้องอเมริกาและอังกฤษ ดังระเบิดเพราะได้นักร้องดังมาเป็นโค้ชคัดเลือกและเทรนด์ผู้ประกวดเป็นคนดังระดับแม่เหล็ก ที่อเมริกามี อดัม เลอวีน นักร้องนำวง มารูน ไฟว์, คริสตินา อากีเลรา ที่อังกฤษ มีสาวซ่า เจสซี เจย์ และ วิล ไอ แอม วง แบล็ก อายด์ พีส์ เป็นตัวเรียกแขก
เมื่อรายการประเภทเดียวกันอย่าง อเมริกัน ไอดอล และ ดิ เอ็กซ์-แฟกเตอร์ นำหน้าไปก่อน การมาทีหลังของ เดอะ วอยซ์ ก็จำเป็นที่รูปแบบรายการต้องเก๋และแหวกแนวกว่า และถือว่าทำได้เยี่ยม เพราะมีความน่าสนใจกว่าแค่การที่ผู้เข้าประกวดขึ้นร้องเพลงบนเวที โดยเน้นค้นหาศิลปินนักร้องหน้าใหม่ที่ไม่เหมือนใคร พิจารณาจากสิ่งสำคัญที่สุดของการร้องเพลง นั่นคือ เสียง เท่านั้น
เดอะ วอยซ์ แบ่งการแข่งขันเป็น 3 รอบ รอบแรก Blind Audition ก็น่าสนใจแล้วเมื่อผู้เข้าแข่งขันจะถูกคัดเลือกจากเสียงร้องอย่างเดียว โดยเหล่าโค้ชจะนั่งหันหลังให้ผู้แข่งขัน และเมื่อได้ยินเสียงร้องที่ถูกใจ โค้ชจะกดปุ่มเพื่อหมุนเก้าอี้หันหน้ากลับมาหาผู้แข่งขันเพื่อรับเข้าสู่ทีม เมื่อเหล่าโค้ชรวมสมาชิกในทีมครบแล้ว โค้ชจะพัฒนาทักษะ ให้คำปรึกษาด้านการขับร้องแก่ผู้แข่งขัน
จากนั้นผู้แข่งขันจะเข้าสู่รอบ Battle ซึ่งก็น่าสนใจเมื่อโค้ชจะจับคู่ลูกทีมมาประชันการร้องเพลงเดียวกันต่อหน้าผู้ชมในสตูดิโอ และโค้ชจะเป็นผู้ตัดสินว่า ใครจะอยู่ หรือใครจะไป...
ปิดท้ายด้วยรอบ Live Show ที่ผู้แข่งขันแต่ละทีมจะประชันกับผู้แข่งขันทีมอื่นในการแสดงที่ถ่ายทอดสดทั่วประเทศ โดยผู้ชมทางบ้านจะลงคะแนนโหวตเพื่อเลือกผู้แข่งขันที่ชื่นชอบให้เข้ารอบ และโค้ชเองก็เลือกผู้ผ่านเข้ารอบต่อไปเช่นกัน จนถึงรอบสุดท้ายโค้ชแต่ละคนจะเหลือผู้แข่งขันคนเดียว และผลตัดสินสุดท้ายจากการโหวตทั่วประเทศหลังการแสดงถ่ายทอดสด จะกำหนดว่าใครคือ The Voice เสียงจริง ตัวจริง
ดูจากรูปแบบแล้วน่าสนใจเมื่อซับซ้อน น่าลุ้น น่าตื่นเต้นกว่า เดอะ สตาร์ และ เอเอฟ เมื่อทุกประเทศดัง การมาของ The Voice เสียงจริง ตัวจริง ฉบับประเทศไทย ที่มาในคอนเซ็ปต์ ปิดตา เปิดใจ ใช้หู จึงต้องไม่น้อยหน้า โดยทุ่มทุนสร้างด้วยเงิน 180 ล้านบาท ด้วยการจับมือกันของ 3 พันธมิตรอย่าง ทรู มิวสิค ที่ได้ลิขสิทธิ์, โต๊ะกลม ในเครือ เวิร์คพอยท์ ที่เป็นฝ่ายโปรดักชั่นผลิต และ ช่อง 3 ที่รับหน้าที่การออกอากาศ ดูจาก 3 ประสานในการทำงานแล้ว เดอะ วอยซ์ ประเทศไทย น่าจะออกมาดี ไม่ขี้เหร่
ที่ถูกจับตามองที่สุดเห็นจะเป็นการคัดเลือกโค้ชของรายการนี้ ซึ่งการเปิดตัว 4 โค้ชอย่าง เจนนิเฟอร์ คิ้ม, “ก้อง” สหรัฐ, โจอี้ บอย และ “แสตมป์” อภิวัชร์ ถือว่าน่าสนใจอยู่มาก เมื่อแต่ละคนล้วนมีฝีมือเป็นที่ประจักษ์ในแบบเป็นตัวเอง แถมยังต่างสไตล์กันด้วย น่าจะเพิ่มความสนุกให้รายการมากขึ้นอีก รับรองลีลาแต่ละคนที่ไม่มีใครเหมือนและไม่เหมือนใครต้องเป็นจุดขายสำคัญของรายการแน่
แค่เปิดตัวแถลงข่าวก็ได้รับความสนใจโดยเฉพาะแฟนคลับรายการแนวนี้มากแล้ว เมื่อ เดอะ วอยซ์ ฉบับเมืองไทย ออกอากาศจริงตอนเดือนกันยายน เราคงได้กลับมาพูดถึงอีกครั้งว่าตัวรายการจะกระหึ่มในแบบที่ประเทศอื่นๆ เคยทำไว้หรือเปล่า และจะสมราคาคุยของผู้ผลิตว่าต้องเจ๋งแน่ๆ ได้หรือไม่
.............................
(หมายเหตุ เดอะ วอยซ์ไทยแลนด์มาแล้วจ้า : มายาวิชั่น โดย... เทพิตา)