แท็กทีม7วงดนตรีมือเก๋าเปิด'เดอะพาเลซ' | คมชัดลึก

 

                     นี่คือปรากฏการณ์ครั้งสำคัญของนักดนตรีรุ่นเก๋าอย่าง “ต้น” วงศกร รัศมิทัต (วงแมคอินทอช) กลอง / นักร้องนำ “จี๊ด” สุนทร สุจริตฉันท์ (รอยัลสไปรท์ส) นักร้องนำ พีรสันติ จวบสมัย (ดิ อินโนเซ้นท์) เปียโน คีย์บอร์ด สายชล ระดมกิจ (ดิ อินโนเซ้นท์) กีต้าร์ / นักร้องนำ “จืด” มนตรี กิตติกัลป์ (ฟอร์เอฟเวอร์) เบส “อ๊อด” รณชัย ถมยาปริวัฒน์ (วงคีรีบูน) นักร้องนำ “เต้ย” รณภพ อรรคราช (วงอินคา) กีตาร์ และ “จี๊ป” วสุ แสงสิงแก้ว (วงพลอย) นักร้องนำ มาจับมือกันฟอร์มวงดนตรีใหม่กลิ่นอายยุค 80 นาม เดอะ พาเลซ (the palace) โดยไม่ขึ้นตรงกับค่ายเพลงใดๆ กับคอนเสิร์ตสุดพิเศษที่จะมาปลุกหัวใจของคุณให้เป็นวัยรุ่นอีกครั้งใน “เดอะ พาเลซ เลเจนด์ ออฟ เรโทร”

                     โดย สายชล ระดมกิจ ได้กล่าวถึงการรวมตัวของวงดนตรีนี้ขึ้นมา เพราะเคยไปร่วมร้องเพลงกับวงดนตรีรุ่นใหม่ และได้เสียงตอบรับที่ดี ทำให้คิดได้ว่ายังมีคนฟังเพลงยุค 80’s อยู่ “ผมค่อยๆ รวบรวมสมาชิกจนครบ และได้เข้าไปพูดคุยกับคุณบอย โกสิยพงษ์ ว่าควรจะตั้งชื่อวงว่าอะไร และก็สรุปใช้ชื่อ “เดอะ พาเลซ” เพราะเป็นสถานที่รวมความสุขของวัยรุ่นในยุคนั้น” สายชลกล่าว ก่อนแจงต่อว่า วงเดอะ พาเลซ ฟอร์มวงมาได้ 2 ปีแล้ว และคอนเสิร์ตที่กำลังจะมีขึ้นไม่ได้เป็นการรวมตัวกันเฉพาะกิจเหมือนคอนเสิร์ตที่ผ่านๆ มา สาเหตุที่จัดคอนเสิร์ตเพราะผู้จัดเห็นว่าวงพาเลซน่าจะมีแรงดึงดูดคนฟังพอ ซึ่งแฟนๆ จะได้ฟังเพลงสมัยก่อนจากนักร้องที่เคยร้องเพลงนั้นจริงๆ

                     ส่วนการคัดเลือกเพลงที่จะใช้ในคอนเสิร์ตซึ่ง “ต้น” วงศกร กล่าวว่า เพลงทั้งหมด เป็นเพลงที่ได้รับความนิยมอย่างแน่นอน “จำนวนเพลงที่ใช้มีจำนวนไม่ใช่น้อยๆ เอาเป็นว่าแค่วงละ 5 เพลง เพลงที่ใช้ในคอนเสิร์ตก็เกิน 40 เพลงแล้ว นี่ยังไม่รวมแขกรับเชิญอย่าง “ดำ ฟอร์เอฟเวอร์” (วิรุฬ สกุลทรัพย์ไพศาล) ที่บินตรงมาจากออสเตรเลีย และ ป๊อด โมเดิร์นด็อก (ธนชัย อุชชิน) ซึ่งเขาเป็นนักร้องที่อยู่ในยุคคาบเกี่ยวของเรา และความพิเศษอีกอย่างหนึ่งคือเราจะนำเพลงเก่าๆ มาร้อยกันเป็นแบบเมดเลย์ การแสดงคอนเสิร์ตในแต่ละครั้งเราต้องทำอะไรให้ถูกต้อง ดังนั้นไม่มีปัญหาเรื่องลิขสิทธิ์เพลงแน่นอน" ต้นยังกล่าวต่อว่า นอกจากเพลงเก่าแล้วยังมีเพลงใหม่อย่าง “ขอบคุณสวรรค์” ที่ได้ “เต้ย” รณภพ อรรคราช แต่งใหม่ทั้งเนื้อร้องและทำนอง ส่วนเพลงใหม่อื่นๆ นั้นจะมีหรือไม่ก็ต้องรอกันไปก่อนเพราะตอนนี้แต่ละคนในวงงานแน่นมาก

