‘พระเอกภูธร’มากความสามารถความดีงามของ‘ปอ’ | คมชัดลึก

            การสูญเสียพระเอกชื่อดัง “ปอ” ทฤษฎี สหวงษ์ ด้วยโรคไข้เลือดออก สร้างความโศกเศร้าเสียใจให้หลายๆ คนไม่น้อย เพราะนักแสดงหนุ่มคนนี้ไม่ใช่พระเอกธรรมดาๆ คนหนึ่งเท่านั้น เขาเป็น “พระเอกตัวจริง” ของประชาชนเลยทีเดียว หากเอ่ยชื่อของปอ เชื่อว่าชื่อเสียงของหนุ่มคนนี้มีมากมายหลากหลายผลงาน สำหรับภาพลักษณ์ที่ชัดเจนทางด้านงานแสดงของหนุ่มคนนี้ คงหนีไม่พ้นบทพระเอกบ้านๆ กระทั่งปอได้รับฉายาว่า “พระเอกภูธร” โดยเฉพาะละครเรื่อง “ผู้ใหญ่ลีกับนางมา” ที่หลายคนหลงรักหนุ่มบ้านนอก เสียงเหน่อ เล่นประกบคู่กับนางเอก “พลอย” เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์ และตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา หนุ่มปอได้สร้างสรรค์ผลงานละครที่มีมาแล้วเกือบ 30 เรื่อง มีนางเอกคู่ขวัญอย่าง “แพท” ณปภา นาคประสิทธิ์ ประเดิมกับละครเรื่องแรกในยุคของ “พาวเวอร์ ทรี” จากละครเรื่อง “ลิขสิทธิ์หัวใจ” หลังจากที่คว้าตำแหน่งหนุ่มคลีโอปี 2004 มาครอง

            ไม่ใช่เพียงแค่ผลงานการแสดงเท่านั้นที่หนุ่มปอทำได้ เพราะพระเอกคนนี้ยังมีความสามารถเหลือล้น ไม่ว่าจะเป็น งานพิธีกร ร้องเพลง ละครเวที โดยเฉพาะการร้องเพลง ที่ไม่น่าเชื่อว่าหนุ่มปอผ่านการร้องเพลงประกอบละครมาแล้วหลายต่อหลายเรื่อง หรือแม้แต่ในแง่มุมการใช้ชีวิตของหนุ่มคนนี้ เชื่อว่าหนุ่มปอสามารถเป็น “แบบอย่าง” ให้เยาวชนได้ดีเลยทีเดียว โดยเฉพาะเรื่องราวการสร้างคุณงามความดี
พระเอกมากความสามารถ

            บทบาทรองลงมาจากการแสดง คือผลงานร้องเพลงประกอบละคร ที่เขาได้ฝากผลงานเพลงเพราะๆ ไว้แล้วมากมาย หลากหลายรส เริ่มต้นกันที่ เพลง “จุดใต้ตำตอ” ซึ่งหนุ่มปอได้ร้องร่วมกับ “ปุ๊ย” คืนสิทธิ์ สุวรรณวัฒกี “อ้น” ศรีพรรณ ชื่นสมบูรณ์ ต่อด้วยเพลง “ใต้ร่มมลุลี” ร้องกับนางเอกสาว “น้ำฝน” พัชรินทร์ ศรีวสุภิรมย์ และเพลง “นกเขาคูรัก” ร้องคู่กับ “บัว” สโรชา วิริยะเมตตากุล ในอัลบั้ม รวมดาว 2007 โปรเจกท์ใหญ่ในโอกาสครบรอบ 25 ปีของอาร์เอส

            นอกจากนี้ พระเอกหนุ่มยังมีเพลงของตัวเองกับเพลง อยากตะโกน และ ใครสักคน ในอัลบั้ม The Album อยากบอกต้องออกเทป แม้แต่เพลงประกอบการ์ตูน 3 มิติ เรื่อง DogGaDoop การ์ตูนแสนน่ารักเรื่องดัง หนุ่มปอก็เคยร้องมาแล้ว ซึ่งมีด้วยกันถึง 2 เพลง คือ DoggaDoop (ด๊อกกาดู๊ป) และเพลง “ปิ๊งรัก”

