สองทนายคู่หู'ประมาณ-วันชัย'ในโลกดาวเทียม

          ผู้ชมฟรีทีวีคงรู้กันดีว่า ประมาณ เลืองวัฒนะวณิช กับ วันชัย สอนศิริ สองทนายคู่หูแจ้งเกิดในรายการ 'แจ้งความ' ทางสถานีโทรทัศน์ไอทีวี ตั้งแต่ พ.ศ.2545 กับหลายรายการที่ผ่านตาคนไทยมาเนิ่นนานเช่น เคยเป็นพิธีกรรายการโทรทัศน์ ให้ความรู้และให้คำปรึกษาด้านกฎหมาย รวมทั้งเคยจัดรายการทอล์คโชว์คู่กัน
 
          ไหนจะทนายประมาณยังเคยมีรายการคนหัวหมอ หัวหมอจ้อข่าว ทางไทยทีวีสีช่อง 3 รายการร่วมมือร่วมใจทางสถานีโทรทัศน์ ITV, TITV รายการเจาะรัฐสภา ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์ช่อง 11 รายการตีข่าวเล่าความทางสถานีโทรทัศน์ ITV, TITV
 
          ปัจจุบัน ประมาณ เลืองวัฒนะวณิช และวันชัย สอนสิริ ไม่ได้จัดรายการคู่กัน แล้วตั้งแต่ปี 2550 เนื่องจากมีความเห็นทางการเมืองแตกต่างกัน
 
          "ไม่ได้โกรธกันจริงๆ ปล่อยแกไป แกจะด่าใครก็เอาเหอะ...ผมน่ะไม่มีสีเสื้อหรอก ไม่เอาสักสี แต่อาจารย์วันชัย สีเหลืองชัดเจน ชัดเจนเกินไป เราไม่ได้เกี่ยวสีอะไร สีเหลืองหรือสีแดงอะไร เราอยู่ตรงกลาง เราเป็นนักธุรกิจ นักกฎหมาย เราไม่ต้องการมีสีเสื้อ" ทนายประมาณกล่าวถึงเพื่อนคู่หู
 
          ขณะที่ "ทนายวันชัย" เป็น ส.ว. และใช้เวลาช่วยอธิบายเรื่องกฎหมายแบบภาษาชาวบ้าน ผ่านรายการ "คุยกฎหมายกับทนายวันชัย" ทางช่องบลูสกาย ทีวีดาวเทียมของคนรักสีฟ้า
 000
 
          สำหรับ "ทนายประมาณ" ยังมีตำแหน่งบทบาททางสังคมที่เกี่ยวกับกฎหมายอีกมากมาย เช่น เป็นกรรมการบริหารสภาทนายความ ประธานบริหารบริษัท อาณาจักรกฎหมาย จำกัด เป็นประธานกรรมการบริษัท สาระ มีเดีย จำกัด เป็นอาจารย์พิเศษ สอนวิชาว่าความ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง เป็นวิทยากรโรงเรียนนายอำเภอ คลองหก จังหวัดปทุมธานี ฯลฯ
 
          ที่แน่ๆ ใครที่เป็นแฟนพันธุ์แท้ทีวีดาวเทียม จะเห็น "ทนายประมาณ" ออกหน้าจอมากกว่า 20 ช่อง ในฐานะพรีเซนเตอร์โฆษณาขายเอนไซม์ยี่ห้อหนึ่ง
 
          เอนไซม์ยี่ห้อนี้่โฆษณาประชาสัมพันธ์ทางช่องโทรทัศน์ดาวเทียม เคเบิลทีวี กันครึกโครมเช้าจนดึก ดึกจนเช้าอีกที นั่นคือ ผลิตภัณฑ์ 'เจนิฟู้ดเอนไซม์' ยิ่งทำให้ช่างประหลาดใจว่า ทนายกับเอนไซม์ จะมาเกี่ยวกันได้อย่างไรหนอ?
 
          ณ สำนักงานกฎหมาย "บริษัท อาณาจักรกฎหมาย จำกัด" ย่านเพชรบุรีซอย 4 ได้มีคำตอบว่าทนายประมาณร่วมมือร่วมใจร่วมทุนกับบุรุษที่มีฉายาว่า "นายพล คนขอนแก่น" ได้อย่างไร? แถมขายดีอีกต่างหาก
 
          ถามว่าขายดีอย่างไร ก็ถึงขนาดที่ว่า 'เจนิฟู้ด' ได้เปิดช่องทีวีดาวเทียมทั้งระบบซีแบนด์ และเคยูแบนด์ 5 ช่อง คือ ช่องเย็นใจ, ช่องเบาใจ, ช่องพอใจ, ช่องเพลินใจ และช่องทนายประมาณ ทำซีเอสอาร์ประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์โดยเฉพาะ ด้วยรูปแบบการสัมภาษณ์ประสบการณ์ตรงจากผู้ใช้ผลิตภัณฑ์
 
