บันเทิง

'ท่าเต้น'แรงแซงหน้าเพลงลูกทุ่งยุคใหม่ใช้เบิกทางดัง

31 พ.ค. 2556

'ท่าเต้น'แรงแซงหน้าเพลงลูกทุ่งยุคใหม่ใช้เบิกทางดัง


          กระแสท่าเต้นท่า "แน่นอก" ซึ่งเป็นท่าจากเพลง "รักต้องเปิด" ของใบเตย อาร์สยาม กลายเป็นเรื่องที่ต้องกล่าวถึงอีกครั้งถึงความเหมาะสมที่หลายฝ่ายออกมาถามหาความรับผิดชอบต่อสังคม ซึ่งก่อนหน้านั้น ท่าเต้น "เกาเป้ากางเกง" ในเพลง "คันหู" ที่ร้องโดย จ๊ะ คันหู เคยเกิดขึ้นมาครั้งหนึ่งแล้ว
 
          ท่าเต้นกับนักร้องลูกทุ่งยุคนี้กลายเป็นของคู่กันไปแบบขาดไม่ได้ ทีมข่าวบันเทิง "คม ชัด ลึก" เปิดกรุท่าเต้นของนักร้องลูกทุ่งหญิง ในช่วงหลังที่ส่วนใหญ่จะมาพร้อมกับเพลงสร้างภาพจำเป็นอันดับแรกให้กับนักร้องไปแล้ว
 
          นักร้องที่มีท่าเต้นให้จดจำในช่วงแรกๆ ของยุคลูกทุ่งมิวสิกวิดีโอ คือ รุ่ง สุริยา กับเพลง “รักจริงให้ติงนัง” ซึ่งออกแบบท่าเต้นโดย ครูปิ๋ม ซีโฟร์ เพลง “เลิกแล้วค่ะ” อาภาพร นครสวรรค์ และ ดาว มยุรี ซึ่งจะต้องมีท่าเต้นใหม่ๆ ออกแบบมาให้เข้ากับเพลงนั้นๆ จนกระทั่งกลายเป็นสูตรสำเร็จ นักร้องที่มีเพลงจังหวะเร็วๆ ต้องมีท่าเต้นเป็นของตัวเองแทบทุกคน แม้แต่เพลง “มันต้องถอน” ของปอยฝ้าย มาลัยพร ก็มีท่าเต้นเป็นที่จดจำ
 
          เริ่มจาก "ธิดาแดนซ์" หลิว อาจารียา แห่งค่ายมิวสิคดี ที่เพลงทุกชุดต้องมีท่าเต้นประกอบ เพลงแรก คือ "โยกซ้ายโยกขวา" อัลบั้มชุด "บุษบาแดนเซอร์" และมาถึงเพลง "สะใภ้นายก" "คาถาขอใจ" "หัวใจมีงานเข้า" "สัปรด" และท่าเต้นหลังสุดคือเพลง "แมงมุม" ซึ่งกลายเป็นสัญลักษณ์ของเธอไปแล้ว ซึ่งเจ้าตัวบอกว่า
 
          "ที่มีท่าเต้นทุกครั้งเพราะหลิวเคยเต้นปอมปอมเกิร์ลมา เขาเลยอยากให้นำท่าเต้นมาเป็นส่วนหนึ่งให้คนจำเราได้ ท่าเต้นส่วนใหญ่ของหลิวจะดูที่ตัวเพลงแล้วคิดให้มันเข้ากัน เวลาร้องเพลงจะได้เต้นได้คนดูก็จะสนุกไปด้วย แนวเพลงของหลิวจะเป็นเพลงเร็วท่าเต้นก็สำคัญ คนดูจะสนุกกับเราได้ "
 
          ต่อกันที่ท่าเต้น ของค่ายอาร์สยามที่ระยะหลังที่ให้ความสำคัญกับท่าเต้นมากที่สุดค่ายหนึ่ง อาทิเพลง “จ้างมันเต๊อะ” เพลง “รักนะฉึกฉึก” ของ กระแต อาร์สยาม และที่เริ่มเป็นที่นิยมคือ เพลง “ชิมิ“ เพลง “เจ้าที่แรง” เพลง “โทรจิก” เพลง “สินสอดโรลแบ็ค” ของสามสาวบลูเบอร์รี่ อาร์สยาม และยังมี ลูกน้ำ อาร์สยาม กับเพลง “ลูกน้ำออกฤทธิ์” ไม่เว้นแม้แต่เพลงของ บ่าววี อาร์สยาม อย่างเพลง “ยิ่งเหย่า ยิ่งหรอย” เพลง “อิ่มใจบายท้อง” จนมาถึงเพลงที่มีท่าเต้นร้อนแรงมาตลอด อย่างเพลง “เช็คเรตติ้ง” เพลง “สกัดดาวยั่ว” เพลง “เช็ดแล้วทิ้ง(รกอก)” และที่กำลังเป็นประเด็นในเวลานี้คือเพลง “รักต้องเปิด(แน่นอก)” ของใบเตย อาร์สยาม ซึ่งค่ายอาร์สยามจะมีครูที่ดูแลท่าเต้นหลายทีม อาทิ ครูปิ๋ม ซีโฟร์ และล่าสุด เจด้า อภิสราฐ์ เพชรเรืองรอง ซึ่งที่เป็นผู้ออกแบบท่าเต้นเพลง “รักต้องเปิด(แน่นอก)”
 
          มาที่ค่ายแกรมมี่โกลด์กันบ้างท่าเต้นค่ายนี้จะออกแนวอนุรักษนิยมมากกว่าค่ายอื่นๆ ไล่มาตั้งแต่เมื่อ 16 ปีแล้วเพลง “รักคุณยิ่งกว่าใคร” ของเจ้าชายลูกทุ่ง ก๊อท จักรพันธ์ ครบุรีธีรโชติ ในอัลบั้ม “ก๊อท ลูกทุ่งไทยแลนด์” ออกแบบท่าเต้นโดย ครูเป็ด วาเนสซ่า กัณโสภณ นับเป็นเพลงลูกทุ่งเพลงแรกๆ ของค่ายที่มีท่าจำ ซึ่งทุกครั้งแดนเซอร์ทั่วๆ ไปเอาเพลงนี้ไปร้องก็ยังใช้ท่านี้อยู่เสมอ ในช่วงต่อมายังมี ไผ่ พงศธร กับเพลง “คนบ้านเดียวกัน“ ออกแบบโดยครูเทียม ไทแดนซ์ (ชุติเดช ทองอยู่) ซึ่งแนวคิดท่าเต้นเพลงนี้พื้นฐานมาจากท่าทางในการทำงานของอาชีพต่างๆ ซึ่งครูเทียม ยังได้ออกแบบท่าให้เพลง “ย่านอ้ายบ่ฮัก” ของต่าย อรทัย ที่เน้นเป็นหมู่คณะคล้ายๆ ท่าเต้นระบำแขก มีท่าจำง่ายๆ ที่เด็กเล็กเด็กน้อยก็เต้นตามกันได้ และยังมี เพลง “กลับมาแสดงตัวด่วน” ของเปาวลี พรพิมล ออกแบบโดยครูโจ้ วาไรตี้ แดนซ์ ที่ออกแบบให้มีลีลาความเป็นไทย มีจีบ มีควง สามารถเต้นตามได้ง่ายๆ และ เพลง “ขอใจเธอแลกเบอร์โทร” ของหญิงลี ศรีจุมพล ที่เน้นลีลาท่าเต้นกึ่งเซ็กซี่ ออกแบบท่าโดย ครูหวาน ไทแดนซ์