            รวมไปถึงเพลงลูกทุ่งและหมอลำ หนุ่มปอยังเคยร้องมาแล้วเช่นกัน ในเพลงประกอบละครเรื่อง “ดาวจรัสฟ้า” ของผู้จัด “ไก่” วรายุฑ มิลินทจินดา กับเพลงที่เว้าภาษาอีสาน ฮักสาวหมอลำ อย่าลืมอีสาน นอกจากนี้ยังมีเพลง “ขอหอมก่อนแต่ง” ที่ร้องคู่กับ ฝน ธนสุนทร รวมไปถึงเพลง “รักแท้ก็แพ้ได้” อีกด้วย

            ความสามารถด้านการร้องเพลงยังไม่หมดเพียงแค่นี้ หนุ่มปอยังมีเพลงประกอบละครเรื่อง “มนต์รักลูกทุ่ง” ในบท “คล้าว” ที่เล่นคู่กับนางเอกคู่ขวัญอีกคน “จ๊ะ” จิตตาภา แจ่มปฐม กับเพลง “สัญญาได้ไหม” ที่ร้องคู่กับนางเอกในเรื่อง นอกจากนี้ยังมีเพลง “สิบหมื่น” ที่ปอทั้งร้องทั้งเต้นได้อย่างสนุกสนาน

            ต่อด้วยเพลงประกอบละครเรื่อง “ต้มยำลำซิ่ง” หนุ่มปอได้ร้องคู่กับนางเอกในเรื่อง “ชมพู่” อารยา เอ ฮาร์เก็ต กับชื่อเพลง “ต้มยำลำซิ่ง” และเพลง “สะพานสายรุ้ง” และผลงานเพลงสุดท้ายของปอ กับเพลงที่ชื่อว่า “เพลงที่ยังแต่งไม่จบ” เพลงประกอบละครเรื่อง “สาวน้อยร้อยล้าน” ที่กำลังออกอากาศอยู่ในตอนนี้

            มาทางด้านงานพิธีกรของพระเอกหนุ่ม แม้ว่าจะไม่เห็นหนุ่มปอในด้านนี้มากนัก แต่บทบาทนี้ของเขาก็ทำได้ดี ไม่ว่าจะเป็นรายการ ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ หรือรายการ ดาราการ์ตูน และรายการ Movie Guru ที่พระเอกหนุ่มจัดคู่กับเซียนหนังอย่าง เฮนรี่ ทราน ทางช่อง 3 SD

            อีกหนึ่งบทบาทที่ปอยอมรับว่าเป็นการท้าทายนั่นก็คือการเล่นละครเวทีอิงประวัติศาสตร์เรื่อง “นางเสือง” ต่อมาในปี 2557 ปอลงเล่นละครเวทีกลางแจ้งเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เรื่อง “พระมหาชนก” โดยรับบท “พระมหาชนก” ซึ่งปอยอมรับว่าเป็นเรื่องที่ภาคภูมิใจ
คุณงามความดี