                     พีรสันติ จวบสมัย ยังให้ความเห็นเรื่องความแตกต่างของเพลงยุคเก่าและใหม่ได้อย่างน่าสนใจว่า “เพลงในแต่ละยุคต่างกันทางด้านดนตรีมากกว่า เพราะเพลงสมัยก่อนจะมีคำพูด ภาษา เมโลดี้ที่แตกต่างกัน แต่ก่อนผมแต่งเพลงยอมรับว่าเหนื่อยมาก เพราะเราเคยฟังแต่เพลงครูถ้อยคำต้องสละสลวย พอแต่งเพลงเองทำให้เราไม่อยากจะหนีความรู้สึกเก่ามากๆ ดังนั้นจะเหนื่อยมากที่จะต้องหาคำมาร้อยให้สัมผัส แต่การแต่งเพลงในสมัยนี้ผมมองว่าเหมือนการแต่งเรียงความมาก เรานึกอะไรก็เขียนออกมาจะสัมผัสหรือไม่ ไม่สำคัญ”

                     ในขณะที่ “จืด” มนตรี กิตติกัลป์ กล่าวเสริมว่า การแต่งเพลงสมัยก่อนจะใช้เวลานานมาก เพราะห้องอัดส่วนใหญ่จะอยู่ชานเมือง กว่าจะอัดใส่เทป 24 แทร็กเสร็จก็ใช้เวลาเป็นเดือน ซึ่งนักดนตรีจะประณีตกับงานมากเพราะไม่อยากเสียเวลามาอัดซ้ำ ซึ่งแตกต่างกับสมัยนี้สามารถอัดเพลงที่บ้านได้มันง่ายไปหมด

                     "ภาษาในยุคเก่าก็สวยงาม มันจะคล้องจองเหมือนกลอนแปด ภาษาสละสลวย ส่วนเพลงยุคใหม่มันเหมือนบทกวี ไม่มีคำสัมผัส ตอนร้องนึกภาพตามได้แต่จำไม่ได้เพราะมันไม่มีสัมผัสให้จำ และเพลงสมัยใหม่บางเพลงต้องการให้ฮิตแค่ท่อนฮุก ก็ทำให้ไปเร็ว แต่ก็ไม่ใช่เรื่องผิด ผมว่ามันเปลี่ยนไปตามยุคสมัยมากกว่า” จืด กล่าว

                     ก่อนจากกัน “ต้น” วงศกร ได้กล่าวปิดท้ายการสัมภาษณ์ครั้งนี้ว่า “เราคาดหวังว่าคนดูจะมีความสุข เพราะคนดูเขาก็คาดหวังพวกเราก่อนว่าเขาจะได้รื้อฟื้นความทรงจำในอดีต ในแฟนเพจที่ทุกคนมาคอมเม้นท์จะมีคำว่าขอบคุณตลอด ที่ทำให้เขากลับเป็นเด็ก กลับเป็นวัยรุ่นอีกครั้ง” ต้น กล่าวปิดท้าย

                     สำหรับคอนเสิร์ตครั้งนี้ บอกได้คำเดียวว่าใครพลาดแล้วจะเสียใจ เพราะเหล่าศิลปินกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า ไม่มีการทำเป็นดีวีดีออกขายย้อนหลังแน่นอน คอนเสิร์ตครั้งนี้จะจัดแสดงขึ้นในวันเสาร์ที่ 31 สิงหาคม เวลา 18.00 น. ที่ฮอลล์ 106 ไบเทค บางนา จำหน่ายบัตรทางไทยทิคเก็ตเมเจอร์ตั้งแต่วันนี้ แฟนๆ ยุคกางเกงบาน ห้ามพลาด!