บันเทิง

Eat play life:บุญคุณของ Bukta ที่มีต่อบอลโลก(ตอนที่1)

Eat play life:บุญคุณของ Bukta ที่มีต่อบอลโลก(ตอนที่1)

15 ก.ค. 2557

บุญคุณของ Bukta ที่มีต่อบอลโลก(ตอนที่1) : Eat play life โดย... นันทขว้าง สิรสุนทร

 
          หลังจากการแยกตัวออกมาจากสื่อสิ่งพิมพ์ คลับ คัลเลอร์ส ได้เพียงแปดปีเท่านั้น เว็บ historicalkits.co.uk ของเดฟก็ดูน่าตื่นตาตื่นใจมากทีเดียว อย่างไรก็ตาม มีในช่วงเวลาที่คนทั่วไปให้ความสนใจในความสง่างามของการแต่งตัวของนักเตะฟุตบอล (หรือไม่) ทางนี้กำลังอยู่บนเส้นทางที่รุ่งโรจน์ ในขณะที่ นานมาแล้ว น้อยคนนักจะสนใจ 
 
          ย้อนกลับไปช่วงทศวรรษที่ 1950 สิ่งต่างๆ นี้จะขึ้นอยู่กับการแข่ง Playfair ที่เป็นการแข่งขันก่อนฤดูกาลประจำปี และ News of the World ที่บ่อยครั้งก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสิ่งใหม่ๆ การใช้กลุ่มคำเฉพาะในเสื้อแข่งและกางเกง หรือสร้างทางเลือกให้ผู้ชมรอบสนาม ผมโชคดีประมาณหนึ่งที่ได้สนับสนุน Crewe Alexandra ทีมที่แทบไม่มีหวังใดๆ จนทำให้ผมมีเวลาดูรายละเอียดชุดกีฬาที่ผู้รักษาประตูทีมฝั่งตรงข้ามเพิ่งเปลี่ยนมา 
 
          ช่วงทศวรรษที่ 1960 ตอนนั้นผมทำงานอยู่ใจกลางเมืองลอนดอน ไม่เพียงแต่ที่นั่นจะมีแม็กกาซีนเกี่ยวกับฟุตบอลที่มีรูปภาพเยอะแยะ แต่ยังสามารถพบสิ่งที่น่าสนใจมากอย่าง Kicker Sport และ Nepes Sports ด้วย ที่นั่นถือว่าได้รับความน่าสนใจในระดับกว้างและเป็นสากลกว่า 
 
          ในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน มีหลักฐานเชื่อมโยงความสัมพันธ์จาก world soccer จดหมายกระจายออก ได้รับข้อมูลแลกเปลี่ยนกัน (ส่วนใหญ่เป็นเรื่องไม่ดี) และมิตรภาพ แต่การพัฒนาก็ยังเป็นไปอย่างเชื่องช้า การประชุมรอบๆ ประเทศถูกเฝ้าติดตาม (หนึ่งในความพยายามที่ล้มเหลวเกิดเมื่อตอนที่ผมและหนึ่งในผู้ชมนั่งอยู่ในผับที่ใช้ชื่อเหมือนกันแต่เป็นคนละร้านในหมู่บ้านที่อยู่ติดกันเป็นเวลาหลายชั่วโมง - เราหากันไม่เจอ! (แต่มันไม่เกิดจนกระทั่งมีอินเทอร์เน็ตเกิดขึ้น) 
 
          ในช่วงเวลาเดียวกันนั้น ชุดนักเตะกลายเป็นสิ่งที่มีความสำคัญมากกว่า ชนิดของวัสดุถูกให้ความใส่ใจในรายละเอียดมากขึ้น และบรรดาแฟนๆ ก็แสดงความสนอกสนใจออกนอกหน้า ความพยายามของกลุ่มคลั่งไคล้ลุ่มหลงจะสร้างของเลียนแบบมาใส่เองถูกแทนที่ด้วยเสื้อที่ส่งตรงมาจากโรงงานผลิต 
 