            ในมุมหนึ่งของพระเอกชื่อดัง เชื่อว่าหลายคนคงยกให้ปอเป็น “วีรบุรุษ” เลยทีเดียว เพราะจิตใจของหนุ่มปอเต็มเปี่ยมไปด้วยผู้ให้ มีจิตเป็นกุศล และใช้ชีวิตอย่างสมถะ เป็นผู้ให้ที่เริ่มจากการซื้อที่ดิน 200 ไร่ ที่บ้านเกิด จ.บุรีรัมย์ ให้พ่อ สงวน สหวงษ์ โดยใช้ชื่อไร่นี้ว่า “ไร่นาป่าสงวน” อีกทั้งแบ่งปันที่นาบางส่วนที่ซื้อไว้ให้ชาวนาละแวกนั้น เอาไปปลูกข้าวโดยไม่คิดค่าเช่า พร้อมน้อมนำเอาพระราชดำริของในหลวง ด้านการเกษตร มาเป็นแนวทางในการจัดการไร่นา เน้นทำเกษตรอินทรีย์ปลูกข้าว ทำนา ปลอดสารพิษ โดยครั้งหนึ่งปอได้โพสต์อินสตาแกรมกับภาพการปลูกข้าว พร้อมกับเขียนแคปชั่นใต้ภาพว่า “นี่่เป็นผลจากการออมน้ำตามแนวพระราชดำริครับ ในหลวงทรงมีพระราชดำริเพื่อคนไทยในทุกๆ เรื่อง รอเพียงแค่เราเริ่มต้นทำตาม ผมขอเป็นส่วนหนึ่งในผู้ทำแบบในหลวง”

            หนุ่มปอยังได้ อุปถัมภ์เด็กมูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทย อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี 2 คน ซึ่งดูแลมาประมาณ 10 ปีแล้ว โดยการให้ทุนสนับสนุนในเรื่องการเรียนหนังสือ ตอนนี้ลูกบุญธรรมของพระเอกหนุ่มน่าจะเรียนอยู่ในระดับประถมศึกษา 1 คน อายุประมาณ 7-8 ขวบ และในระดับมัธยมปลาย 1 คน อายุประมาณ 16-17 ปี

            พระเอกหนุ่มยังได้ตำแหน่งอันทรงเกียรติ “ทูตรักสัตว์ WSPA” หรือองค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลกในปี 2553 ซึ่งหนุ่มปอถือได้ว่าเป็นคนหนึ่งที่รักสัตว์ จึงได้ร่วมลงชื่อสนับสนุนโครงการดังกล่าว และในปีเดียวกันทางองค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก ก็ได้ทาบทามให้หนุ่มปอเข้ามาช่วยเหลืองาน และเมื่อปอตัดสินใจตกลง ทางองค์กรจึงได้แต่งตั้งให้เป็นทูต WSPA และได้รับพระราชทานโล่ประกาศเกียรติคุณจากพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ซึ่งหนุ่มปอยังได้รับตำแหน่งทูต WSPA คนแรกและคนเดียวของประเทศไทย

            และเมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่ หนุ่มปอยังมีจิตเป็นกุศล โดยการทำเรื่องบริจาคอวัยวะให้แก่โรงพยาบาลศิริราช ซึ่งได้โพสต์รูปถือบัตรประจำตัวผู้มีความจำนง บริจาคอวัยวะ พร้อมทั้งเขียนข้อความในไอจี @portid ว่า “ในเมื่อเราไม่สามารถใช้ได้ ก็ส่งต่อให้คนที่ต้องการใช้ดีกว่า ณ ศิริราช ครับ” แต่เมื่อพระเอกหนุ่มเสียชีวิต ทางสภากาชาดไทย ศูนย์รับบริจาคอวัยวะสภากาชาดไทย ได้โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊ก “The Thai Red Cross Society” ว่า “เนื่องจากคุณปอไม่ได้เสียชีวิตจากภาวะสมองตาย ซึ่งเป็นภาวะเดียวที่จะสามารถนำอวัยวะไปช่วยเหลือผู้อื่นได้ ทั้งนี้ ขอกุศลผลบุญที่คุณปอได้แสดงเจตนารมณ์นี้เพื่อช่วยเหลือผู้อื่น จงเป็นอานิสงส์บันดาลให้คุณปอประสบความเกษมสุขในสัมปรายภพด้วยเทอญ”

            นี่คือชีวิตของผู้ชายที่ชื่อ “ปอ” ทฤษฎี ที่แม้จะสิ้นลมหายใจ และได้จากโลกใบนี้ไปแล้วก็ตาม ทว่าความดีงามมากมายของเขาที่สร้างไว้บนโลกในนี้ จะอยู่ในใจของทุกคนอย่างแน่นอน