          ด้วยความเป็นทนายหัวหมอ ทีวีดาวเทียมในเครือเจนิฟู้ด จึงต้องมีเนื้อหาเกี่ยวกับกฎหมาย ยกตัวอย่างรายการทางช่องพอใจแชนแนล ก็มีรายการ "เที่ยงวันทันกฎหมาย" มีวิทยากรหลายคนหมุนเวียนเปลี่ยนไป และห้าโมงเย็น รายการ"กฎหมายเด่นเย็นนี้"
 
          นอกจากนี้ ทนายประมาณยังเปิดสถานีทีวีดาวเทียม "ประมาณแชนแนล" ในขณะนี้ได้นำเอาคอนเทนต์ผลงานต่างๆ ที่เคยทำมามาออกที่ทำมาสิบปีมานี้มาออก และก็มีเน้นพีอาร์เจนิฟู้ดเอนไซม์ และก็จะมีช่อง "อาณาจักรแชนแนล" ที่จะออกในเดือนสองเดือนนี้ แต่กำลังทดลองออกอากาศ เป็นรายการกฎหมายเหมือนกัน
 
          แถมยังเป๋าตุง ถึงขนาดลงเล่นสปอร์ตมาร์เก็ตติ้ง ด้วยการเข้าช่วยเหลือสโมสรฟุตบอล ปลาทูคะนอง เจนิฟู้ด สมุทรสงคราม เอฟซี ซึ่งจากที่เคยหนุนไปเท่าไหร่ ไม่ทราบแน่ชัด แต่ตัวเลขล่าสุด นายพล คนขอนแก่น ผู้นี้ เพิ่งควักไป 50 ล้านบาท! ให้สโมสรเข้าพกเข้าห่อไว้เตรียมการทำทีมในฤดูกาลหน้า
 
          ซึ่งเรื่องนี้ ยังได้เชื่อมโยงไปถึงคำถามที่ว่า ทำไมสินค้าจึงได้รับตราอันทรงเกียรติของ มูลนิธิมิราเคิล ออฟไลฟ์ ในทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ที่ปรากฏอักษรย่อ MOL ประทับอยู่บนฉลากผลิตภัณฑ์เอนไซม์เจนิฟู้ด อีกด้วย
 
          นอกจากนี้ ยังมีคำถามเช่นว่า กับสินค้าประเภทที่มีเรื่องกับ อย. (สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา)ไปแล้ว ด้วยข้อหาโฆษณาเกินจริง จะมีผลอะไรกับภาพลักษณ์ความน่าเชื่อในฐานะนักกฎหมาย ที่สั่งสมมาเนิ่นนานหรือไม่
 
          "มี อย.รับรองอยู่แล้ว พอนายพล คนขอนแก่น เขามาหาเรา ก็เอาผลิตภัณฑ์มาให้เราลองกินด้วย เราลองกินไปเรื่อยๆ เฮ้ย มันดีจริงแฮะ แล้วลูกสาวเป็นภูมิแพ้ เป็นโรคประจำอยู่แล้ว เราก็เลยให้เขากิน ลูกสาวคนโต แล้วคิดดู ลูกสาวจบนิติศาสตร์ ปริญญาตรีจากเอแบคมันจะเชื่อเราไหม เจนิฟู้ดเอนไซม์ (หัวเราะ) มันจะเชื่อแต่หมออย่างเดียว"
 
          แต่ในแง่ภาพลักษณ์ของเราเป็นนักฎหมาย ทนาย มีความน่าเชื่อถือ แล้วมาเล่นตลาดสินค้าขายตรงที่บางคนไม่ให้ความเชื่อถือแบบนี้ เป็นยังไง
 
          "ยังไงเราก็ยังเป็นนักกฎหมายในสายตาของประชาชนอยู่แล้ว เพราะว่าเราก็ยังทำรายการเกี่ยวกับกฎหมาย ตอบกฎหมายช่วยประชาชนอะไรต่างๆ ทีนี้ ผลิตภัณฑ์ตัวนี้ พอเราเห็นว่ามันดีปั๊บ เราก็อยากจะเอาของดีๆ ไปเผยแพร่สู่ประชาชน ถามว่าประชาชนกลุ่มหนึ่งเชื่อ ประชาชนกลุ่มหนึ่งไม่เชื่อ มันก็เป็นเรื่องธรรมดา"
 
          ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ทนายประมาณยังย้ำว่า "ถ้ามันไม่ดีจริงเราก็ไม่กล้าเอาชื่อเสียงของเรามายุ่งกับมันหรอก ชื่อเสียงไม่ได้สร้างกันง่ายๆ สร้างยาก แล้วตอนนี้ เจนิฟู้ดเราก็เป็นเครือข่ายกับมูลนิธิมิราเคิลออฟไลฟ์ด้วยนะ"
 
          ทั้งหมดนี้คือวิถีของ "สองทนายคู่หู" คนดัง ที่เริ่มจากฟรีทีวี แล้วก็มาแยกทางกันในหน้าจอดาวเทียม โดยทนายวันชัยเผยแพร่ความรู้กฎหมายผ่านจอฟ้า ส่วนทนายประมาณจ้อผ่านจอเขียวขายเอนไซม์สถานเดียว
.......................................
(หมายเหตุ สองทนายคู่หู'ประมาณ-วันชัย'ในโลกดาวเทียม : คอลัมน์ โลกไร้เสา)