สุดไฉไลกับ'แฟนธอม ออฟ ดิโอเปร่า'
เปิดศักราชใหม่สุดไฉไลกับ'แฟนธอม ออฟ ดิโอเปร่า' : สกู๊ปบันเทิง
แฟนธอม ออฟ ดิ โอเปร่า (The Phantom of the Opera) ละครเพลงที่เปิดการแสดงยาวนานที่สุดในโรงละครบรอดเวย์ โดยเพิ่งฉลองครบรอบ 25 ปีไป พร้อมฉลองความสำเร็จจากรางวัลต่างๆ ที่ได้รับมามากมายถึง 50 รางวัล ซึ่งรวมถึง 7 รางวัลโทนี่อวอร์ด และคำชื่นชมมากมายจากสื่อและนักวิจารณ์ทั่วโลก โดยหนังสือพิมพ์ "เดอะไทมส์" ถึงกับพาดหัวข่าวว่า “ของขวัญของพระเจ้าที่มอบให้วงการละครเพลง”
ความโดดเด่นที่ถูกกล่าวถึงมาตลอดระยะเวลากว่า 2 ทศวรรษของละครเพลงเรื่องนี้ คือ ความอลังการตระการตาของฉาก และเครื่องแต่งกายอันงดงามของนักแสดงที่มีมากถึง 250 ชุด ออกแบบโดย มาเรีย ยอร์นซัน ดีไซเนอร์ ประกอบกับผลงานการประพันธ์เพลงชั้นครู ของ แอนดรูว์ ลอยด์ เวบเบอร์ ในเพลง “เดอะ แฟนธอม ออฟ ดิ โอเปร่า” และเพลง “มิวสิก ออฟ เดอะ ไนท์"
แฟนธอม ออฟ ดิ โอเปร่า เป็นเรื่องราวของอัจฉริยะแห่งวงการละครเพลง ที่มีใบหน้าเสียโฉม เป็นที่รู้จักในนาม “เดอะแฟนธอม” ผู้ซึ่งคอยหลอกหลอนอยู่ส่วนลึกของโรงละครปารีสโอเปร่าเฮ้าส์ เขาลุ่มหลงในความสามารถและความงามของนักแสดงเสียงโซปราน่าสาว นามว่า "คริสติน" ที่เขาได้หลอกล่อให้เธอมาเป็นลูกศิษย์ของตัวเอง และในขณะเดียวกันเขาตกหลุมรักเธออย่างบ้าคลั่ง โดยไม่รู้ว่า คริสติน นั้นหลงรัก "ราอูล" ความลุ่มหลงนี้ ได้กลายเป็นแรงริษยา ซึ่งเป็นบ่อเกิดของเรื่องราวอันน่าตื่นเต้นและโศกนาฏกรรมความรักที่ซาบซึ้งตรึงใจ
เมื่อ "ซีเนริโอ" จับมือ "บีอีซี-เทโร" เพื่อนำสุดยอดละครเวทีระดับโลกมาเปิดการแสดงในเมืองไทย ผู้บริหารเจ้าพ่อละครเวที อย่าง "บอย" ถกลเกียรติ วีรวรรณ กล่าวถึงที่มาของละครเวทีเรื่องนี้ว่า ได้ชม “แฟนธอม ออฟ ดิ โอเปร่า ” มาเกินกว่า 20 รอบ รู้สึกซาบซึ้งประทับใจทุกองค์ประกอบที่เกิดขึ้นในละครเวทีเรื่องนี้ ไม่ว่าจะเป็นฉาก แสงสี บทเพลงอันไพเราะ ดนตรีที่ยิ่งใหญ่
"ก่อนหน้าที่ผม และ บีอีซี-เทโร จะนำ “แฟนธอม” เข้ามาแสดงก็ได้มีการพูดคุยกับทางบริษัทเขาว่า คุณจะเอาแคสติ้งที่แค่ร้องเพลงดี แต่ไม่สามารถทำให้คนดูน้ำตาไหล มาให้คนไทยชมไม่ได้นะ เพราะคนไทยจะมีอารมณ์ มีความรู้สึกกับเรื่องราวความรักค่อนข้างมากกว่าชาวตะวันตกเยอะ ก่อนหน้านี้ ผมจึงบินไปดูแคสที่เปิดการแสดงอยู่ที่ประเทศเกาหลี ซึ่งการันตีได้เลยว่า นักแสดงทีมนี้ ที่จะมาแสดงให้แฟนๆ ชาวไทยได้ชมนั้น สำหรับผมพวกเขาคือ 1 ใน “เดอะ เบส แคสติ้ง” ของ “แฟนธอม” เลยก็ว่าได้" บอยกล่าว
