บันเทิง

สึนามิ..พังงา(หาใช่ภูเก็ตไม่)ใครไม่ได้ดูก็น่าเสียดายนะ

สึนามิ..พังงา(หาใช่ภูเก็ตไม่)ใครไม่ได้ดูก็น่าเสียดายนะ

04 ธ.ค. 2555

"สึนามิ..พังงา (หาใช่ภูเก็ตไม่) ใครไม่ได้ดูก็น่าเสียดายนะ" : คอลัมน์ หนุ่ยรู้-โลกรู้ โดย... หนุ่ย พงศ์สุข หิรัญพฤกษ์@nuishow

          สุดสัปดาห์ที่ผ่านมาผมได้กลับเข้าโรงภาพยนตร์ในรอบปีที่ตีตั๋วเสียตังค์เอง จ่ายไป 680บาทเนาะๆ เทียนทอง เมียตาเขียวค้อนขวับว่าเหตุใดไม่ใช้บัตรฟรีที่มี ผมบอก "หนังเค้าฟอร์มยักษ์-สร้างยาก..เราน่าจะจ่าย"

          และก็เป็นไปตามคาด "The Impossible" หรือชื่อไทยที่ตั้งผิดพิกัด ท้องเรื่อง "2004 สึนามิภูเก็ต" เป็นหนังดีจริง! สร้างออกมาได้ "จริงมาก" อย่างน่าอัศจรรย์ฝรั่ง (สเปน) นำทีมถ่ายทำกลับมาถ่ายทอดเหตุการณ์มหาวิปโยค ณ เขาหลัก จ.พังงา ในเช้าวันที่ 26 ธันวาคม 2004 ได้อย่างน่าเหลือเชื่อ จนน่าสงสัยมากว่าพวกเขา "เซตอัพฉากเหล่านี้ขึ้นมาได้อย่างไร?" (หรือเขาต้องทำลายบ้านเมืองเราพังอีกรอบ!?)

          ฉากคลื่นยักษ์ถล่มโรงแรมเดอะออร์คิดในเขาหลัก พูดแบบทิ่มๆ พูดไปเลยก็คือเขาใช้ CG แน่นอน (Computer Generated) เทคนิคแห่งยุคสมัยที่เห็นมาแล้วหลายครั้งในหนังฮอลลีวูดฟอร์มยักษ์ แต่ครั้งนี้มีเศษซากดิน, ทราย, ไม้, ซากปรักหักพังมากับน้ำด้วย เขาก็ทำได้เนียนตามากๆ มีรายละเอียดในภาพจำนวนมากที่นักคอมพิวเตอร์กราฟฟิกคงต้องทำงานกันนิ้วหงิก-ตาแตก

          อีกฉากที่น่าทึ่งที่เซตกันได้คือฉากความวุ่นวายในโรงพยาบาลตะกั่วป่า เป็นการเซตฉากที่ใหญ่มากและทำซ้ำความวุ่นวายในช่วงโกลาหลนั้นออกมาได้อย่างน่าทึ่ง ทำเราผู้รู้เห็นแต่ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ขนลุกตลอดเรื่อง

          ที่ผมเล่าๆ ให้ท่านฟังอยู่นี้..ไม่ใช่หนังฮอลลีวูดครับ มันไม่ได้ถูกสร้างโดย 6 สตูดิโอดังที่เรารู้จัก แต่สร้างโดย "เงินสเปน" และ "คนสเปน" ผู้กำกับชื่อ "ฮวน อันโตนิโอ บาโยน่า" ที่ผ่านการสร้างหนังใหญ่มาเพียง 1 เรื่องเท่านั้น แต่เพียงเรื่องแรกของเขาในปี 2007 ก็กวาด 7 รางวัลโกย่า (ออสการ์ของสเปน) และเป็นหนังทำรายได้สูงสุดในปีนั้นของประเทศสเปน (อัจฉริยะแต้ๆ..ทำแค่เรื่องแรก) สำหรับเรื่องที่ 2 "The Impossible" นี้ เขาบอกว่าไม่ได้ต้องการสร้างหนังหายนะ แต่ต้องการตั้งคำถามกับทุกคนว่าคุณมีชีวิตอยู่เพื่ออะไร? เขาต้องการพูดถึงคุณค่าของความเป็นมนุษย์ที่ทรงพลังมากกว่าโศกนาฏกรรม (..นายพูดได้หล่อมาก!)

