บันเทิง

ครูเพลงโวยใช้สัญญากำกวมหวังฮุบลิขสิทธิ์

ครูเพลงโวยใช้สัญญากำกวมหวังฮุบลิขสิทธิ์

24 ก.ย. 2555

ครูเพลงอีสานโวยบริษัทเพลงใช้สัญญากำกวมหวังฮุบลิขสิทธิ์

          2 ครูเพลงอีสาน สุรินทร์ ภาคศิริ-ครูพงษ์ศักดิ์ จันทรุกขา ติงสัญญาซื้อขายเพลงค่ายใหม่ๆ กำกวมครูเพลงเสียเปรียบซ้ำอาจถูกหลอก
 
          สุรินทร์ ภาคศิริ ครูเพลงชื่อดังกล่าวถึงกระแสความนิยมการนำเพลงเก่ามาทำขายใหม่ของบรรดาค่ายเพลงทั้งเก่าและใหม่ในระยะนี้ว่า
 
          “ช่วงนี้เพลงลูกทุ่งอมตะในอดีตหลายค่ายนำมาทำใหม่เยอะ การนำเพลงลูกทุ่งเก่ามาทำใหม่นั้น ถ้าเป็นบริษัทเพลงที่เคยทำกันมาเป็น 10 ปีเรื่องสัญญาลิขสิทธิ์การซื้อขายไม่ค่อยมีปัญหา แต่บริษัทใหม่ตอนนี้พบว่ามีปัญหาเรื่องความเข้าใจในการซื้อขายกันมาก บางทีค่ายเพลงใหม่ๆ พวกนี้ร่างสัญญาไม่ค่อยถูกต้อง กำกวม และเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ด้วย หลายบริษัทที่ผมเห็นอยากจะเตือน นักแต่งก็ก่อนที่จะเซ็นสัญญาก็ต้องดูให้รอบคอบ บริษัทใหม่ๆ มีใจที่บริสุทธิ์ก็ต้องตรวจสอบสัญญาของตัวเองให้ถูกต้อง ควรดูสัญญาต้นแบบจากค่ายเพลงที่เขาตั้งกันมานานๆ เขามีตัวอย่างให้ดู"
 
          ผู้สื่อข่าวถามถึงสัญญาที่ว่ากำกวมไม่ชัดเจนนั้นเป็นอย่างไร ครูเพลงคนดังอธิบายว่า
          “อันหนึ่งที่เป็นปัญหาบางข้อเป็นลักษณะขออนุญาตใช้สิทธิ์ คำว่าขออนุญาตใช้สิทธิ์ 1 ต้นแบบหรือ 1 มาสเตอร์คุณก็ครองมาสเตอร์นี้ที่คุณลงทุนไปตลอด แต่บางข้อกลับมีข้อความว่า "ห้ามคนแต่งไปขายให้กับคนอื่นอีกไม่ได้” จุดนี้ไม่ได้ ลักษณะแบบนี้มันเป็นการซื้อขาดแล้ว เพลงคือทรัพย์สินทางปัญญา ต้องระบุว่าคำร้อง-ทำนองในเพลงเป็นของผู้สร้างสรรค์หรือเป็นของนักแต่งในสัญญาทุกบริษัทเป็นแบบนี้”
 
          ผู้สื่อข่าวถามต่อว่าสัญญาลักษณะแบบนี้มีมากน้อยแค่ไหน และจะแนะนำหรือหาทางออกอย่างไร ครูเพลงเจ้าของเพลง "ลูกทุ่งคนยาก" บอกว่า
          “ทีแรกผมไม่เห็นใบสัญญาครูพงษ์ศักดิ์ จันทรุกขาเป็นคนนำมาให้ผมดู โดยบอกว่าข้อปลีกย่อยที่บริษัทนั้นทำมาครูรับไม่ได้เพราะบอกว่าถ้าขายให้เขาแล้วไปขายให้คนอื่นอีกไม่ได้ และไม่มีกำหนดเวลาลงไว้อีก สัญญาผิดหมดเลยถ้านักแต่งเพลงพลาดหลงไปเซ็นเพลงซึ่งเป็นเพลงเก่าซึ่งค่ายอื่นเขาทำมาก่อนแล้วก็คงมีการฟ้องร้องกันอุตลุด อย่างเพลง "หนาวลมที่เรณู" ผมขายมาเป็น 10-20 บริษัทแล้วถ้าผมเซ็นไป 20 บริษัทนี้มาฟ้องผมตายเลยเป็นคดีความกัน 10 ชาติก็ไม่จบ”
 