พร้อมเสริมต่อว่า โดยเฉพาะคนที่แสดงเป็น “แฟนธอม” อย่าง แบรด ลิตเติ้ล ที่แสดงบทนี้มาแล้วประมาณ 2 พันกว่ารอบ และทั้งนี้คุณบอยได้มีโอกาสดู แบรด ทำการแสดงมาทั้งหมด 4 ครั้ง รวมไปถึงบท “คริสติน” นำแสดงโดย แคลร์ ที่แสดงได้ดีมาก และเข้าขากันมากเช่นเดียวกัน
โดย "วิคเตอร์" เกรียงศักดิ์ ศิลากอง ผู้อำนวยการและผู้คัดสรรภาพยนตร์ของเทศกาลภาพยนตร์โลกแห่งกรุงเทพฯ และผู้กำกับละครเวที เรยา เดอะมิวสิคัล กล่าวว่า การหยิบเอานวนิยายคลาสสิก มาทำเป็นละครเวที เรียกว่ามีชัยไปกว่าครึ่ง เพราะคนยุโรปรู้สึกและมีการทำซ้ำมาแล้วหลายรูปแบบ
"โดยเฉพาะนักแต่งเพลงอย่างท่านเซอร์ แอนดรูว์ ลอยด์ ที่มีการแต่งเพลงที่ใช้ในละครเวทีเรื่องนี้มากว่า 20 ปีแล้ว ดนตรีไพเราะ ประกอบกับละครเพลงเรื่องนี้ยิ่งใหญ่ตระการตา ในลักษณะที่ว่าละครเวทีเรื่องอื่นๆ อาจจะทำไม่ได้ ผมมีโอกาสไปดูมาแล้ว 2 รอบ โดยเฉพาะฉากที่ โคมไฟระย้า จะตกลงมาใส่หัวผู้ชม มันน่าตื่นเต้นมาก" วิคเตอร์กล่าว
นอกจากนี้นี้ผู้กำกับละครเวทีชื่อดังยังบอกว่า องค์ประกอบที่ทำให้ละครเวทีเรื่องนี้ยิ่งใหญ่มากว่า 2 ทศวรรษ คงเป็นเพราะพล็อตเรื่องราว "อมตะ" มีธีมของเรื่องเป็น "คน" กับ "ผี" ที่จะมารักกันได้อย่างไร ประกอบกับพระเอกเป็นบุคคลที่ไม่มีใครต้องการ มันกระทบใจทุกคน แต่ทั้งหมดสหัวใจสำคัญคือละครเวทีเรื่องนี้ มีบทเพลงที่ไพเราะและตรึงใจผู้ชมได้มาก
ด้าน "โย" ญาณี ตราโมท นักแสดงอาวุโส ที่ฝากฝีไม้ลายมือด้านการแสดงมาแล้วทุกประเภท กล่าวถึงละครเวทีเรื่องนี้ว่า เคยมีโอกาสไปดูที่ประเทศอังกฤษและรู้สึกประทับใจ ทั้งที่ตอนนั้นนั่งอยู่แถวหลังสุด ได้ฟังภาษาของเขา ทั้งที่ไม่ได้มีความเชี่ยวชาญด้านภาษามาก แต่สามารถเข้าใจเรื่องราวได้ แม้ตัวเรื่องอาจจะซับซ้อนแต่ไม่ได้ดูยาก
"ด้วยความที่เป็นมิวสิคัล เพลงที่ไพเราะจึงเป็นสิ่งสำคัญ แต่ตามหูของเราที่เป็นคนไทย ความไพเราะของเรา อาจจะเป็นอีกรูปแบบหนึ่ง เนื่องจากเพลงของ "แฟนทอม" เป็นเพลงโอเปร่าอาจจะฟังยากไปสักหน่อย แต่จะประทับใจในส่วนของฉาก และเทคนิคต่างๆ ที่นำมาใช้ดูแล้วตระการตา มีการใช้เลเซอร์ฉายไปที่สโมค ถือว่าน่าตื่นตาตื่นใจ แต่โดยส่วนตัว ถ้าพูดถึงเรื่องความชอบ ก็ถือเป็นละครเวทีที่ไม่ได้ชอบมากกว่าเรื่องอื่นที่ได้เคยดูมา แต่หากคนที่ไม่เคยไปดู แล้วมีโอกาสได้ดู ถือว่าคุ้มและน่าจะฮือฮามาก ที่สำคัญไม่ต้องเสียค่าเครื่องบินไปดูไกลถึงเมืองนอก" โยกล่าว
"แฟนธอม ออฟ ดิ โอเปร่า" จะเปิดการแสดงที่กรุงเทพฯ ในระหว่างวันที่ 7 พฤษภคม- 9 มิถุนายน ณ เมืองไทย รัชดาลัย เธียเตอร์
.......................................
(หมายเหตุ เปิดศักราชใหม่สุดไฉไลกับ'แฟนธอม ออฟ ดิโอเปร่า' : สกู๊ปบันเทิง)