          ต่อมา มีทั้งเสียงวิพากษ์วิจารณ์รวมถึงเสียงฮึมฮัมแสดงความไม่พอใจและความเกลียดชังในเสื้อ เสื้อที่ไม่สวยทำให้ไม่มีความสุข สโมสรและผู้ผลิตชุดกีฬาต่างปรารถนายอดขายทะลุเพดาน ดีไซน์รุ่นใหม่ๆ มากมายถูกวางตำแหน่งสินค้าไว้ในตลาดบน เสื้อนักเตะกลายเป็นเสื้อยูนิฟอร์มวันหยุดของคนทั่วไป แต่ก็แน่นอนที่สุด อีกเหมือนกัน ไม่ใช่ว่ารสนิยมของทุกคนจะตรงกัน 
 
          ไปๆ มาๆ เสื้อบางตัวก็ไม่เป็นที่นิยม และเกิดการต่อสู้ใหม่ระหว่างกลุ่มคนนักสะสมและนักคิดนอกกรอบ แต่นั่นคือสิ่งที่เดฟบอกเรา (Bob Bickerton) 
 
          ปี 1973 บริษัท Admiral Sportswear สร้างนวัตกรรมใหม่ในการทอเส้นใยไนลอนที่ถูกลง เพื่อให้ผู้ปกครองที่ต้องการซื้อให้ลูกชายได้ในราคาที่สมเหตุสมผลขึ้น จากธุรกิจเล็กๆ ในตอนเริ่มต้นกลายเป็นตลาดระดับโลกที่มีแฟนๆ ที่เต็มไปด้วยความกระตือรือล้นที่จะมีส่วนร่วมกับทีมคอยเฝ้าดูว่ามีอะไรออกใหม่ในฤดูกาลใหม่ ส่วนสำคัญของพิธีกรรมที่เกิดขึ้นตลอดมา เป็นเรื่องถกเถียงกันว่ามีอะไรตรงไหนบ้างที่ถูกเปลี่ยนแปลงจากรุ่นก่อนหน้านี้ เรื่องที่ถกเถียงวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างสม่ำเสมอจะเป็นเรื่องชุดที่สวย และที่แย่ไม่สวย รวมถึงการตั้งคำถามกลับไปที่สโมสร ไม่มีคำจำกัดความว่าอะไรทำให้ชุดกีฬาแย่หรือไม่สวย ชุดที่มีดีไซน์สร้างสรรค์อาจถูกเขี่ยออกเวลานำเสนอในห้องห้องประชุม ในทางกลับกัน ชุดที่น่าเกลียดอาจเป็นที่นิยมถ้ามันถูกเชื่อมโยงไปสู่ความสำเร็จของทีม ความพยายามที่จะสร้างภาพพจน์สโมสรด้วยการแนะนำเฉดสีชุดที่สดใสจะได้รับการอ้าแขนรับถ้าทีมได้รับชัยชนะ แต่มันจะล้มเหลวทันทีที่ทีมพ่ายแพ้ 
 
          นอกจากนี้ การย้อนเวลาสู่อดีตถือเป็นปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่ง เสื้อในช่วงศตวรรษ 1970 และ 1980 ถือเป็นเสื้อสำหรับการสะสม เสื้อบางตัวจากช่วงก่อนหน้านี้อาจอยู่ไม่รอดด้วยสภาพเนื้อหาที่แย่ เสื้อจากการแข่งขันที่ได้รับชัยชนะในช่วงศตวรรษ 1960 และก่อนหน้านี้ถือว่าหายากมาก และมีราคาประมูลสูงมาก ปรากฎการณ์นี้ถือเป็นความน่าสนใจในประวัติศาสตร์ของเสื้อประจำสโมสรและความเชื่องโยงไปสู่ประวัติศาสตร์ ถือเป็นมรดก ซึ่งถูกพัฒนาอย่างต่อเนื่องจากศตวรรษ 1860 จนถึงปัจจุบัน 
 
          เรื่องราวเกี่ยวกับเรื่องนี้ยังมีรายละเอียดอีกมาก แต่เนื่องจากพื้นที่มีจำกัด สัปดาห์หน้ามาติดตามกันว่า พัฒนาการในเรื่องของเสื้อผ้าของนักฟุตบอลจะลงเอยเช่นไร   
 
.......................................
(หมายเหตุ บุญคุณของ Bukta ที่มีต่อบอลโลก(ตอนที่1) : Eat play life โดย... นันทขว้าง สิรสุนทร)