          ส่วนกรณีที่เมื่อไม่นานมานี้ มีนักร้องบางคนก็มาโกหกกับครูเพลงว่าทำเอง มาซื้อเพลงไปในราคาถูกแล้วเอาไปขายให้แก่ค่ายในราคาแพงถึงเพลงละ 2-3 หมื่นก็มีครูเคยเจอมาแล้ว ครูสุรินทร์บอกว่า
 
          “เจอเหมือนกัน ลูกศิษย์ก็มาขอซื้อเพลงในราคาถูกๆ บอกว่าจะทำเอง ครูเพลงก็ให้อยากให้ลูกศิษย์ได้ทำมาหากิน แต่พอเอาใบสัญญามากลายเป็นสัญญาไม่ใช่ของนักร้องคนนั้นกลายเป็นของบริษัทหรือเป็นของนักร้อง แต่นักร้องเป็นตัวแทนบริษัทอีกทีหนึ่ง อันนี้ผมต้องเตือนลูกศิษย์ลูกหาทุกคนว่าอย่าทำแบบนั้น นอกจากครูจะเสร็จเขาแล้วคุณก็เสร็จกับครูด้วย ถ้ามีการฟ้องร้องมันจะโดนคุณด้วย เพราะค่ายเพลงเขาคิดเอาเปรียบคุณอยู่ เวลาซื้อเพลงกับครูต้องโปร่งใสทำกับค่ายก็บอกหรือเอาใบสัญญามาให้ครูเพลงเขาดูว่ามันถูกต้องไหม ครูเพลงส่วนมากไม่รู้เรื่องกฎหมายก็เยอะ พอเห็นเงินก็รีบเซ็นไป ฝากถึงนักแต่งเพลงที่จะขายเพลงเก่าอันนี้อันตรายบางคนฐานะไม่ดีเห็นแต่เงิน เมื่อก่อนนักแต่งกับค่ายเพลงยังเป็นเพื่อนกันมีอะไรยังคุยตกลงกันได้ แต่ค่ายเพลงใหม่ๆ ว่ากันตามกฎหมาย นักแต่งอาจติดคุกถ้าไม่อ่านสัญญาให้ถ้วนถี่ ค่ายก็ต้องดูให้ดี บางคนก็ไปหลอกค่ายเพลงเอาเพลงที่มีปัญหาไปหลอกขายเขา ค่ายใหม่ถ้าไม่แน่ใจให้เข้าไปดูในเว็บไซต์ กรมทรัพย์สินทางปัญญาให้ดีเดี๋ยวต้องไปจ่ายกัน 2 ต่อ"
 
          ด้านครูพงษ์ศักดิ์ จันทรุกขา เจ้าของเพลง "อิสานบ้านของเฮา" สะท้อนปัญหาถึงเรื่องดังกล่าวว่า
          “อย่างที่ผมเจอคือสัญญามันคลุมเครือเขาระบุในสัญญาว่าต้องให้เขาเพียงผู้เดียว มันไม่ใช่ ครูก็เลยบอกไปว่าไม่ได้ หรือไม่ก็ต้องใช้สัญญากลางของสมาคมดนตรีฯ เขาก็บอกว่าไม่ได้ต้องเอาตามสัญญาเขา เขาอ้างว่าครูเพลงคนอื่นเซ็นแล้วเหลือผม ผมบอกว่าไม่ใช่ครูเรื่องมากแต่ต้องทำให้ถูกต้อง ไม่มีระยะเวลาที่ชัดเจน
 
          ลักษณะมันจะให้ขายเพียงเจ้าเดียว ขายคนอื่นไม่ได้ผมปรึกษาครูสุรินทร์ ท่านก็บอกว่าไม่ถูกต้อง ครูอธิบายให้เขาฟังหมดแล้ว เราขายให้บริษัทอื่นราคาก็ 1 หมื่นบาทต่อเพลง 1 มาสเตอร์ 1 ต้นแบบเขาขายได้ตลอด ข้อความที่ว่า "ห้ามอนุญาตขายให้คนอื่นหลังจากขายให้เขา” และคำว่า “อนุญาตให้เขาผู้เดียว” 2 อันนี้ไม่ถูก เราอนุญาตเขาใช้แค่ 1 ต้นแบบ"