          สเปนทำหนังให้คนทั้งโลกดู ก็ใช้กลยุทธ์เดียวกันกับหนังฝรั่งเศสของลุคเบซองคือ "เอาดาราฮอลลีวูดมาเล่น.. คนทั้งโลกจึงจะหันมาดู!" นักแสดงนำของเรื่องนี้ชื่อชั้นระดับบล็อกบัสเตอร์ Ewan McGregor (ชื่อเขาออกเสียง "ยวน" นะครับ เป็นวิธีการสะกดแบบสกอตแลนด์ที่อังกฤษให้การยอมรับ) อีกนางคือ Naomi Watts สาวผมบลอนด์ที่คิงคองต้องการ

          เรียกว่าสเปนตีโจทย์แตกครับ "ดาราเป็นคนเชิญแขกให้หนัง" เอาดาราดังของเขาเองเล่นแต่โลกไม่รู้จัก ก็จบ..

          ดาวรุ่งเด็กอีก 1คนที่น่าจับตามองคือ Tom Holland รับบท "ลูคัส" ไอ้หนูคนนี้เล่นเก่งมาก ตรวจสอบประวัติจาก IMDB พบว่ายังสดซิงเหลือเกินในเส้นทางการแสดงหนัง แต่แท้จริงแล้วเด็กคนนี้รับบทเป็น "Billy Elliott" ในโปรดักชั่นละครเวทีของอังกฤษมานานกว่า 4 ปี ..มิน่าถึงเก่งขนาดนี้นะ!

          หนังถ่ายทำในประเทศสเปนส่วนหนึ่งและบินมาถ่ายทำฉากใหญ่ในสถานที่จริงเช่น โรงแรมเดอะออร์คิด เขาหลัก และโรงพยาบาลตะกั่วป่า จ.พังงา

          มีนักแสดงไทยร่วมด้วยหลายท่านเช่นคุณพลอย จินดาโชติ, คุณโกวิท วัฒนกุล นักแสดงประกอบเป็นคนในพื้นที่ที่ผ่านสึนามิมาแล้วทั้งสิ้นผลงานภาพยนตร์ชิ้นนี้ไม่มีอะไรน่าติเลย ทั้งมุมมองที่ฝรั่งสะท้อนถึงคนในพื้นที่ก็ไม่ได้ทำลายภาพลักษณ์คนไทยเหมือนหนังถ่ายทำในไทยหลายเรื่อง กลับส่งเสริมน้ำใจการช่วยเหลือของคนไทยให้โลกเห็น ซึ่งถึงแม้จะบ้านๆ ไปบ้างก็เถอะนะ

          พูดสั้นๆ ว่า "ไปดูเถอะครับ" และเมื่อหนังจบคุณจะเซอร์ไพรส์เพิ่มอีก 1 เรื่องใน End Credit ซึ่งผมไม่สปอยตรงนี้หรอกครับว่าคืออะไร?

          เรื่องนี้เรตติ้ง "น.15" ในไทยครับ ผู้ปกครองควรแนะนำบุตรหลาน ฝรั่งใช้เรต PG-13 เขาจำแนกไว้ละเอียดครับว่า
- มีฉากผู้หญิงเปิดหน้าอกข้างขวาเป็นเวลา 0.5 วินาที 2 ครั้งในเรื่อง แต่ "ไม่ใช่เพื่อกามารมณ์"
- มีฉากแสดงแผลฉกรรจ์, สึนามิถล่มผู้คน, ศพจำนวนมาก, ฉากคนใกล้ตายซึ่งรบกวนจิตใจ

          ปิดท้ายเรื่องชื่อไทยของ The Impossible ที่โดนแซวมาก "2004 สึนามิภูเก็ต" คุณโอ๋ จาตุศม ลูกสาวเสี่ยเจียง เธอเป็นผู้ตั้งชื่อนี้ครับ เธอแจงว่า "ภูเก็ต" เป็นชื่อที่สื่อสารถึงเหตุการณ์สึนามิกับคนในวงกว้างมากกว่าสถานที่อื่น ..ถ้าเธอไม่กังวลถึง Mass มากนัก เธอจะตั้งว่า "2004 สึนามิเขาหลัก" .. แหมม.. จะตั้งว่า "The Impossible : สึนามิที่มิมีอาเศรษฐาร้องเพลง" ก็กระไร!
.......................................
(หมายเหตุ "สึนามิ..พังงา (หาใช่ภูเก็ตไม่) ใครไม่ได้ดูก็น่าเสียดายนะ" : คอลัมน์ หนุ่ยรู้-โลกรู้ โดย... หนุ่ย พงศ์สุข หิรัญพฤกษ์@nuishow)